กองทัพแถลงซื้อ Gripen สวีเดนอาจส่งสัญญาณปรามกัมพูชา นักวิชาการชี้คุ้มค่า-ไม่กระทบเจรจาทรัมป์
นักวิชาการธรรมศาสตร์ ชี้ กองทัพอากาศแถลงข่าว จัดหาเครื่องบิน Gripen E/F จากสวีเดน วงเงินเกือบ 2 หมื่นล้านบาท เอิกเกริก อาจเป็นการส่งสัญญาณป้องปรามกัมพูชา เผย ห็นด้วยกับการจัดหาครั้งนี้ เชื่อคุ้มค่า-ประเทศได้ประโยชน์ เหตุได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเครื่องบิน-อุตสาหกรรมทางการทหารด้วย มั่นใจไม่กระทบเจรจาภาษีทรัมป์ ระบุโจทย์ของทุกเหล่าทัพจากนี้คือหลังจากได้รับการเทคโนโลยีแล้วจะทำ R&D ต่อยอดอย่างไร แนะจับมือมหาวิทยาลัยดันเป็น New S-curve ในอนาคต
ผศ. ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่กองทัพอากาศแถลงความคืบหน้าโครงการการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี “Gripen E/F” ซึ่งเป็นการนำเข้าจากประเทศสวีเดน วงเงินทั้งหมด 19,500 ล้านบาท ตอนหนึ่งว่า การแถลงข่าวอย่างเอิกเกริกของกองทัพอากาศในครั้งนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงแสนยานุภาพทางอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาได้รับรู้ ถือเป็นการสื่อสารเพื่อป้องปรามทางจิตวิทยา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่นานาประเทศที่มีความเข้มแข็งทางการทหารอย่างประเทศจีน หรือประเทศสหรัฐอเมริกามักทำกัน เพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้าม ทราบถึงขีดความสามารถในการรบของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวค่อนข้างเห็นด้วยกับการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ที่จะทำให้ประเทศไทยบินทะยานไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะนอกจากจะได้รับเครื่องบินแล้ว ยังจะได้รับการถ่ายทอดนวัตกรรมและองค์ความรู้ด้านการผลิตในอุตสาหกรรมทางการทหารอีกด้วย ซึ่งถือว่าคุ้มค่าและสามารถนำไปต่อยอดให้เกิดศักยภาพในการผลิตเทคโนโลยีให้กับอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ในอนาคต
ผศ. ดร.เกียรติอนันต์ กล่าวว่า โจทย์ของทุกเหล่าทัพหลังจากนี้คือ นอกจากการสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศแล้ว ทุกกองทัพจะมีการวางแผนและวางงบประมาณเพื่อนำองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีเหล่านี้ไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศอย่างไร ส่วนตัวเสนอว่าหากนำงบประมาณที่มีในกองทัพมาส่งเสริมเรื่องธุรกิจวิจัยและพัฒนา (R&D) เทคโนโลยี อาจจะดำเนินการร่วมกับมหาวิทยาลัย หรือสถาบันวิจัยต่างๆ ก็จะส่งผลดีและต่อยอดโอกาสให้กับประเทศได้อีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องรูปแบบการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ (New S-curve) เช่น ธุรกิจยานยนต์ ซึ่งมีองค์ประกอบของเทคโนโลยีคล้ายคลึงกับเครื่องบิน สิ่งเหล่านี้จึงอาจเป็นที่สิ่งที่พาประเทศไทยก้าวกระโดดไปข้างหน้า
ผศ. ดร.เกียรติอนันต์ กล่าวอีกว่า ในแง่ความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาและการเจรจาการค้านั้น ประเทศไทยสามารถสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในส่วนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เครื่องบินขับไล่จากสหรัฐฯ ได้ โดยใช้วงเงินเท่าเดิม หรือเปลี่ยนเป็นการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ อย่างสินค้าเกษตรเพิ่มเติมแทน เพราะที่สุดแล้ววัตถุประสงค์ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คือต้องการเม็ดเงินเข้ามาในประเทศเพิ่มขึ้นโดยไม่ได้สนใจว่าต้องเป็นสินค้าประเทศใด ฉะนั้นการสั่งซื้อเครื่องบินจากสวีเดนจึงไม่กระทบการสั่งซื้อจากสหรัฐฯ แต่อย่างใด
“ในทางสากล การสั่งซื้อเครื่องบินจากประเทศไหนเท่ากับเป็นการยอมรับอำนาจหรือความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศนั้นๆ เช่น ที่เราไปสั่งซื้อสินค้าจากสวีเดน ก็เท่ากับเรายอมรับสวีเดนหรือยุโรป หรือถ้าเราไปสั่งซื้อเครื่องบินจากจีนขึ้นมานี่ก็วงแตกเลย เพราะฉะนั้นในสถานการณ์แบบนี้การวางตำแหน่งของเราจึงสำคัญ เป็นเรื่องการรักษาภาพลักษณ์และจุดยืนในภูมิรัฐศาสตร์โลก (geopolitics) ฉะนั้นหากเราจะไม่ได้ซื้อเครื่องบินสหรัฐฯ แต่ในแง่ geopolitics เราก็ควรต้องจัดซื้อสินค้าพิเศษอื่นๆ จากสหรัฐฯ เพื่อฉายภาพว่าความสัมพันธ์ที่มีต่อกันยังดีอยู่ แต่ก็ต้องไม่ไปโจมตีจีน ดังนั้นการซื้อเครื่องบินหนึ่งเซ็ต มันจึงไม่ใช่ภารกิจของกองทัพอากาศ แต่มันคือภารกิจของรัฐบาลทั้งหมดในการวางหมากของตัวเองในการเมืองโลกให้ถูกด้วย” นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี