"มงคลกิตติ์"สบช่อง! งัดกฎหมายขู่"บิ๊กพปชร."ช่วย"สรัลรัศมิ์"หาเสียงระวังผิด แนะลงชื่อเป็นผู้ช่วย เหน็บมีที่ปรึกษาดี ทำอะไรต้องระวัง
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ช่วย นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หาเสียง พื้นที่ตลาดประชานิเวศน์ 1 เมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) ว่า เมื่อวานนี้ตนได้เจอกับนายอนุชา และเห็นว่ามีคนมาช่วยหาเสียงกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมองแล้วเกิน 20 คน จึงเกรงว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตนจึงได้บอกนายอนุชา และนายสมศักดิ์ ว่าควรจะไปลงชื่อเป็นผู้ช่วยหาเสียงด้วย เพราะเกรงว่าหากไม่ใช่ผู้ช่วยหาเสียงจะมีความผิดตามกฎหมาย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเรื่องรายจ่ายในการช่วยหาเสียงเลือกตั้งที่ระบุว่าต้องไม่เกิน 1,500,000 บาท เพราะหากจะมาช่วยหาเสียงและแจกโบรชัวร์จะต้องเป็นผู้ช่วยหาเสียงเท่านั้น เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่า ให้แต่ละพรรคการเมืองหาเสียงอย่างเท่าเทียมกันใช้เงินไม่เกินพรรคละ 1,500,000 บาท ต่อ 1 เขตการเลือกตั้ง ฉะนั้น จึงมีการจำกัดไม่ให้มีผู้ช่วยหาเสียงแต่ละพรรคเกิน 20 คน และเปลี่ยนได้ไม่เกิน 3 ครั้ง
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ไม่รู้ว่าวันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงได้แจ้งเป็นผู้ช่วยหาเสียงและแจกโบรชัวร์ให้กับประชาชนหรือไม่ แต่เห็นชูมือสัญลักษณ์เบอร์ 7 อยู่ หากแจกโบรชัวร์ต้องลงเป็นผู้ช่วยหาเสียง จึงขอเตือนไปยัง พล.อ.ประวิตร และรัฐมนตรีทั้ง 2 คน เพราะหากแจ้งชื่อเป็นผู้ช่วยแล้วต้องรับเบี้ยเป็นผู้ช่วยหาเสียงด้วยวันละ 315 บาท ถ้าไม่รับก็ถือว่าผิดกฎหมาย และหากรับก็ผิดกฎหมายเช่นกัน ฉะนั้น จะเดินหน้าถอยหลังก็ขอให้ระมัดระวัง เพราะเห็นว่ามีทีมที่ปรึกษาด้านกฎหมายดีก็น่าจะรอบคอบนิดหนึ่ง อีกทั้งเวลาที่แต่ละพรรคการเมืองจัดเวทีปราศรัยตามธรรมเนียมแล้ว ประชาชนเป็นของส่วนกลาง ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง ซึ่งพรรคอื่นสามารถเข้าไปแจกโบรชัวร์ได้ เพราะหากห้ามเข้าไปในพื้นที่จะถือว่าเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งและการหาเสียง
"เช่น พรรคพลังประชารัฐ จัดเวทีปราศรัย ผู้สมัครที่เหลือก็สามารถเข้าไปพูดคุยกับประชาชนและแจกโบรชัวร์ หากบอกว่ามวลชนกลุ่มนี้ พรรคตนเองจัดมาก็ต้องรวมค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งด้วย แต่หากประชาชนมาร่วมรับฟังกันเองไม่ใช่การจัดตั้ง ก็ต้องมีอิสระให้ประชาชนสามารถร่วมฟังและพูดคุยได้ทุกเบอร์ การหาเสียงต้องสามารถไปได้ทุกที่ ไม่สามารถจำกัดได้ เพราะหากมีการจำกัดก็จะผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 มาตรา 73(5) และมาตรา 71 ซึ่งมีความผิด" นายมงคลกิตติ์ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี