ปธ.กสม.โวยถูกจับเป็นตัวประกัน โต้ลือมั่ววิกฤตหนัก-ถูกชัตดาวน์
16 กันยายน 2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการสรรหา กสม. ชุดที่ 4 ที่ล่าช้าจะส่งผลกระทบให้การเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2564 ล่าช้าออกไปด้วย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โคม่าสุดขีด! แฉสูญญากาศ‘กสม.’พ่นพิษ ส่อไปต่อไม่ได้-ถูกชัตดาวน์งบ) ว่า ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด เพราะตามปฏิทินการเสนอของบประมาณ จะให้แต่ละหน่วยงานเสนอภายในเดือน ม.ค. – ก.พ. 2563 อีกทั้งขณะนี้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดกำลังร่วมกันพิจารณาแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวไม่น้อยกว่า 1 คน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป.)ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 เพื่อให้ กสม. ชุดที่ 3 (ชุดปัจจุบัน) สามารถประชุมและมีมติในกิจการต่าง ๆ รวมทั้งการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ได้ตามกำหนดเวลา
นายวัส กล่าวว่า เมื่อมีการแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวตามกฎหมายในเร็ว ๆ นี้จะทำให้ กสม. ชุดปัจจุบันมีจำนวนไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนดสามารถประชุมและลงมติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม ปกป้อง และคุ้มครองการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ โดยเฉพาะการออกรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิฯกว่า 80 เรื่อง และพิจารณารับเรื่องร้องเรียนไว้เป็นคำร้องเพื่อตรวจสอบและมอบหมายให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดำเนินการคุ้มครองสิทธิของประชาชนกว่า 60 เรื่อง ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เป็นวาระที่สะสมมาตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา และพร้อมที่จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาทันทีที่ กสม. สามารถเปิดประชุมได้
“เรื่องการสรรหา กสม.ชุดใหม่เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภา ผมไม่ขอก้าวล่วง เพราะเป็นดุลพินิจขององค์กรทั้งสอง ส่วนที่มีการอ้างแหล่งข่าวโดยไม่ระบุชื่อผู้ให้ข่าวว่า การสรรหาที่ล่าช้า จะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานในหน่วยงาน เพราะจะขาดงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายเป็นเงินเดือนพนักงานและอื่นๆ นั้น นอกจากจะเป็นข่าวที่ไม่ถูกต้องแล้ว ยังเป็นการจับสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทยเป็นตัวประกัน กดดันให้คณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภาพิจารณาผ่าน กสม.4 ซึ่งเป็นชุดถัดไปโดยเร็ว ตามวาระซ่อนเร้นของผู้ที่ออกมาให้ข่าวลอย ๆ” ประธาน กสม. กล่าว
นายวัส กล่าวด้วยว่า ปัญหา กสม. เหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง และไม่สามารถประชุมลงมติในกิจการของ กสม.ได้นั้น ในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ปัจจุบัน พรป.กสม.ปี2560 มาตรา 22 ได้บัญญัติทางออกในเรื่องนี้ไว้ โดยให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวมาเสริมเพื่อทำหน้าที่ไปพลางก่อน จนกว่าการสรรหาและแต่งตั้งตามปกติจะแล้วเสร็จ ซึ่งตนได้แจ้งให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวมากว่า 45 วันแล้ว และหวังว่าคำสั่งแต่งตั้งคงมาถึงในเร็วๆ นี้
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่น
เลขาฯป.ป.ช.แจง‘4 กสม.ชั่วคราว’ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน
4กสม.ชั่วคราวระทึก! ปมอาจต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เพื่อนฝูงเป็นห่วงกลัวได้ไม่คุ้มเสียแถมเสี่ยงติดคุกถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง วุฒิสภาได้ฤกษ์ตั้งคณะกร
“วัส ติงสมิตร” ประธาน กสม. ร่อนสารถึง “2 ประธานศาล” แจง 4 ประเด็นคำแถลงการณ์ศาลฎีกามีข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงคลาดเคลื่อน ยืนยันแต่งตั้ง กสม.ชั่วคราวล่าช้า พร้อมย้ำ ยิ่งยื้อเวลา ประเทศชาติและประชาชนได้รับความเสียหายมากยิ่งขึ้น
ประธานศาลฎีกาออกแถลงการณ์โต้ “วัส ติงสมิตร” ไม่ได้เพิกเฉยต่อการตั้งกรรมการสิทธิมนุษยชนตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมแจ้งขั้นตอนดำเนินการคัดเลือก แต่ผู้ที่ถูกทาบทาม 2 คนปฏิเสธรับตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่า นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อ
"ประธานกสม."ชี้การที่"ประธานศาลฎีกา"ไม่แต่งตั้ง"กสม.ชั่วคราว"ทำให้ประเทศและคนไทยเสียหาย รวมทั้งสถาบันสิทธิฯของชาติ ระบุ
ปธ.กสม.โต้ กระแสถูกชัตดาวน์ โอดเป็นตัวประกัน ยืนยันยังของบได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี