‘สมชัย’ฟันธง‘ส.ส.พปชร.’จุดชี้ขาดร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง เดินหน้าได้หรือไม่ ย้ำคำ‘ประวิตร’สั่งส.ส.เข้าประชุม หากรัฐสภายังล่ม แสดงว่าคำพูดไร้ความหมาย ตะเพิดพ้นหัวหน้าพรรค
14 สิงหาคม 2565 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ. ... รัฐสภา กล่าวถึงการนัดประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. ก่อนจะครบกำหนดระยะเวลา 180 วันในเวลาเที่ยงคืนวันที่ 15ส.ค. ว่า มีประเด็นต้องจับตาว่าการประชุมนัดดังกล่าวจะสามารถดำเนินการประชุมได้หรือไม่ หรือจะล่มเหมือนทุกครั้ง และหากดำเนินการได้ การลงติในวาระ 3 จะเป็นเช่นไร
อย่างไรก็ดีในทิศทางยอมรับว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย คงยืนยันในวิธีการที่ไม่แสดงตนร่วมเป็นองค์ประชุม ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันจะร่วมประชุมเต็มที่ ดังนั้นคงเหลือเพียงพรรคพลังประชารัฐเท่านั้นว่าจะมีจุดยืนอย่างไร
“ผมฟังจากการสัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่พูดกับลูกพรรคให้ร่วมประชุม แปรความหมายได้ว่าให้ ส.ส.เข้าร่วมประชุม ซึ่งในวันที่ 10 ส.ค. ที่ ส.ส.พลังประชารัฐ ไม่ร่วมประชุมอ้างสาเหตุถึงการไปร่วมงานกำนันผู้ใหญ่บ้านที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่เพราะเงื่อนไขทางกฎหมาย ดังนั้นการประชุมรอบนี้ไม่มีสาเหตุที่อ้างไม่เข้าประชุมอีก ผมมั่นใจว่าหากส.ส.พลังประชารัฐ เข้าประชุมองค์ประชุมต้องครบและเดินหน้าได้ แต่หากยังมีปัญหาอีก แสดงว่าคำพูดของ พล.อ.ประวิตร ไม่มีความหมาย ไม่สมควรเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ขณะที่ ส.ว. หากพบว่าขาดประชุมต้องรับผิดชอบพอสมควร อย่างไรก็ดีตนเห็นความพยายามของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่ต้องการให้รัฐสภา ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุดไม่ให้เป็นที่ติฉินของประชาชนว่ารัฐสภาไม่ทำงาน ปล่อยกฎหมายตกไป
เมื่อถามว่าเหตุการณ์รัฐสภาล่มตอนโหวตมาตราร่างพ.ร.ป.เลือกตั้ง ทั้งที่ก่อนหน้าแสดงตนด้วยการขานชื่อมาครบ สะท้อนจุดยืนของสมาชิกรัฐสภาที่ไม่เอาสูตรหาร500 ได้หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะการตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่อทำให้จังหวะพิจารณาเสียไป หากประธานที่ประชุมขณะนั้นเฉลียวให้ประชุมต่อไม่ขานชื่อ การประชุมจะดำเนินต่อไปได้ แต่เมื่อให้ขานชื่อทำให้เวลาเสียไป 2 ชั่วโมง คนที่ขานชื่อแสดงตนลำดับต้นๆ ออกไปทำภารกิจนอกห้องประชุม แต่เมื่อขานชื่อเสร็จให้กดบัตรลงคะแนนทันที ทำให้กลายเป็นข้อขัดข้องทางเทคนิค
“ผมไม่เชื่อว่าจะไม่มีใครเอาสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยจำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ยเพราะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 ส.ค. เป็นอุบัติเหตุจากการไม่เฉลียวของคนทำหน้าที่ประธานที่ประชุมขานชื่อเสร็จให้โหวตต่อทันที ทำให้เป็นปัญหา ทั้งที่ควรแจ้งล่วงหน้าว่าเมื่อขานชื่อแล้วจะให้ลงมติ ขอให้เตรียมความพร้อม” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ว่าจะใช้สูตรหารด้วย 100 คน หรือ 500 คน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญทั้ง 2 แบบ ดังนั้นเข้าใจว่าจะไม่เป็นปัญหาในชั้น กกต. แต่ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ อาจมีประเด็นที่สามารถชี้ได้ว่า ทั้ง 2 กรณีนั้นขัดรัฐธรรมนูญ เพราะ มีถ้อยคำของส.ส.พึงมีบัญญัติไว้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี