เปิดใจครั้งแรกหลังเก็บตัวเงียบมานาน ขวัญชัย สาราคำ อดีตแกนนำแดงอุดร ขอโบกมือลา!!!! หยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่บ้านเลี้ยงหลาน มองการเคลื่อนไหวประชาธิปไตยของเยาวชน ในวันที่ 14 ต.ค.นี้เชื่อประสบการณ์จะสอนเอง แต่ห่วงเยาวชนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
วันที่ 12 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชมรมคนรักอุดร บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา อดีตแกนนำคนเสื้อแดงจ.อุดรธานี เปิดใจครั้งแรกกับสื่อมวลชนหลังออกจากเรือนจำเมื่อ 2 ปีที่แล้วและเก็บตัวมานานไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง
โดยนายขวัญชัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ออกคุกออกมาก็ยุติบทบาททางการเมืองมาเลย สุขภาพร่างกายก็ไม่ดีจนถึงทุกวันนี้ ตาก็ไม่ดี โดนยิงครั้งล่าสุดกระทบเส้นประสาทตา ตอนนี้อยู่บ้านติดตามข่าวทางทีวีและเลี้ยงหลานอยู่บ้านเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี คนเสื้อแดงจะมีการเดินทางไปชุมนุมในวันที่ 14 ตุลานี้หรือไม่ นายขวัญชัย บอกว่า เท่าที่ติดตามดูข่าวสารทุกจังหวัดมีความตื่นตัวกันพอสมควร ประชาธิปไตยยังอยู่ในสายเลือด อุดมการณ์ชัดเจน การต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยยังอยู่ในหัวใจคนเสื้อแดงอยู่ แต่ทีนี้การขับเคลื่อนและจะมีผู้นำทีมมันไม่มี มันน้อยลงเพราะเดือดร้อน เพราะฝ่ายที่มีอำนาจจ้องจัดการกับคนเหล่านี้โดยเฉพาะแกนนำ
นายขวัญชัย บอกอีกว่า ส่วนตัวมองเรื่องการเคลื่อนไหวของเยาวชนอย่างไรบ้าง ตนมองดูว่ามันไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนคนเสื้อแดงคือความทุ่มเทและเสียสละนั้นคนเสื้อแดงมีเต็มร้อย สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวในแต่ละครั้งสมัยที่ตนนำมวลชนเคลื่อนไหวตอนนั้นต้องการรถ 20 คัน เราก็ได้ ต้องการคนจำนวนเท่าไหร่ก็หาได้ เพราะการเคลื่อนไหวในแต่ละครั้งมันคือพลังที่ยิ่งใหญ่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้ไหมว่ากลุ่มเยาวชนกลุ่มนี้ยังเป็นมือใหม่ นายขวัญชัย บอกว่า ใช่คิดว่าน่าจะเป็นแนวทางแบบนั้น แต่ต้องยอมรับว่า เขาได้บทเรียนมีการเรียนรู้เยอะเพราะเขาศึกษาจากกลุ่มคนเสื้อแดง ตอนแรกที่ออกมาอาจจะไม่ชอบใจคนเสื้อแดงเท่าไหร่ แต่พอเคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ ชุมนุมหลายๆ ครั้ง ก็เริ่มรู้แล้วว่าคนเสื้อแดงนั้นเสียสละขนาดไหน คนเสื้อแดงสู้ด้วยอุดมการณ์และความเสียสละไม่มีท่อน้ำเลี้ยง
"อย่างที่เคยติดตามข่าวสารมาชมรมคนรักอุดรจะเคลื่อนไหวเราไปตั้งโต๊ะรับบริจาคที่ทุ่งศรีเมืองได้เงินบริจาค 7-8 แสนบาท มีแต่คนมาช่วยระยะเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง ชาวบ้านเอาเงินมาช่วยบริจาคคนละ 2,000-3,000 บาท คือความเสียสละของประชาชนคนอุดรที่ทำให้ทุกคนเห็นว่า นี่คือเมืองหลวงของคนเสื้อแดงอย่างแท้จริง นี่คือสิ่งที่ห าและจะไม่เกิดอีกแล้ว รับรองว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะไม่มีเกิดขึ้นอีก"นายขวัญชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถาม มองการชุมนุมของการชุมนุมครั้งนี้อย่างไรบ้าง ตนยังไม่เชื่อมั่นว่าจะจบลงในทางที่ดีนักเพราะฝ่ายผู้มีอำนาจเขามีทั้งเงิน อำนาจ อาวุธ เพราะฉะนั้นใครที่จะแสดงความคิดเห็นอะไรในทางตรงกันข้ามของฝ่ายผู้มีอำนาจมักจะถูกติดตามถูกรังแก ตนในฐานะที่เป็นแกนนำมาก่อนและบาดเจ็บมาเยอะติดคุกมาก็เยอะ เห็นสภาพความเป็นจริงก็รู้สึกสงสารเป็นห่วงลูกหลานเยาวชนที่กำลังออกมาต่อสู้มาเคลื่อนไหว
นายขวัญชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอฝากไปยังกลุ่มเยาวชนมวลชนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้ ขอให้ใช้สติให้มาก สิ่งสำคัญที่สุด คือ อย่าจาบจ้วง วันนี้เราต้องยอมรับว่าเราเป็นประชาชนคนไทย เราอยู่ในประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะฉะนั้นเราอย่าไปจาบจ้วงล่วงเกินสถาบันพระมหากษัตริย์
"ย้อนกลับไปหลังออกจากเรือนจำหลายคนคงจำได้ ก่อนที่จะยุติบทบาทตนเองเคยจัดตั้งเวทีชมรมคนรักอุดร ชื่อเวทีว่า เวทีแดงรักเจ้า ตอนนั้นผมออกตัวชัดเจนที่สุด นี่คือสิ่งที่เราต้องเทิดทูนสถาบันไว้ อย่าให้ใครมาโจมตีเราได้ เพราะจะเป็นจุดอ่อน ผมหวังว่านักศึกษาทุกคนจะละเว้นในสิ่งเหล่านี้ เราต้องยอมรับว่าเราอยู่ในประเทศไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะฉะนั้นเราอย่าไปก้าวล่วง ขอยืนยันว่าตอนนี้ตนหยุดการเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้ว"นายขวัญกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี