‘ไพบูลย์’ชงแก้รธน. ห้ามแตะพระราชอำนาจฯทุกหมวด ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างรธน. ส.ส.ร. แทนรัฐสภา ส่วนมาตรา ‘269-272-279’ ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
26 พฤศจิกายน 2563 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ...) พ.ศ.... กล่าวว่า ตนจะเสนอต่อคณะกรรมาธิการฯให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 256/13 วรรคห้าและวรรคหก ซึ่งร่างเดิมบัญญัติว่า “การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จะกระทำมิได้” กรณีที่รัฐสภาวินิจฉัยว่าร่างรัฐธรรมนูญมีลักษณะตามวรรคห้า ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป”
นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ตนจะเสนอแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นดังนี้ การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่มีผลเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ รวมทั้งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในหมวดอื่นของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยจะกระทำมิได้ และต้องบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลให้ มาตรา 269 มาตรา 272 และมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ยังคงมีผลใช้บังคับได้ต่อไป เมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าเป็นการชอบด้วยวรรคห้าหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างรัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ไม่เป็นไปตามวรรคห้าให้ส่งร่างรัฐธรรมนูญคืนแก่สภาร่างรัฐธรรมนูญดำเนินการแก้ไข กรณีที่สภาร่างรัฐธรรมนูญไม่แก้ไขให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นเป็นอันตกไป
นายไพบูลย์กล่าวต่อ เหตุที่เสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256/13 วรรคห้าและวรรคหก เพื่อให้เป็นไปตามความห่วงใยของกลุ่มประชาชนปกป้องสถาบันฯที่ออกมาคัดค้านการตั้ง ส.ส.ร เนื่องจากห่วงกระทบพระราชอำนาจ ซึ่งตนแม้จะโหวตให้มีการจัดตั้ง ส.ส.ร. แต่มีจุดยืนที่ไม่ยอมให้มีการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจ ดังนั้น ในฐานะกรรมาธิการฯจึงเสนอให้นอกจากตามร่างรัฐธรรมนูญฯเดิม ห้ามแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์แล้ว ตนเสนอเพิ่มเติมให้ห้ามแก้ไขพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ให้ครอบคลุมในหมวดอื่นๆของรัฐธรรมนูญด้วย และ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256/13 วรรคหก เมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าเป็นการชอบด้วยวรรคห้าหรือไม่ แทนเดิม กำหนดให้รัฐสภาเป็นองค์กรวินิจฉัย
นายไพบูลย์กล่าวว่า ส่วนที่เสนอให้ต้องบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญฯฉบับ ส.ส.ร. ให้ มาตรา 269 มาตรา 272 และมาตรา 279 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ยังคงมีผลใช้บังคับได้ต่อไป ด้วยเห็นว่าคง มาตรา 269 เพื่อรักษาสิทธิ์ ส.ว. ให้ดำรงตำแหน่งครบตามวาระ ส่วนที่เสนอให้คงมาตรา 272 เหตุเพราะมีที่มาจากประชาชน 15 ล้านคน ออกเสียงเห็นชอบเฉพาะมาตรานี้ ซึ่งมีผลในระยะ 5 ปีแรกเท่านั้น และเสนอให้คง มาตรา 279 เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการดำเนินคดีเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบของนักการเมืองและข้าราชการที่ดำเนินการไปในสมัย คสช ดังนั้น ตนจะเสนอต่อคณะกรรมาธิการฯ เพื่อให้ที่ประชุมกมธฯพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 256/13 วรรคห้าและวรรคหกดังกล่าวข้างต้น เมื่อที่ประชุมกมธฯมีการพิจารณามาตราดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี