ชำแหละคดี‘พอล แชมเบอร์ส’! อ.ปริญญากาง 4 ปัญหากระบวนการยุติธรรมชั้นต้นที่ต้องแก้ไข
2 พฤษภาคม 2568 ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน และผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “คดี ดร.พอล แชมเบอร์ กับ #ปัญหากระบวนการยุติธรรมของไทยที่ต้องแก้ไข” ระบุว่า...
คดี ดร.พอล แชมเบอร์ กับ #ปัญหากระบวนการยุติธรรมของไทยที่ต้องแก้ไข
ผมเห็นว่า คดี ดร. พอล สะท้อนปัญหาของกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นของประเทศไทยที่เป็นเรื่องใหญ่มากที่ควรต้องแก้ไขกันเสียที ดังต่อไปนี้ครับ
1. #การออกหมายจับนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 #ไม่ต้องมีหมายเรียกก่อน ขอเพียงตำรวจทำให้ศาลเชื่อว่า ผู้ต้องหากระทำผิดในข้อหาที่มีโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 3 ปี ศาลก็จะออกหมายจับให้เลย โดยที่ไม่ต้องมีการไต่สวนการขอหมายจับ คือ #ฟังความข้างเดียวจากตำรวจ แล้วก็ออกหมายจับให้เลย
2. เมื่อไปจับตัวมาตำรวจก็จะ #ฝากขัง ระหว่างสอบสวน แล้วก็จะ #คัดค้านการประกันตัว ถ้าศาลเชื่อตำรวจศาลก็จะไม่ให้ประกันตัว แล้วก็จะออก #หมายขัง ซึ่งคือหมายให้กรมราชทัณฑ์เอาไปขังในคุก ผลคือผู้ต้องหา (หรือผู้ต้องข้อกล่าวหาของตำรวจ) ก็จะเข้าไปอยู่ในคุก หรือ #ติดคุกทันทีตั้งแต่ถูกกล่าวหา เพราะ #ประเทศไทยขังผู้ต้องหาและจำเลยในคุกรวมกับนักโทษ
3. รัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรคสอง บัญญัติว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจําเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคําพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทําความผิด #จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทําความผิดมิได้” ซึ่งคือหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ ที่คุ้มครองเราทุกคนจากการกล่าวหาของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ในทางปฏิบัติประเทศไทยใช้ #หลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผิด ตั้งข้อหา ขอหมายจับ ส่งเข้าคุก แล้วค่อยสอบสวน ซึ่งขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 29 วรรคสองชัดๆ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ไขกันเสียที แล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของชาวต่างชาติคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่เกิดได้กับเราทุกคน
4. ที่สำคัญคือ ต้นทางของกระบวนการยุติธรรมคือ #ตำรวจ มีแค่หลักฐานจากกองทัพภาค 3 ที่นำมาฟ้อง ดร.พอล ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ ดร.พอลพูดหรือเขียน แต่เป็นตัวโปรยคำแนะนำการเสวนาในเว็บไซต์ของสถาบันวิชาการต่างประเทศ แต่กลับนำมาดำเนินคดี การที่ใครก็ได้มากล่าวหา ตำรวจก็ดำเนินคดีให้หมด #ต้องมีมาตรการกลั่นกรองกันเสียที โดยเฉพาะในคดีความมั่นคง หรือมาตรา 112 ที่มีการนำมาใช้ในการจัดการผู้เห็นต่างหรือคนวิพากษ์วิจารณ์ทหารอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้นโดยสรุป #เราควรต้องเลิกการออกหมายจับโดยไม่ต้องมีหมายเรียกก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟังความข้างเดียวจากตำรวจ และก็ต้อง #เลิกการเอาผู้ต้องหากับจำเลยไปขังไว้ในคุก เพราะรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดให้ใช้หลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ เมื่อถูกกล่าวหาทุกคนต้องมีสิทธิสู้คดีนอกคุกครับ
และสำหรับคดีนี้ การที่อธิบดีอัยการภาค 6 สั่งไม่ฟ้องจึงเป็นเรื่องที่ชอบด้วยเหตุผลแล้ว แต่เรื่องยังไม่จบเพราะต้องรอว่าผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 จะคัดค้านอัยการหรือไม่ ซึ่ง #ไม่ควรคัดค้าน เพราะหากค้านจะยิ่งเสียหาย สิ่งที่เอามาฟ้องไม่ใช่คำพูดหรือข้อเขียนของ ดร.พอล แต่ประการใด
สุดท้ายเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงนี้ต่อศาล ศาลก็จะต้องยกฟ้อง และที่สำคัญอีกประการ ที่ ตม. ไป #ยกเลิกวีซ่า ทั้งๆ ที่ศาลยังไม่พิพากษาว่าผิด ก็เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ก็ควรต้องแก้ไขเยียวยาเขาด้วยครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี