“ณัฐวุฒิ” ปรมาจารย์ด้านกฎหมายมหาชน ชี้ ตัวแทนพรรคเศรษฐกิจไทยพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมลำปาง เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับความศรัทธา “นายกฯ”
เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 นายณัฐวุฒิ วงศ์เนียม ปรมาจารย์ทางกฎหมายมหาชน นักกฎหมายมหาชนคนดัง ให้สัมภาษณ์ถึงมุมมองกฎหมายและเหตุผลถึงการเลือกตั้งซ่อม เขต 4 ลำปาง ที่นายเดชทวี ศรีวิชัย พรรคเสรีรวมไทย ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้คะแนน 55,638 คะแนน ชนะนายวัฒนา สิทธิวัง พรรคเศรษฐกิจไทย ที่ได้ 30,451 คะแนน และ นายพลพงศ์ พงษ์สุพัฒน์ พรรคพลังสังคมใหม่ ได้ 2,880 คะแนน ซึ่งกรณีที่พรรคเสรีรวมไทยชนะพรรคเศรษฐกิจไทยมีหลายตัวแปรคือ 1.ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองอื่นไม่ได้ส่งลงสมัครแข่งขัน ทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเหลือตัวเลือกจำกัด เพียง 3 คน ทำให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งจังหวัดลำปาง ไม่มีตัวเลือกอื่น จึงต้องมาพิจารณาตัวบุคคลมากกว่าความนิยมพรรคการเมือง 2.เขต 4 ลำปาง ฐานเสียงดั้งเดิมเป็นของพรรคเพื่อไทย แต่ผลการเลือกตั้ง นายวัฒนา สิทธิวัง พรรคพลังประชารัฐ (ขณะนั้น)ชนะการเลือกตั้ง 3.อายุสภาเหลือเวลาน้อยอยู่ในโค้งสุดท้าย ความเข้มข้นองคาพยพในการหาเสียงน้อยลง 4.การเลือกตั้งซ่อมไม่ใช่เป็นตัวแทนระหว่างฝ่ายเสรีนิยมกับอนุรักษ์นิยม เพราะพรรคเศรษฐกิจไทยไม่ชัดเจนว่า เป็นตัวแทนฝ่ายใคร
ดร.ณัฎฐ์ กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่เป็นการสะท้อนเทียบเคียงกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะคะแนนที่เทให้กับ พรรคเสรีรวมไทย เป็น เพราะคะแนนนิยมส่วนตัวและฐานเสียงพรรคเพื่อไทยเทคะแนนให้ หากมีตัวแทนพรรคพรรคการเมืองอื่นส่งลงแข่งขัน ผลคะแนนย่อมเปลี่ยนแปลงไป ทั้งพรรคเศรษฐกิจไทยประเดิมสนามแรก ประมาทเกินไป เพราะพรรคเศรษฐกิจไทย ไม่ใช่พรรคของคนล้านนา ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 4 ลำปางยังไม่อาจชี้วัดความศรัทธาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะไม่ใช่ตัวแทนของพล.อ.ประยุทธ์ หรือพรรคพลังประชารัฐ ประกอบกับผลการเลือกตั้งเพียงเขตเดียวไม่อาจชี้วัดได้ประชาชนจะเลือกข้างเสรีประชาธิปไตยหรือต้องการความเปลี่ยนแปลงแต่อาจกระทบต่อพรรคเศรษฐกิจไทยโดยตรงแพ้ในฐานที่มั่นตนเอง อีกทั้งการลงสมัครรับเลือกตั้งของตัวแทนพรรคเศรษฐกิจไทย กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ใบเหลืองและศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ทำให้นายวัฒนา สิทธิวัง ลงสมัครรับเลือกตั้งรักษาแชมป์เก่า ไม่ได้ไปในนามตัวแทนฝ่ายพรรครัฐบาล แม้จะร่วมรัฐบาล แต่ยังไม่แน่ชัดว่า พรรคเศรษฐกิจไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการหัวหน้าพรรค จะเทคะแนนให้ฝ่ายรัฐบาลในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่
นายณัฎฐ์ กล่าวว่า การที่พรรคเศรษฐกิจไทยลาออกจากตัวแทนร่วมวิปรัฐบาล ถือว่าเป็นการลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จะอ้างเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ มีผลดังนี้คือ 1.การลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลจะมีผลให้พรรคเศรษฐกิจไทยเป็นฝ่ายค้านทันที ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่มีฝ่ายค้านอิสระ เหมือน ส.ส.บางพรรคการเมืองที่ชอบแอบอ้าง ซึ่งตามรัฐธรรมนูญให้อิสระในการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่อยู่ภายใต้ครอบงำของบุคคลใด แต่การถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาลไม่ตัดสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมรัฐบาลได้อีกเพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ 2.การโหวตเสียงในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเศรษฐกิจไทยจะเทคะแนนเสียงให้ฝ่ายค้าน เมื่อนับคะแนนเสียง ไม่สามารถล้ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ ส่วนรัฐมนตรีอื่นๆ อีก 10 คน คะแนนมากน้อยกันไป แต่ฟันธง ไม่มีรัฐมนตรีใดตกเก้าอี้เพราะแพ้เสียงโหวต เพราะฝ่ายรัฐบาลกุมเสียงได้เบ็ดเสร็จ 3.การตื่นตระหนกตกใจและเสียฟอร์มในการแพ้ศึกเลือกตั้งซ่อม เขต 4 ลำปาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รีบชิงลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยอ้างเหตุผลใดก็แล้วแต่ ไม่อาจแยกได้ระหว่างการเปลี่ยนแปลงของประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยในการแยกปลาจากน้ำระหว่างฝ่ายเสรีนิยมกับอนุรักษ์นิยมเพราะประชาธิปไตยแบบไทยๆ ใครเป็นผู้นำก็ได้ที่ไม่ทุจริตเชิงนโยบาย เพราะระบอบประชาธิปไตยและนโยบายเรียกว่า “ประชาธิปไตยกินได้” เน้นการแข่งขันด้านนโยบาย 4.ผลการแพ้เลือกตั้งเขต 4 ลำปาง กระทบถึงความนิยมในพรรคเศรษฐกิจไทยโดยตรง จะทำให้ตัวแทนจากบ้านใหญ่ต่างๆ วิเคราะห์โอกาสชนะการเลือกตั้ง ย่อมอาจถอนตัว แต่ไม่ถึงกับพรรคแตก 5.ในแง่กฎหมาย การร้องคัดค้านการเลือกตั้งของนายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หมายเลข 3 พรรคเศรษฐกิจไทย กระบวนการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด ต้องเป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วย การสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 มีหลายขั้นตอนและใช้ระยะเวลาพอควร 6. ความศรัทธาในตัวผู้นำ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเข้ามาแก้ปัญหาประเทศชาติ กระแสนิยมอาจมาเทียบกับผู้นำการเมืองอื่นไม่ได้ แต่หากมองในความยั่งยืน การแก้ไขปัญหา การมีเสถียรภาพ ความมั่นคงและเศรษฐกิจ และความเด็ดขาด
"คนไทยส่วนใหญ่ทุกภาคยังเชื่อมั่นในตัวผู้นำคนนี้ หากพิจารณาถึงโครงสร้างสถาบันทางการเมือง ยังมี สมาชิกวุฒิสภา 250 คนและมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีประกอบกับสูตรหาร 500 คำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็ก ขนาดกลางฟื้นคืนชีพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีโอกาสกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง" ปรมาจารย์ทางกฎหมายมหาชน ระบุ
- 004
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี