ส่ง‘บิ๊กตู่’ชิงนายกฯ-แต่ไม่ลงสส.
‘รทสช.’โหมหนัก
‘ธนกร’มั่นใจกวาดสส.80-100คน
ดึง‘ปรีชา-บุญจง-ประจักษ์’เสริมทัพ
โต้ฝ่ายค้านอย่ามั่วปูดข่าวยุบสภา
‘บิ๊กป้อม’เพลียจัดขอลาประชุมครม.
กกต.จับตารัฐมนตรีลุยงานในพื้นที่
พบทำผิดก.ม.เลือกตั้งรายงานทันที
รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โหมหนัก เดินหน้าดึงคนเข้าพรรคล่าสุด “ปรีชา-บุญจง-ประจักษ์-เอกภาพ” กรุยทางเข้าซบ “ธนกร” มั่นใจได้สส.เกิน 80-100 ที่นั่ง คาดบิ๊กตู่ ชิงแคนดิิเดตนายกฯอย่างเดียวไม่ลงสส. ส่วน“บิ๊กป้อม”เดินสายจนเพลียขอลาการประชุมครม. นริส ประชุมครม.นัดแรก สานงานต่องาน“นิพนธ์ บุญญามณี”โวภาคใต้ประชาธิปัตย์เสียงดี เลขาธิการกกต.สั่งผอ.กกต.จังหวัดทั่วปท.จับตาความเคลื่อนไหวรมต.-ว่าที่ผู้สมัครสส.-พรรคลงพื้นที่ พบกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมายรายงานตรงทันที
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมนายกฯมีสีหน้าเรียบเฉย ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลาการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ นายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์ และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ได้ลาการประชุมเนื่องจากติดภารกิจด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ลาการประชุมครม.วันเดียวกันนี้ เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย หลังลงพื้นที่จังหวัดลำปาง และจังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามในเวลา 15.00 น.วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร มีกำหนดการงานแถลงข่าวนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ
‘นริศ’บอกประชาธิปัตย์เสียงดี
นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งแรก ในวันเดียวกันนี้ ว่า ตนได้รับมอบหมายดูแลงานเดิมของ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย อาทิ กรมที่ดิน กรมกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และการประปานครหลวง ซึ่งขณะนี้เริ่มดำเนินงานแล้ว ถึงแม้จะได้เข้ามาทำงานปลายรัฐบาลแต่ก็สามารถทำงานต่างๆได้ทัน เพราะจะสานงานต่อของนายนิพนธ์ และรัฐบาลก็มีนโยบายเป็นแนวทางการทำงานเป็นตัวกำหนดอยู่แล้ว ซึ่งระยะเวลาไม่จำเป็นต้องยาว เวลาเท่าไหร่ก็ได้ หากตั้งใจทำเพื่อประโยชน์ประชาชน
นายนริศ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดพัทลุง ของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยังได้อยู่ เพราะตนคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังครองใจชาวบ้านได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามที่หัวหน้า และเลขาธิการพรรคคาดการณ์ไว้
มั่นใจประชาธิปัตย์จะกลับมา
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจจะได้กลับมาหรือไม่ เพราะในพื้นจังหวัดพัทลุง มีการแข่งขันสูง ทั้งพรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ นายนริศ กล่าวว่า มั่นใจว่ายังจะได้กลับมา เพราะคนพัทลุงเลือกตั้งอย่างมีเหตุมีผล ตนคิดว่าคนพัทลุงยังเลือกประชาธิปัตย์กลับมาเหมือนเดิม เพราะเขาเลือกมานานแล้ว เพียงแค่รอบที่ผ่านมาไม่ได้เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า มองกระแส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำงานช่วยพรรครวมไทยสร้างชาติ ในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร นายนริศ กล่าวว่า กระแส พล.อ.ประยุทธ์ ก็ดี เมื่อถามย้ำว่า กระแส พล.อ.ประยุทธ์ แบบนี้จะเป็นการแย่งพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายนริศ กล่าวว่า กระแสนายกฯก็ชิงทุกพรรค แย่งทุกพรรค แต่กระแสจะมากจนถึงขนาดชนะการเลือกตั้ง ส.ส.เขตหรือไม่ ก็ต้องมาดูกันอีกที ซึ่งยอมรับพล.อ.ประยุทธ์มีกระแสเหมือนที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มีกระแส เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ น่ากลัวในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายนริศ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคหลักเสมอในการแข่งขันทางการเมือง จึงไม่สามารถเลือกคู่แข่งได้
‘ธนกร’ยันรทสช.กวาดสส.แตะ100คน
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.พ.ชลน่าน ศรีแก้วหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่าจะมีการยุบสภาก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ว่า ตนเคยยํ้าความเห็นส่วนตัวแล้วว่าไปแล้วว่าการยุบสภาน่าจะเกิดหลังจากที่มีการปิดสมัยประชุมสภาไปแล้ว ซึ่งสภาจะปิดสมัยในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จึงเชื่อว่ากลไกการยุบสภาน่าจะเกิดหลังจากนั้น แต่จะมีการยุบสภาอย่างแน่นอน เพราะต้องเปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้ย้ายพรรค สำหรับบรรยากาศการเมืองในวันนี้ ตนมองว่าคึกคัก อยากให้เป็นการเมืองรูปแบบใหม่ ไม่อยากให้ใช้วาทะกรรมหรือการโจมตีกันไปมา การเมืองน่าจะสร้างสรรค์กว่านี้ ไม่ควรโจมตี หรือด้อยค่าว่าคนนี้ต้องกลับไปเลี้ยงหลาน คนนี้ต้องกลับบ้าน ควรนำเสนอนโยบายเพื่อแข่งขันกันดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการไปดูฤกษ์ยามในการยุบสภาอย่างที่ น.พ.ชลน่าน ระบุหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า “ผมคิดว่าไม่จริง ผู้นำฝ่ายค้านอาจจะอยากเป็นหมอดูหมอเดาหรือเปล่า ผมก็ไม่แน่ใจ แต่สังคมไทย หากใครจะดูฤกษ์ยามก็เป็นเรื่องปกติ เพราะฝ่ายค้านเองก็คงดูมา รัฐบาลก็ดูมา อย่างเมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ได้ไปไหว้พระขอพรที่หลวงพระบาง ขอพรให้นายกรัฐมนตรีและครอบครัวมีความสุข และให้นายกฯ กลับมาทำหน้าที่อีกครั้งหนึ่ง ทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน ไม่ควรนำประเด็นเหล่านี้มาดิสเครดิต หรือโจมตีกัน มันไม่เกิดประโยชน์”
สส.แห่เข้าซบ’รทสช.’อีกเพียบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากนี้นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรค รทสช. จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงในช่วงสุดสัปดาห์ หรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ก็เป็นไปได้เพราะเวลาเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้วก็เป็นไปได้
เมื่อถามว่าคิดว่านายกรัฐมนตรี จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ด้วยหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่เข้าใจว่าไม่น่า เพราะน่าจะเป็นแคนดิเดตอย่างเดียว เมื่อถามว่า นายกฯ จะมีตำแหน่งภายในพรรค รทสช. หรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่แน่ใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกระแสข่าว นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายธนากร กล่าวว่า นายปรีชาได้โทรมาหาตนว่าสนใจจะมาทํางานร่วมกับ รทสช. โดยระบุว่าในกลุ่มมีนาย เอกภาพ พลซื่อ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายบุญจง ประจักษ์ แกล้วหาญกล้า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งตนก็ได้ต่อไปว่ายินดี แต่กระบวนการภายในพรรค รทสช. ยังมีอยู่ จึงได้ประสาน ให้ทั้งหมดไปพบกับ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. ซึ่งได้พบกันแล้วครั้งหนึ่ง และจะต้องเจอกันอีกรอบหนึ่งภายใน 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตามตนมีความคุ้นเคยกับบุคคลเหล่านี้ เมื่อครั้งที่ เดินสายร่วมกับกกลุ่มสามมิตร ดังนั้น เมื่อตนแสดงความจำนงค์ว่าจะไปอยู่กับนายกรัฐมนตรี บุคคลเหล่านี้จึงได้ประสานมา แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกลไกที่พรรคกำหนด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินว่าพรรค รทสช.จะได้กี่ที่นั่ง นายธนากร กล่าวว่า จะต้องได้มากกว่า 80-100 ที่นั่ง
“บิ๊กตู่”จ่อเยือนราชบุรี19มกราคม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 19 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีกำหนดเดินทางไปตรวจราชการในพื้นที่ จ.ราชบุรี โดยเวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากกรุงเทพมหานครถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ณ ค่ายภาณุรังษี กรมการทหารช่าง อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมีนายรณภพ เหลืองไพโรน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 16 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี และเจ้ากรมการทหารช่าง ต้อนรับ ก่อนจะเดินทางต่อโดยรถยนต์ไปยังกาดวิถีชุมชนคูบัว (ตลาดไท-ยวน) ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อเยี่ยมชมงานด้านศิลปวัฒนธรรมกาดวิถีชุมชนคูบัว จากนั้นเวลา 16.30 น.นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี อ.เมือง เพื่อเป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี มีผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรีรอต้อนรับ
ทั้งนี้ ภายหลังนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานและทำพิธีเปิดงานเสร็จสิ้น พล.อประยุทธ์จะเดินทางกลับทันทีในเวลาประมาณ 18.00น.อย่างไรก็ตาม เดิมมีรายงานว่าพิธีเปิดงานเทศกาลตรุษจีนจังหวัดราชบุรี นายกรัฐมนตรีจะเริ่มในเวลา 19.00 น. แต่เนื่องจากคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีเกรงว่าจะถูกครหาว่าเป็นเวลานอกราชการ และอาจถูกร้องเรียนว่าใช้เวลาราชการและตำแหน่งนายกฯลงพื้นที่เพื่อหาเสียง จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงเวลา อีกทั้งหลังเสร็จสิ้นงาน พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางกลับทันที โดยไม่มีการลงพื้นที่ต่อในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ที่สังกัดแต่อย่างใด
กกต.จับตานักการเมืองเคลื่อนไหว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.ได้โพสต์ข้อความในกลุ่มไลน์ผู้บริหารสำนักงานฯและผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ กำชับผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดให้ติดตามการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองและว่าที่ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งส.ส.อยากใกล้ชิด โดยมีข้อความระบุว่า “ท่าน ผอ กกต.จังหวัด ต่อจากนี้ การแข่งขันทางการเมืองน่าจะเข็มข้น และมีความถี่ยิ่งขึ้นเรื่อยๆจนถึงวันเลือกตั้ง ฝากงานสืบสวน แต่ละจังหวัด ติดตามความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ในการลงพื้นที่ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาทิ รมต. ลงไปปฏิบัติหน้าที่ นอกจากไปปฏิบัติหน้าที่แล้ว ได้สุ่มเสี่ยงหรือหมิ่นเหม่ ที่จะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ รวมทั้งว่าที่ผู้สมัครในแต่ละพื้นที่ด้วย ถ้ามีการมาปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติตน ก็ให้คำแนะนำที่ถูกต้องด้วย หากมีกรณีดังกล่าวให้รายงานอย่างไม่เป็นทางการที่ผมได้เลย เพื่อใช้ควบคุมและบริหารสถานการณ์ ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย” ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดได้รับทราบและบางจังหวัดได้มีการแจ้งความเคลื่อนไหวของขอฝ่ายการเมืองในพื้นที่ให้เลขาธิการ กกต.รับทราบด้วย
‘บิ๊กตู่’ย้ำลต.ทุกคนคิดใคร่ครวญให้ดี
ก่อนหน้านี้เมื่อ เมื่อวันที่ 16มกราคม2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและนมว.กลาโหม เป็นประธานงานวันครู ครั้งที่67 ประจำปี2566 ที่หอประชุมคุรุสภา โดยนายกรัฐมนตรีได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในช่วงนี้ที่กำลังก้าวเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยขอให้ทุกคนเดินหน้าประเทศ ใคร่ครวญให้ดี
‘วันนี้ยังมีปัญหา หากขัดแย้งกันก็ไปต่อไม่ได้ จะทำอย่างไรให้เข้มแข็ง ไม่มีใครทำได้คนเดียว รัฐบาลแก้ไขปัญหาคงไม่พอต้องทำให้ทุกคนเข้มแข็ง ตนอาจจะพูดไปเยอะนิดนึง เนื่องจากประเทศของเรามีปัญหา การเลือกตั้งขอให้ทุกคนมีความคิดใคร่ครวญให้ดีก็แล้วกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติอยู่ได้ บ้านเมืองมีเสถียรภาพ การเงินการคลังอยู่ได้ เราผ่านวันเวลาที่ยากลำบากมาของโควิดมาได้แล้ว อย่าลืมว่าเราฟันฝ่าสิ่งเหล่านี้มาได้ด้วยหยาดเหงื่อแรงกายและชีวิตที่ต้องสูญเสียไป เราจะต้องให้กำลังใจ ซึ่งกันและกัน วันข้างหน้าจะต้องจับมือเดินกันไปแบบนี้ให้ได้ การช่วยเหลือต่างๆให้มากๆเป็นไปไม่ได้ ให้ย้อนกลับไปดูว่าใช้จ่ายงบประมาณอะไรไปแล้วบ้าง ตนพูดในนามนายกรัฐมนตรี ตนเป็นห่วงในเรื่องเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องเรียนรู้การบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารการเงินการคลังของประเทศด้วยจะได้เข้าใจเสียที’
‘ชวน’ถกกม.10ฉบับ-หนุนซักฟอกเร็วขึ้น
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการประชุมสภาฯสัปดาห์นี้ว่า การประชุมสภาฯ ในวันที่ 18-19มกราคม จะไม่เหมือนกับระเบียบวาระการประชุมในสัปดาห์ก่อนหน้า คือ โดยวันที่ 18ม.ค.เป็นการประชุมระเบียบวาระปกติ ซึ่งหลังจากที่ให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือนร้อนของประชนเสร็จแล้ว ก็จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กันชง พ.ศ. … ที่ค้างคามาหลายสัปดาห์ และคืบหน้าได้วันละนิดละหน่อย เพราะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมเป็นส่วนใหญ่ ตนเชื่อว่าไม่จบภายในสัปดาห์นี้ แต่ถ้าพิจารณาจบจริง ก็จะนำร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต และร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาพิจารณาต่อ ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้เสนอขอให้เพิ่มเติมระเบียบวาระและอยากจะให้ประชุมนัดพิเศษเพื่อตั้งใจร่วมมือกันผ่านกฎหมาย โดยอยากจะให้เพิ่มการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับการประมง ซึ่งมีร่างกฎหมายที่คล้ายกัน 7ฉบับ ส่วนใหญ่เป็นร่างของสส.จากทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ดังนั้นจึงมีร่างกฎหมายที่ต้องพิจารณารวมทั้งหมด 10 ฉบับ แม้จะได้รับการตอบรับและคำสัญญาว่า จะร่วมมือกันทำกฎหมายเพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชน ก็ต้องจับตาดูว่า จะสำเร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กฎหมายเหล่านี้ไม่ได้มีความซับซ้อน นายชวน จึงไม่ยอมแพ้ และจะทำทุกวิถีทางให้กฎหมายผ่าน เพื่อให้สภาฯมีผลงานให้มากที่สุด
ส่วนการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่1 จะนัดประชุมกับวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ในวันที่ 25ม.ค.และอาจจะเชิญฝ่ายรัฐบาลมาหารือด้วย ตอนนี้รอนานไม่ได้เพราะมีเวลาจำกัด ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ที่ประชุม ทั้งนี้ นายชวน เห็นด้วยกับฝ่ายค้าน อยากให้เลื่อนการอภิปรายฯ มาก่อนวันที่ 15 ก.พ.และตนมีความเห็นส่วนตัว คิดว่าหากอภิปรายฯ ตามกำหนดที่รัฐบาลระบุ จะถือว่าค่อนข้างช้า เพราะฝ่ายค้านยื่นญัตติมาตั้งแต่เดือนธ.ค.2565แล้ว จึงควรเร่งให้เร็วขึ้น
‘ชลน่าน’ย้ำเปิดซักฟอกไม่ต่ำ22ชม.
ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) ตอบกลับว่ามีความพร้อมอภิปรายตั้งแต่วันที่ 15ก.พ.เป็นต้นไป พรรคร่วมฝ่ายค้านและผู้เสนอญัตติมองว่า เป็นเวลาที่เนิ่นนานเกินกว่าเหตุที่จำเป็น ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็เห็นด้วยว่า อภิปรายควรไม่เกิน1เดือน เมื่อเสนอญัตติไปแล้ว พรรคร่วมฝ่ายค้านจะอภิปรายครอบคลุมทุกเนื้อหาและเป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม ยาเสพติด ทุนจีนสีเทา แต่งตั้งโยกย้ายส่วนราชการ โดยมอบหมายหน้าที่ให้นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ดูเนื้อสาระอภิปราย ตั้งเป้าอยากได้เวลาไม่ต่ำว่า 22ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าครั้งที่ผ่านมา พรรคให้ความสำคัญเพราะการอภิปรายครั้งสุดท้าย เพื่อให้ประชาชนลงมติในคูหาเลือกตั้ง จะขอถอดหน้ากากคนดี ให้เห็นว่า คนดีที่แท้จริงคิดอะไร ส่วนบุคคลผู้อภิปรายต้องถูกคัดเลือก ไม่ได้ในนามสมัครใจ บุคคลที่ถูกคัดเลือกจะอภิปรายประเด็นที่เป็นประโยชน์ในการเสนอปัญหาให้ครม.
ปูด3ฤกษ์ยุบสภาฯหวังต่อท่ออำนาจ
เมื่อถามว่า กลัวรัฐบาลชิงยุบสภาฯก่อนหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นประเด็นที่วิตกพอสมควร เพราะช่วงกำหนดวันอภิปรายทิ้งเวลาเนิ่นนาน มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลจะยุบสภาฯก่อน 15ก.พ.จริงหรือไม่ต้องติดตาม โดยเฉพาะหลังวันที่ 6ก.พ.หากสส.ยังคงทำหน้าที่ต่อ โอกาสยุบสภาฯมีสูง แต่ถ้าช่วงเวลาช่วงนั้นสส.ลาออกเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือที่ย้ายพรรค โอกาสอยู่ครบเทอมเป็นไปได้สูง ได้ข่าวมาว่ามีการดูฤกษ์งามยามดีในการยุบสภา เพื่อให้ได้กลับมาสืบทอดอำนาจอีก คือวันที่ 14ก.พ. 24ก.พ.และ7มี.ค.หากตรงตามข่าวว่าจะมีการยุบสภาฯ ก่อนวันที่15ก.พ.ก็คือวันที่ 14ก.พ.ที่เป็นวันแห่งความรัก ซึ่งวันดังกล่าวอาจจะกลายเป็นวันแห่งการเกลียดแทน ต่อให้พวกท่านถือฤกษ์งามยามดี แต่ประชาชนจะพิพากษาพวกท่านในคูหาเลือกตั้ง”นพ.ชลน่านกล่าว
‘สนธิญา’เย้ย’แม้ว’เลี้ยงหลานติดคุกก่อน
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า วันนี้ตนเข้าให้ปากคำต่อ กกต.กรณียื่นคำร้องของให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ้ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่เดินทางไปพบ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง เมื่อช่วงปลายปี2565 รวมถึงจะยื่นประเด็นเพิ่มเติมกรณี น.ส.แพทองธาร ปราศรัยที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 15ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุจะพา นายทักษิณ กลับมาเลี้ยงหลานเข้าข่ายมาตรา45 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 หรือไม่ ซึ่งมีการบัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองกระทำการ หรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 92 (3) หรือไม่ ซึ่งตามมาตรา 92 เขียนไว้ชัดเจนว่า หากทำผิดในมาตราหนึ่งมาตราใดที่กำหนดไว้จะถึงขั้นยุบพรรค
หากผิดมาตรา45โทษถึงขั้นยุบพรรคพท.
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ตนเคยยื่นเรื่องให้ กกต.วินิจฉัยกรณี น.ส.แพทองธาร ไปหานายทักษิณที่ฮ่องกง เมื่อ 2-3สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้พ่อลูกสามารถไปเยี่ยมกันได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่ในสถานะผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง แล้วไปแสดงพฤติกรรมกับบุคคลที่กระทำการอันขัดต่อศีลธรรมอันดีของประเทศและประชาชนก็จะเข้าสู่กระบวนการกฎหมายที่จะต้องพิจารณาและวินิจฉัย ซึ่งตนไม่ได้บอกว่า การกระทำของ น.ส.แพทองธาร ที่ผ่านมาผิด แต่ตนร้องเพื่อให้ไต่สวนการกระทำของบุคคลที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง หรือผู้บริหารพรรคการเมือง เพราะ น.ส.แพทองธาร เป็นประธานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยและเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งถือเป็นตำแหน่งบริหารในพรรค ก็ต้องพึงระมัดระวัง เพราะหากมีการฝ่าฝืนมาตรา45 ของ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 ก็จะนำไปสู่การพิจารณายุบพรรคได้ ซึ่งวันนี้ กกต.เรียกตนมาให้รายระเอียดในเรื่องดังกล่าวและตนจะนำเรื่องการปราศรัยของ น.ส.แพทองธาร รวมเข้าไปด้วย เพื่อให้กกต.พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
“เมื่อคืนอุ๊งอิ้ง ได้ปราศรัยว่า เอาลุงกลับไป แต่เอาทักษิณกลับมา เพื่อที่จะเลี้ยงหลาน แต่ในความเป็นจริงวันนี้ไม่มีใครห้ามนายทักษิณกลับบ้าน ท่านสามารถกลับได้ตลอดเวลา แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่ชัดเจนคือ นายทักษิณ ถูกศาลพิพากษาจำคุกไปแล้ว10 ปี และยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 3-5คดี ดังนั้นประเด็นที่ว่าจะเอากลับมาเลี้ยงหลาน คงไม่ได้เลี้ยงหลาน แต่ต้องติดคุกหรือถูกดำเนินคดีก่อน” นายสนธิญา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี