“เศรษฐา” ไม่กังวล ชื่อหลายคนจ่อนั่งนายกฯแทน หาก 14 สิงหาคมตกเก้าอี้ ยังไม่คิดปรับครม.เชื่อ “ทักษิณ”ขอบิน “ดูไบ” ไม่ใช่ไปตั้งหลัก แค่อยากไปรักษาตัว ด้าน “อนุทิน” หวานรับการนำของ “เศรษฐา” ตั้งแต่ยกมือให้ทั้งพรรค 71 เสียง ไม่คิดเสียบนายกฯแทน ย้ำเก้าอี้ผู้นำเป็นของ “พท.” ในฐานะพรรคแกนนำ เมินข่าวปรับครม.ดึงปชป.เขี่ยพปชร.บางส่วน โวรบ.เข้มแข็งอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เวลา 08.39 น. ที่ทำเนียบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ขออนุญาตศาลเดินทางไปดูไบ เพื่อรักษาตัวแต่มีคำสั่งไม่อนุญาต จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า นายทักษิณ ไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองช่วงเดือนสิงหาคม จึงจะออกไปตั้งหลักก่อนว่า ไม่แน่ใจ เพราะตนอ่านเพียงแต่ข่าวตามหนังสือพิมพ์ว่า นายทักษิณ จะไปพบแพทย์ แต่ศาลไม่อนุญาต เนื่องจากแพทย์ในประเทศไทยมีอยู่แล้วและเข้าใจว่า แพทย์ไทยมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว
นายกฯไม่กังวลคดีถออถอน14ส.ค.
เมื่อถามย้ำว่า ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองเดือนนี้ใช่หรือไม่ เนื่องจากจะมีคดีสำคัญจนอาจทำให้นายทักษิณ ต้องไปตั้งหลัก นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่น่าเกี่ยวกัน เพราะวันที่ 7 สิงหาเป็นเรื่องของพรรคก้าวไกล และวันที่ 14สิงหาคม เป็นเรื่องของตน ส่วนนายทักษิณเองก็ยืนยันว่า จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดี ม.112 และ น.ส.แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะลูกสาว ก็ออกมายืนยันว่าไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะไปตั้งหลักต่างประเทศ ซึ่งประเด็นดังกล่าวนายทักษิณ ระบุว่าจะออกไปเรื่องสุขภาพ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าสถานการณ์ทางการเมืองช่วงเดือน ส.ค.มีความน่าเป็นห่วง นายกฯ ได้ประเมินอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามที่ตนบอกไปเมื่อวันอังคารที่30ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องน่าเป็นห่วงมากกว่าคือ ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ
ยันไม่ปรับครม.จี้รมต.ลุยงานต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า จาก 3คดีเดือนสิงหาคมนี้ จึงเกิดกระแสข่าวจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีการพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว ทุกคนยังคงทำงานกันอย่างเต็มที่ ถามย้ำว่า หากวันที่ 14 ส.ค. คดีของนายกฯ ไม่มีปัญหาจะมีการปรับ ครม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย อย่างที่บอกในคดีของตนก็จบแล้ว เพราะศาลไม่ได้เรียกขอข้อมูลเพิ่มเติมมา ซึ่งตนได้ทำคำแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็ต้องดูปัญหาบ้านเมืองอย่างเดียว ตนไม่อยากคิดไปไกล การปรับเปลี่ยน ครม.ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลาที่เหลือ 3 ปี แน่นอนว่าอาจมีการปรับเปลี่ยนซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาแต่ไม่มีการโยงใยกับวันที่ 14 ส.ค.นี้ หรือกรณีของพรรคก้าวไกลที่มีการตัดสินวันที่ 7 สิงหานี้ ดังนั้นขออย่าไปโยงเพราะจะทำให้เกิดความซับซ้อนและเข้าใจผิด เบี่ยงเบนความสนใจในประเด็นบางเรื่องที่เราต้องทำ ตนอยากให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีความไขว้เขวในเรื่องนี้ ตนคิดว่ามาทำงานกันดีกว่า เมื่อถามว่าหากมีการปรับ ครม. พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังอยู่ครบหรือไม่ หรือจะมีการนำของเก่าออกและเอาของใหม่เข้ามาบ้าง นายกฯ นิ่ง ไม่ตอบคำถาม
มีปัญหาเกิดใหม่ให้ตามแก้ทุกวัน
เมื่อถามต่อว่า มีความหวาดระแวงหรือไม่ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนตัวจะมีคนในรัฐบาล เข้ามาแทนนายกฯ หากศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ 314 เสียงมันก็แน่นอยู่แล้ว ถ้ามัวแต่พะว้าพะวัง กับคำว่า”อาจจะ”แบบนี้ อย่างที่บอกตนไม่อยากให้ทุกคนที่ดูแลบ้านเมืองมาไขว้เขวกับเรื่องนี้เมื่อถามย้ำว่าจะต้องดึงคนจากพรรคประชาธิปัตย์ มาเพิ่มเพื่อให้ 314เสียงแน่นขึ้นหรือไม่ นายกฯ ส่ายศรีษะเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้คิดเลย โยงใยเรื่องปรับ ครม.ดึงคนมาเสียบและการดึงคนเข้าคนออกยังไม่มีในตอนนี้ เพราะปัญหาเยอะเหลือเกินซึ่งเราต้องช่วยเหลือกัน ซึ่งท่านก็เห็นอยู่แล้วว่าปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้างในทุกวันและรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป
เยือนสุไหงโก-ลกสร้างความสงบสุข
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดลงพื้นที่อำเภอ สุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และเมืองรันเตาปันยัง รัฐกลันตัน มาเลเซีย เพื่อพบหารือกับดาโตะเซอรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในวันที่ 3 สิงหาคม 2567 โดยในการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศครั้งนี้ จะเป็นการต่อยอดการลงพื้นที่ร่วมกันที่ด่านอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และด่านเมืองบูกิตกายูฮิตัม ของมาเลเซีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 และการหารือทวิภาคีล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 ในช่วงการประชุม Nikkei Forum 29th Future of Asia ที่กรุงโตเกียว
สำหรับวัตถุประสงค์ของการลงพื้นที่ร่วมกันของนายกรัฐมนตรีของสองประเทศครั้งนี้เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะผลักดันให้เกิดความสงบสุขและการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยและรัฐในภาคเหนือของมาเลเซีย เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองฝั่ง โดยผู้นำทั้งสองจะหารือกันเกี่ยวกับแนวทางที่จะเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว และความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะโครงการสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก
‘อนุทิน’ยัน’เศรษฐา’ทำงานเข้มแข็ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์หลังร่วมประชุมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ในการประชุมหารือโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์ ว่า ท่าทีนายกฯมีความหวั่นไหวเกี่ยวกับคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีในวันที่ 14ส.ค.หรือไม่ว่า ตนไม่เห็นนายกฯแสดงอาการอะไรเลย ท่านทำงานเข้มแข็งมากกว่าปกติด้วยซ้ำ เรื่องการเมืองนายกฯก็ว่าไปตามกระบวนการ อย่าไปถามให้ท่านวอกแวกเลย
‘ภท.’70เสียงยกมือหนุนให้เป็นผู้นำ
เมื่อถามว่าได้ให้กำลังนายกฯเกี่ยวกับเรื่องคดีความอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ต้องพูดแต่วัตรปฏิบัติของตนชัดเจนอยู่แล้ว เรายอมรับความเป็นหัวหน้ารัฐบาลของนายเศรษฐา มาตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งแล้ว ตั้งแต่ตอนตัดสินใจมาร่วมรัฐบาล หนึ่งในมือที่โหวตนายเศรษฐา เป็นนายกฯคือมือนายอนุทินและสส.พรรคภูมิใจไทยอีก 70 คน เรายอมรับในการนำของนายเศรษฐา ตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว
ไม่คิดเสียบนายกฯ-พท.เป็นแกนนำ
นายอนุทิน กล่าวว่า “คำอวยพรทั้งหลายที่ว่าผมจะคาดหวังอย่างโน้นอย่างนี้ ขอพูดเลยนะ เราว่ากันเลือกตั้งต่อเลือกตั้ง ในระหว่างการเป็นรัฐบาลร่วมกันไม่ต้องกังวลใดๆทั้งสิ้น”เมื่อถามว่า เหตุใดสังคมถึงจับจ้องว่า หาก นายเศรษฐาเกิดอุบัติเหตุ นายอนุทิน จะเป็นนายกฯคนต่อไป หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นการวิเคราะห์ตามสถานการณ์ที่แย่ที่สุด ซึ่งลึกๆตนก็คิดว่าไปไม่ถึงจุดนั้น เมื่อถามอีกว่า หากนายกฯถูกศาลตัดสินเป็นลบ ถึงอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็คงจะไม่ปล่อยตำแหน่งนายกฯใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า“ผมไม่เคยคิดตรงนั้น ตำแหน่งนายกฯต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย เพราะเขาเป็นพรรคที่มีจำนวน สส.มากที่สุดในรัฐบาลและเป็นแกนนำรัฐบาล ถึงต้องมีกติกาและมารยาทซึ่งก็คืออย่าพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องของตัวเอง“เมื่อถามว่า สมมุติพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหานายกฯมาแทนนายเศรษฐาได้ จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถาม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้จัดการรัฐบาล
ไม่ได้ยินดึงปชป.-ไล่พปชร.บางส่วน
เมื่อถามว่าหากนายกฯรอดคดีจำเป็นต้องปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คำถามนี้ต้องไปถามนายกฯ อย่าเพิ่งไปคิด เพราะคิดไปก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่ใช่ผู้พิพากษาและไม่ใช่คนตัดสินใจ ไม่มีอะไรอยู่ภายใต้การควบคุมของเราเลยสิ่งที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา วันนี้เราเป็นรัฐบาลอยู่ที่ต้องทำงานตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและทุกอย่างต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาและทำงานให้ประชาชน มีทางให้เดินอยู่แค่นี้ เมื่อถามว่า เรื่องปรับ ครม.ถ้าถามในส่วนพรรคภูมิใจไทยถือเป็นหุ้นส่วนรัฐบาลไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชาควรปรับหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนทุกคนเป็นหุ้นส่วนรัฐบาลนี้ ไม่ว่าเป็นคนที่เลือกเราหรือไม่เลือกเราก็ต้องทำงานให้ทุกคน เมื่อถามว่า ได้ยินกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมาร่วมรัฐบาลแล้วปรับบางส่วนของพรรคพลังประชารัฐออกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ข่าวแต่ตนก็มองว่ารัฐบาลนี้มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ได้ประเมินสถานการณ์หรือไม่ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯขออนุญาตศาลเดินทางออกไปนอกประเทศ ที่อาจเป็นเพราะไม่มั่นใจสถานการณ์การเมืองเดือน ส.ค. เลยต้องไปตั้งหลักก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ประเมินและไม่มีตรงไหนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ทุกคนก็ยังทำงานปกติทุกวันเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนเพราะนี้คือรัฐบาล
‘ชัยชนะ’ปัดข่าวปชป.จ้องร่วมรัฐบาล
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 21 สส.ของพรรคแสดงเจตจำนงค์เข้าร่วมรัฐบาลว่า ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยที่จะไปร่วมรัฐบาล ตนเองยังไม่ทราบเรื่อง ข่าวก็คือข่าว ในข้อเท็จจริงยังไม่มีการพูดคุยกัน เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีการตกลงเรื่องกระทรวงกันแล้วด้วย นายชัยชนะ กล่าวว่า ไม่มีข่าวและใครไปตกลง ขอให้ยืนยันมา ตนเป็นกรรมการบริหารพรรคปชป.ยังไม่ทราบเลยว่า ใครไปตกลง โดยหลักการ พรรคปชป.ต้องมีการเทียบเชิญก่อน ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีการเทียบเชิญ ส่วนกรณีมีข่าวว่า ตนไปพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์นั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่จริง ที่ตนไปพูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส เพราะเจอกันปกติอยู่แล้ว แต่ไม่มีพูดคุยกันในเรื่องการร่วมรัฐบาล เมื่อถามย้ำว่า ถ้ารัฐบาลมีการส่งเทียบเชิญนั้น นายชัยชนะ ระบุว่า ยังไม่เกิดขึ้น และรัฐบาลยังไม่มีการเทียบเชิญ ถ้ามีการเทียบเชิญก็จะมีการหารือกันภายในพรรค และใช้มติของพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง
‘ศิริกัญญา’หวัง’เศรษฐา’ไม่หลุดเก้าอี้
ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายกฯสำรอง หากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ หลุดจากตำแหน่ง โดยมีชื่อของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นมาเป็นนายกฯแทน ว่า จริงๆแล้วเราไม่ได้เห็นด้วยกับการที่จะมีองค์กรอิสระ ที่เข้ามาแทรกแซงอะไรแบบนี้ และเรายังคงคาดหวังว่าทางนายเศรษฐาจะไม่ต้องหลุดออกจากเก้าอี้นายกฯ ด้วยประเด็นแค่นี้ และคิดว่าแต่ละพรรคก็คงต้องมีการเตรียมการสำหรับสถานการณ์ต่างๆ และไม่ได้มีความเห็นว่าสำหรับพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า หากต้องเปลี่ยนตัวนายกฯจริง มองว่าจะเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง แล้วมีการเปลี่ยนขั้วตัดพรรคใด พรรคหนึ่งออกหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องไปถามพรรครัฐบาล แต่ทางฝั่งของฝ่ายค้านเองเราคิดว่าเราก็ยังคงทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านต่อ
‘พยม ‘ชี้’สามารถ’คือองครักษ์’ลุงป้อม’
นายพยม พรหมเพชร อดีต สส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า สมัยที่ตนเป็น สส.ของพรรคพลังประชารัฐ ได้สนิทกับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพปชร.ก็เพราะเป็นคนพาไปที่บ้านรอยต่อกว่า 10ครั้ง ทำให้ได้สัมผัสรู้จัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.โดยนายสามารถ ประสานงานกับ พล.อ.ประวิตร ตลอดเวลา การทำงานของ นายสามารถ คล้ายๆกับ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นองค์รักษ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง นายสามารถ ก็คือองครักษ์ของ พล.อ.ประวิตร เพราะเมื่อมีใครโจมตี พล.อ.ประวิตร ก็จะมี นายสามารถ ออกมาโต้ตอบแทนทุกครั้งนั่นเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี