จม.เปิดผนึกถึง‘ก้าวไกล’ เทพไทแนะเป็นขั้วการเมือง อย่ารอฮั้ว‘ระบอบทักษิณ’

20 พฤษภาคม 2567 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เป็นจดหมายเปิดผนึกถึงพรรคก้าวไกล “แนะนำให้เป็นขั้วการเมือง อย่ารอฮั้วกับระบอบทักษิณ” ระบุว่า...

ผมติดตามการจัดงานมหกรรมนโยบายพรรคก้าวไกล Policy Fest ครั้งที่ 1 “ ก้าวไกล Big Bang ”แล้ว อดที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับมติของพรรคก้าวไกลไม่ส่งผู้สมัครนายกอบจ. ที่จังหวัดปทุมธานีไม่ได้ เพราะรู้สึกแปลกใจว่า ทำไมพรรคก้าวไกลไม่ได้เตรียมพร้อมส่งผู้สมัครในนามพรรค  เพื่อเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องชาวจังหวัดปทุมธานี ทั้งที่การเลือกตั้งส.ส.เมื่อปี 2566 คนปทุมธานี เทคะแนนให้กับพรรคก้าวไกลอย่างถล่มทลาย กวาดที่นั่งส.ส.มาเกือบยกจังหวัด

แต่เมื่อพรรคก้าวไกลมีมติไม่ส่งผู้สมัครในนามพรรค ทำให้มวลชนที่เคยเลือกพรรคก้าวไกลรู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปลงคะแนนให้กับผู้สมัครคนใด ทำให้มวลชนหรือฐานคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกลไม่มีตัวเลือก

อยากจะนำเสนอไปยังพรรคก้าวไกลว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลคือขั้วทางการเมือง ต้องประกาศให้ชัดว่า พรรคก้าวไกลคือทางเลือกหนึ่งของประชาชน ต้องแข่งขันกับขั้วอนุรักษ์นิยมใหม่ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำหรือหัวขบวน

พรรคก้าวไกลต้องเลิกคิดที่จะเป็นแนวร่วม เป็นมิตรร่วมอุดมการณ์ หรือเป็นตัวสำรองของระบอบทักษิณ หรือหวังลมๆแล้งๆว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ระบอบทักษิณจะขัดแย้งกับกลุ่มอนุรักษ์นิยมเดิม แล้วหันกลับมาจับมือกับพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล

ในอดีตที่ผ่านมาขั้วการเมืองก็คือ การแข่งขันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย แต่ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์สิ้นสภาพการเป็นขั้วทางการเมืองไปแล้ว การเมืองไทยเดินมาสู่ขั้วการเมืองใหม่ คือระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น โดยมีพรรคของกลุ่มอนุรักษ์นิยมเป็นตัวประกอบ

พรรคก้าวไกลจะต้องเตรียมพร้อมทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา คัดตัวสรรหาคนผู้เหมาะสมลงแข่งขันในนามพรรคทุกสนาม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ยังมีการเลือกตั้งท้องถิ่นอีกหลายสนาม หลายพื้นที่ ที่พรรคก้าวไกลจะต้องแสดงความพร้อม เมื่อพลาดท่าสนามเลือกตั้งอบจ.ปทุมธานีไปแล้ว ก็ไม่ควรให้พลาดในสนามอื่นๆอีก

ถ้าหากพรรคเพื่อไทยตั้งความหวังเลือกตั้งครั้งหน้าได้ส.ส.270 คน ต้องปรับปรุงแนวทางการต่อสู้ และนำบทเรียนทางการเมืองในอดีต มาปรับปรุงแก้ไข เพื่อลบภาพความไร้เดียงสาทางการเมืองออกไปให้ได้

ผมเป็นนักการเมืองอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตยสุจริต

ผมอยากเห็นการแข่งขันทางการเมืองแบบตรงไปตรงมา ไม่มีการซื้อเสียง ไม่มีการฮั้วทางการเมืองหรือจับมือกันเพื่อประโยชน์เฉพาะหน้า และการเมืองแบบกินรวบประเทศไทย

จึงขอเสนอความเห็นมายังพรรคก้าวไกล ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรแอบแฝงทั้งสิ้น

-005