วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'ดีเอสไอ'เผยพบเส้นเงิน โยงขบวนการฮั้ว จ่อออกหมายเรียก 100 ผู้ต้องหา รับทราบข้อหาอั้งยี่-ฟอกเงิน

'ดีเอสไอ'เผยพบเส้นเงิน โยงขบวนการฮั้ว จ่อออกหมายเรียก 100 ผู้ต้องหา รับทราบข้อหาอั้งยี่-ฟอกเงิน

วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.31 น.
Tag : ดีเอสไอ ฟอกเงิน โยงขบวนการฮั้ว ออกหมายเรียก อั้งยี่ ฮั้วสว.
  •  

'อธิบดีDSI' เผยร่อนหมายเรียกถึงต้นส.ค.รวม100ราย ในคดีอั้งยี่-ฟอกเงินลอตแรก มีทั้งกลุ่มที่ปรึกษา สว.-ผู้ช่วย-ผู้เชี่ยว ชาญ“เงินสะพัด30 จังหวัด เผยสำนวนคืบหน้า70%  แย้มพบเส้นเงินเชื่อมโยงถึงกลุ่มคนใกล้ชิดกก.บห.พรรคดัง แต่อุบตอบโยงถึงกก.บห.หรือไม่/ด้าน'รองอธิบดีDSI' 1ในคณะอนุกก.สืบสวนและไต่สวน แจงคณะฯ ชุด26 อยู่ระหว่างสรุปผลการไต่สวนพร้อมมติดำเนินคดีภายในวันนี้ 

วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกอั้งยี่และผู้สนับสนุน หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมร่วมของคณะพนัก งานสอบสวน และได้เชิญนายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะผู้แทนสำนักงาน ปปง. และประชุมร่วมกับพนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน โดยในที่ประชุมได้มีการติดตามความคืบหน้าเรื่องการสอบสวนพยาน รวมทั้งสอบถามในส่วนของข้อกฎหมายการฟอกเงิน ซึ่งได้รับความมั่นใจจาก ปปง. ว่ากรณีดังกล่าวพฤติกรรมของการเตรียมเงินและจ่ายเงินให้กับหัวคะแนนหรือโหวตเตอร์ที่ไปสนับสนุนการกระทำความผิดในครั้งนี้ จะถือเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิดตามนิยามของกฎหมาย ปปง.หรือไม่ ซึ่งเราก็ได้ความชัด เจนตรงนี้ นอกจากนี้ ในการสอบ ถามเรื่องการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีการจ่ายเงินในหลายพื้นที่และการสอบสวนเท่าที่ได้รับฟังก็พบความชัดเจนมากขึ้น รับฟังได้ว่ามีมูลในการกระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาเกิดขึ้น ทั้งอั้งยี่และการฟอกเงิน รวมถึงที่ประ ชุมมีการกำหนดสอบพยานอีกส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะพิจารณาเรียกผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ การสอบสวนในตอนนี้มีความคืบหน้าแล้ว 60-70%


พ.ต.ต.ยุทธนา เผยอีกว่า สำหรับการสอบปากคำพยานในคดีอั้งยี่-ฟอกเงินที่ผ่านมา รวมแล้ว 90 ปาก โดย 90 ปากนี้ มีทั้งกลุ่มที่เข้าไปรู้เห็นการวางแผน การทำหน้าที่ต่าง ๆ โดยเป็นการรู้เห็นด้วยตนเอง และพยานหลักฐานเกี่ยวกับการเงินด้วย อย่างไรก็ดี ผลการให้ปากคำในส่วนของผู้ที่มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้อง มีประมาณ 7-8 ราย แต่เราดูหลักฐานการเดินบัญชี (Statement)เป็นหลัก ว่าการโอนและรับโอนเงินนั้น ส่วนใหญ่พยานจะอ้างว่าเป็นการโอนเงินตามมูลหนี้ แต่เราก็ต้องมาชั่งน้ำหนักอีกทีว่ารับฟังได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น สำหรับพยานในลอตถัดไป จะมีพฤติการณ์ไม่เหมือนกับ 90 รายแรกที่สอบสวนไป โดยมีพฤติกรรมจากเส้นทางการเงิน ซึ่งเราจะพิสูจน์ว่าบรรดาผู้ช่วยหรือผู้เชี่ยว ชาญหรือที่ปรึกษาประจำตัว สว. ที่มีการแต่งตั้งมีที่มาอย่างไร เพราะทราบว่ามีเงินบางส่วนได้ถูกโอนกลับไปที่คณะบุคคลบางกลุ่ม ก็ต้องติดตามตรวจสอบต่อไป

เมื่อถามว่ามีรายชื่อ สส.ที่จะต้องเข้าให้ปากคำในฐานะพยานบ้างหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยอมรับว่ามีทุกกลุ่มแน่นอน ซึ่งหมายเรียกพยานนั้น เมื่อหมดลอตถัดไป(กลุ่มที่ปรึกษาของ สว.) ก็จะพิจารณาเรื่องหมายเรียกผู้ต้องหา

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยต่อว่า ประมาณ 1 เดือน จะเห็นความคืบหน้าที่ชัด เจนมากขึ้น หรืออาจเป็นขั้นตอนเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาเลยก็ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการได้มาของพยานหลักฐาน โดยการฟอกเงิน พฤติกรรมคือการรับโอนเงินและทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำ ความผิด ส่วนอั้งยี่ คือ การเป็นคณะบุคคลหรือจัดตั้งเป็นคณะบุคคล ปกปิดวิธีดำเนินการ เพื่อไปกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งตอนนี้มันก็ชัดแล้วว่ามีการจัดตั้งคณะขึ้นมาและแบ่งหน้าที่กันทำ

“การฮั้วนั้นพฤติกรรมแวดล้อมมันจะบ่งบอก อย่างช่วงเลือกตั้งบางทีไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีการรับโอนเงินก้อนใหญ่ หรือเงินกระจายไปยังบุคคลอื่นหลาย 10 เส้น และบุคคลเหล่านั้นก็ไปสมัครสมาชิกวุฒิสภาในช่วงนั้น แล้วก็มีการเลือกคนที่อยู่ในโพย ซึ่งมันก็มีความโยงใยกัน จึงยืนยันว่าเราไม่ได้ดูแค่พยานหลักฐานเรื่องเส้นทางการเงินเพียงอย่างเดียว และตอนนี้ทราบว่าเส้นทางการเงินกระจายมากกว่า 30 จังหวัด”อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยด้วยว่า สำหรับคดีฮั้ว สว.ที่รับผิดชอบโดยคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน กับคดีอาญาอั้งยี่-ฟอกเงิน ที่รับผิดชอบโดยดีเอสไอนั้น โดยหลักการแล้วจะไม่ยึดโยงกัน แต่ว่าสนับ สนุนเอื้อซึ่งกันและกัน ฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่าหากบุคคลใดโดนดำเนินคดีในส่วนของ กกต. แล้วจะต้องถูกดำเนินคดีอั้งยี่-ฟอกเงินด้วย มันขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน โดยดีเอสไออาจจะขอพยานหลักฐานหรือความเห็นในส่วนของ กกต. มาประกอบสำนวนด้วยได้

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ตนจะไม่ตอบในส่วนของการดำเนินการของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน เพราะเป็นส่วนของ กกต. แม้ดีเอสไอส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมก็ตาม แต่ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอื่น ซึ่งมาตราฐานความผิดใด ก็ต้องเป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการฯ

เมื่อถามจำนวนเป้าหมายผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดมีจำนวนเท่า ใด อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าโดยรวมทั้งดีเอสไอ และ กกต. อาจมีอย่างน้อยประมาณหลักร้อยคน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เนื่องจากการสอบสวนเอาผิดใครไม่สามารถระบุเจาะจงจำนวนได้ แต่ดูตามพยานหลักฐานว่าเชื่อมโยงถึงใครที่เกี่ยว ข้องบ้าง จึงจะมีการพิจารณาว่าบุคคลใดร่วมกันกระทำความผิดความ เป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน 

ต่อข้อถามว่าจากการดูเรื่องเส้นทางการเงิน พบว่ามีความเชื่อมโยงไปยังนักการเมืองท้องถิ่นกับขบวน การจัดฮั้วบ้างหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวยอมรับว่ามี แต่ขอสงวนเรื่องรายละเอียดไว้ก่อน ส่วนเชื่อมโยงถึงระดับกรรมการบริหารพรรค การเมืองหรือไม่นั้น ยืนยันว่าเงินตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่พบว่าเชื่อมโยงถึงกลุ่มคนใกล้ชิดของกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. ยกคำร้อง 206 ผู้สมัคร สว. ระดับอำเภอ จ.อำนาจเจริญ เนื่องจากไม่พบเส้นเงินจ้างลงสมัคร ขณะที่ทางนางสุขสมรวย วันทนียกุล ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย บอกว่า มีการบ่งชี้แล้วว่าไม่มีการจัดฮั้ว อธิบดีดีเอสไอชี้แจงว่า ในส่วนของ กกต. ตนไม่อยากพูด เพราะไม่ได้ไปรู้เห็นในเรื่องดังกล่าว แต่ถามว่ามันจะเกี่ยวกันหรือไม่ มันไม่เกี่ยวกัน เป็นคนละเหตุการณ์คนละส่วน และพยานหลักฐานก็คนละชุดกัน เหตุการณ์ก็คนละเหตุการณ์ แม้ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะเป็นคนเดียวกันก็ตาม แต่มันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน

อธิบดีดีเอสไอ ปิดท้ายว่า จะดำเนินการสอบสวนคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน อย่างเร็วที่สุด ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าจะทำสำนวนตีคู่ขนานไปกับคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน (7 อรหันต์) แต่ขอย้ำว่าการดูเรื่องเส้นทางการเงิน ก็ต้องดูว่ามีความสมบูรณ์หรือไม่ และพยานหลักฐานในส่วนขององค์ประกอบอั้งยี่ จะต้องมีการสอบสวนปากคำใครเพิ่มเติม หรือต้องไปดูเอกสารใดบ้าง อีกทั้งในส่วนของความผิดฐานฟอกเงิน เราจะตัดกรอบแค่ไหน เพราะการโอนเงินมันกระจายเป็นกลุ่มจังหวัด เราจะพิจารณาอย่างไร อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ที่ดีเอสไอจะกันพยานไว้ หากพยานคนนั้นอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่ใช่บุคคลสำคัญ และยังให้การเป็นประโยชน์ และมั่นใจได้ว่าพยานรายนั้นจะสามารถเบิกความเป็นประโยชน์ต่อคดี จนเอาผิดถึงตัวการสำคัญได้ ส่วนหลังจากนี้เราจะโฟกัสเรื่องพยานหลักฐาน โดยเราจะเน้นการสอบสวนให้เห็นว่าการกระทำความผิดตามข้อกล่าวหาเกิดขึ้นแล้ว แต่ใครที่จะต้องรับผิดในส่วนใดบ้างก็ต้องพิจารณาเป็นรายไป

เมื่อถามถึงฐานความผิดต่าง ๆ ใน พ.ร.ป.สว.61 และมาตรา 113 ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่มีการดำเนินคดีนั้น กกต. จะมีการแยกสำนวนอย่างไร เพราะ พ.ร.ป.สว.61 ตามหลักการต้องส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะที่มาตรา 113 แห่ง รธน.60 จะต้องให้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญนั้น พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเป็น 1 ใน 7 คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน กล่าวว่า มาตราความผิดใดเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้งก็เป็นอำนาจของ กกต. ที่จะพิจารณา แต่ในทางปฏิบัติ ทาง กกต. อาจต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกชุดเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ ทราบว่าสำนวนการไต่สวนของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 จะดำเนินการเสร็จภายในวันนี้ ส่วนจำนวนผู้ถูกดำเนินคดียังไม่เรียบร้อยเท่าไร รอทางประธานคณะกรรมการ กกต. อาจจะมีการแถลง

ด้าน นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า วันนี้ทางดีเอสไอ เชิญ ปปง. มาให้ความเห็นทางคดีเกี่ยวกับความผิดมูลฐานฟอกเงิน และเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน แบ่งเป็น 1.ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด 2.ทรัพย์สินที่ช่วยสนับสนุนการกระทำความผิด และ 3.บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวทรัพย์สิน เป็นเรื่องของคดีอาญาฟอกเงิน ฉะนั้น เมื่อถึงวันที่ดีเอสไอ ต้องดำเนินคดีฐาน "อั้งยี่-ฟอกเงิน" กับบุคคลใด ปปง. จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องการสืบทรัพย์สินเพื่อออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์ชั่วคราวนั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องหารือกัน เพราะ ปปง. เข้ามาดูจะต้องมีความชัดเจน และประชาชนก็ให้ความสำคัญ ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดในขณะนี้ ยังให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สามารถเข้ามาชี้แจงได้ สำหรับเส้นทางการเงินเชื่อมโยงบุคคลจำนวนมากที่เกี่ยวข้อง แต่มูลค่ายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องมีความชัดเจนตามพยานหลักฐาน เพราะต้องส่งสำนวนชั้นอัยการและศาลในขั้นตอนกฎหมาย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ศาลรธน.’สั่ง‘สว.-ภูมิธรรม-ทวี’ยื่นพยานใน 15 วัน ถูกร้องแทรกแซงรับ‘ฮั้วสว.’เป็นคดีพิเศษ ‘ศาลรธน.’สั่ง‘สว.-ภูมิธรรม-ทวี’ยื่นพยานใน 15 วัน ถูกร้องแทรกแซงรับ‘ฮั้วสว.’เป็นคดีพิเศษ
  • โกง ทุจริต ฟอกเงิน มั่วสีกา! ‘พงศ์พรหม’ชี้ถ้าไม่แก้ หวั่นอีก 25 ปีไทยเป็น next กัมพูชา โกง ทุจริต ฟอกเงิน มั่วสีกา! ‘พงศ์พรหม’ชี้ถ้าไม่แก้ หวั่นอีก 25 ปีไทยเป็น next กัมพูชา
  • ‘อดีตผู้พิพากษา’เลคเชอร์ 3 ข้อ ทุบเปรี้ยงคดี‘ฮั้ว สว.’แค่พิสูจน์‘เลือกไม่สุจริต’ก็พอ ‘อดีตผู้พิพากษา’เลคเชอร์ 3 ข้อ ทุบเปรี้ยงคดี‘ฮั้ว สว.’แค่พิสูจน์‘เลือกไม่สุจริต’ก็พอ
  • เปิดคำวินิจฉัย‘กกต.’ยกคำร้อง 206 ผู้สมัครสว.อำนาจเจริญ ชี้ไม่พบเส้นเงินจ้างสมัคร-ตั้งกลุ่มฮั้ว เปิดคำวินิจฉัย‘กกต.’ยกคำร้อง 206 ผู้สมัครสว.อำนาจเจริญ ชี้ไม่พบเส้นเงินจ้างสมัคร-ตั้งกลุ่มฮั้ว
  • ‘อดีตผู้พิพากษา’ยกฎีกาคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา ชี้ช่องถอดถอน 138 สว. ‘อดีตผู้พิพากษา’ยกฎีกาคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา ชี้ช่องถอดถอน 138 สว.
  • \'เจิมศักดิ์\'เตือนรัฐบาลเร่งตรวจสอบ พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน หวั่นเอื้อฟอกเงิน 'เจิมศักดิ์'เตือนรัฐบาลเร่งตรวจสอบ พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน หวั่นเอื้อฟอกเงิน
  •  

Breaking News

'นักเขียนซีไรท์'จวกยับ! 'รักชนก-ทักษิณ' อย่าหวังอยู่กันสบายไปตลอดชาติ

(คลิป) ชำแหละ! รายชื่อ กมธ.นิรโทษกรรม 'เพื่อไทย' จัดเก้าอี้ให้ 'งูเห่ารวมไทยสร้างชาติ'

อดีตตำรวจออสเตรเลีย โร่ขึ้นโรงพัก ถูกฝรั่งเยอรมันที่ภูเก็ต หลอกลงทุนสูญเงินกว่า 40 ล้าน

ป.ป.ช.รับพิจารณาคดีรถสองแถวขึ้น 'ภูทอก' ไม่ส่งเงินเข้ารัฐ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved