วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ทนายบุรีรัมย์’ยันประชาชน มีสิทธิตามกฎหมาย ครอบครองที่ดินเขากระโดง

‘ทนายบุรีรัมย์’ยันประชาชน มีสิทธิตามกฎหมาย ครอบครองที่ดินเขากระโดง

วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 16.46 น.
Tag : เขากระโดง ทนายบุรีรัมย์ ที่ดินเขากระโดง มีสิทธิตามกฎหมาย
  •  

‘ทนายความบุรีรัมย์’ ตั้งโต๊ะแถลงโต้ ‘มหาดไทย’ แหลก ยัน ปชช. มีสิทธิ์ทางกม.ครอบครองที่ดิน ‘เขากระโดง’ ชี้‘รฟท.’ ไม่มีพรฎ.-แผนที่แนบท้ายอ้างกรรมสิทธิ์ ย้ำคำพิพากษาศาลฎีกาผูกพันเฉพาะคู่ความ และกังขาหลักฐานแสดงต่อศาลปม 35 รายเป็นเท็จหรือไม่  ลั่น มท.เพิกถอนเมื่อไหร่ฟ้องกราดรูดทั้งแพ่งและอาญา ด้าน ‘ศุภชัย’ ซัดแรงไม่ใช่กลั่นแกล้งแต่เข่นฆ่าทางการเมือง  ขณะที่ชาวบ้าน ชี้หากถูกยึดต้องชดใช้ 2 หมื่นล้าน ส่วน ‘ทิวา’ จวก ‘ภูมิธรรม’ ทีกับ‘เขมร’ ทำตัวเป็น ‘มะเขือเผา’ แต่กับคนไทยเป็น ’หมาป่า’ พร้อมขย้ำ ด้าน ‘เจ้าของโรงโม่หิน’ ยันมีโฉนดตั้งแต่รุ่นพ่อเชื่อทุกอย่างอยู่ที่หลักฐาน
   
วันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ตัวแทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจและนิติบุคคล ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ร่วมจัดงานแถลงข่าว เพื่อตอบโต้และชี้แจงกรณีการแถลงข่าวของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เรื่องการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินกว่า 5,083 ไร่ ซึ่งมีผู้ถือครองมากถึง 995 ราย  

นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความผู้รับผิดชอบคดีเขากระโดง ชี้แจงกรณีข้อพิพาทสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยยืนยันว่า สิทธิในที่ดินของประชาชนยังคงชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีคำพิพากษาศาลฎีกา และศาลอุทธรณ์บางคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำมาอ้าง แต่ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคสอง คำพิพากษาดังกล่าวผูกพันเฉพาะคู่ความ และที่ดินพิพาทในคดีเท่านั้น ไม่อาจยกขึ้นยันกับราษฎรผู้ถือเอกสารสิทธิตามกฎหมายในที่ดินแปลงอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา127 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 และมาตรา 3 อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 37 อีกด้วย


นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏว่ามีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต และจัดซื้อที่ดิน พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา รับรองให้ รฟท. ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บนที่ดินบริเวณเขากระโดงตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 หรือกฎหมายอื่นใด ดังนั้นที่ดินพิพาทจึงไม่ตกเป็น “ที่ดินรถไฟ” ตามนิยามในพระราชบัญญัติดังกล่าว นอกจากนั้น แผนที่สำรวจ (Exploitation Plan) ดังกล่าว จัดทำขึ้นเพื่อรองรับการขนย้ายหินบริเวณเขากระโดงชั่วคราว โดยอาศัยพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา 45 จึงไม่ใช่ทางรถไฟเพื่อใช้ในการเดินรถตามมาตรา 3 (3) ของพระราชบัญญัติเดียวกัน และไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านกระบวนการพระราชทานโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย

นายชนินทร์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงข้างต้นยืนยันอย่างชัดเจนว่า ราษฎรผู้ถือครองเอกสารสิทธิโดยสุจริตยังคงมีสิทธิครอบครอง และใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขากระโดง โดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทุกประการ และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย และยังมีสิทธิในการต่อสู้ รวมถึงพิสูจน์ถึงความไม่ชอบของแนวเขตที่ดินที่ รฟท. กล่าวอ้าง

“หากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการเพิกถอนโฉนดโดยยึดถือแผนที่หรือข้อมูลเท็จของ รฟท. เพื่อสนองนโยบายทางการเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ราษฎรทุกรายผู้ได้รับผลกระทบ จะยืนหยัดปกป้องสิทธิของตนอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะฟ้องเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง และเรียกค่าเสียหาย หรือดำเนินคดีอาญาฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบิกความเท็จ ปลอมแปลงเอกสารราชการ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้กระทำต้องรับผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด” นายชนินทร์ กล่าว

นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า คดียังอยู่ในศาล เพราะ รฟท.ไปยื่นร้องศาลปกครองให้พิจารณาว่า อธิบดีกรมที่ดิน โดยคณะกรรมการมาตรา 61 ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่บังเอิญมาถูกซ้อนทางการเมือง   โดยรมว.มหาดไทยไปตั้งคณะกรรมซึ่งอยู่นอกกฎหมาย แล้วมาบอกว่าคณะกรรมการมาตรา 61 มิชอบ ซึ่งคณะกรรมการมาตรา 61 ใช้เวลา 1 ปี 8 เดือน กว่าจะตัดสินใจว่ารับฟังพยานรอบด้านหมดแล้ว มีความเห็นไม่เพิกถอน แต่คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยรมว.มหาดไทย ใช้เวลา 8 วัน ฝีมือจริงๆต้องเป็นเทพเท่านั้นจึงจะวินิจฉัยได้ 

“ฉะนั้น ใครก็แล้วแต่ที่ทำอะไรไว้ต้องรับผล ถ้าเกิดความเสียหายต่อประชาชน การเล่นเกมทางการเมืองของเขา เขาจะต้องรับผล” นายชนินทร์ กล่าว

นายตฤณ แก่นหิรัญ ทนายความ กล่าวว่า เมื่อ รฟท.ไม่สามารถแสดงสิ่งที่เป็นพยานหลักฐานที่กฎหมายกำหนดได้รฟท.จะมากล่าวอ้างลอยๆ ว่าที่ดิน 5,083 ไร่ เป็นที่ของรฟท.ไม่ได้ ที่ดินผืนนี้ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของ รฟท. จึงไม่อาจมาหวงห้ามเอกชนที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ได้ ถ้า รฟท.คิดว่ามีหลักฐานที่ดีกว่าก็เอามาแสดงกัน เพราะประชาชนทุกคนที่อยู่ที่นี่พร้อมพิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ในชั้นศาล

เมื่อถามว่า ที่แถลงวันนี้ รฟท. ใช้เอกสารเท็จแสดงต่อศาลฎีกาในอดีตใช่หรือไม่  นายตฤณ กล่าวว่า ถ้ามาเทียบของจริง ก็ต้องบอกว่าไม่ถูกต้องกับข้อเท็จจริง และ ไม่ถูกต้องหลักในการทำภูมิศาสตร์ และสนเทศศาสตร์   เพราะแผนที่ของรฟท. ไม่ใช่แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา  โดยเอาหัวตนเป็นประกัน  และไม่ต้องไปดูมาตราส่วน หากเอามาตราส่วนมีคนติดคุกแน่นอน  และยืนยันเป็นข้อมูลเท็จกันมาถึงทุกวันนี้   

เมื่อถามต่อว่า ทั้ง35 รายที่ศาลฎีกาตัดสินไปแล้ว  และถูกเพิกถอนถือเป็นเอกสารเท็จใช่หรือไม่ นายตฤณ กล่าวว่าตนไม่กล่าวล่วงตอนตอนนำสืบช่วงนั้นเป็นไร เพราะพึ่งมารับผิดชอบคดีเมื่อ2 ปี  แต่ยืนยันว่าข้อมูลที่ตนมีถือว่ามีประโยชน์กับทั้ง 35 ราย หากต้องการเรียกร้องสิทธิ์คืน   
 
เมื่อถามว่าหากมีการนำเอกสารเท็จในอดีตต่อศาลจะติดคุกหรือไม่ นายตฤณ  กล่าวว่า ถ้าเป็นเอกสารเท็จก็ติดคุก 

เมื่อถามถึงความพร้อมจะพาผู้เสียหาย 995 รายในขณะนี้   ไปพิสูจน์สิทธิ์กับ รฟท. ในชั้นศาลใช่หรือไม่ หากถูกกรมที่ดินเพิกถอนโฉนด นาย ตฤณ กล่าวว่า แน่นอน หากมีคำสั่งเพิกถอนจริงๆ เราก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งและว่าไปตามกฎหมาย 

เมื่อถามว่า จะดำเนินการอย่างไรกับรัฐมนตรีในกระทรวงมหาดไทย ที่สั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนที่ดินพิพาท นายศุภชัยใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า  สังคม เห็นกระบวนการของรมว.มหาดไทย และรมช.มหาดไทย  ที่เกี่ยวข้องที่เห็นว่าดำเนินการไม่ชอบด้วยฎหมายตั้งแต่ต้น  และ ตนเป็นห่วงว่า เมื่อได้อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่แล้ว จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรต่อไป เพราะต้องทำตามประมวลกฎหมายกฎหมายที่ดิน ซึ่งมาตรา 61 วรรค8 จะต้องเพิกถอนด้วยคำสั่งศาล ถึงที่สุด แต่วันนี้ชาวบ้าน 995 ราย ยังไม่มีคำพิพากษาอะไรเลยเพราะผูกพันแค่35 ราย จึงขอบอกว่า วันนี้การรถไฟบุกรุกที่ชาวบ้านอยู่  

“วันนี้ถ้า มท. 1 และมท. 3 และการรถไฟฯมาลงพื้นที่เขากระโดง  ถ้าพวกท่านไม่ยินยอม สามารถดำเนินคดีพวกเขาได้เลย  ดังนั้นหากทางกระทรวงมหาดไทย เริ่มเพิกถอน เมื่อไหร่ดำเนินคดีก็จะนับหนึ่ง และเมื่อถามว่าวันนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ ผมขอบอกว่าตั้งใจเข่นฆ่าทางการเมือง” นายศุภชัย กล่าว

นายทิวา การกระสัง ทนายความ และ 1 ในเจ้าของที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในกรณีพิพาทกับ รฟท. โดยระบุว่า ตนเองถือครองเอกสารสิทธิ์ในที่ดินประเภท นส.3 ตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งการจะออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวได้ ต้องมีการแจ้ง สค.1 มาตั้งแต่ปี 2497 ก่อนที่ตนเอง และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเกิดด้วยซ้ำ

นายทิวา ระบุว่า การที่ รฟท. อ้างกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินในปี 2539 นั้น เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเกือบ 29 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีหมุดหรือป้ายแสดงกรรมสิทธิ์ของ รฟท. แต่ว่า ปรากฏอยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนอยู่อาศัยและครอบครองมาโดยสุจริต อีกทั้งยังตั้งคำถามว่า ใช้หลักคิดใดในการระบุว่าที่ดิน 5,083 ไร่ เป็นของรัฐ โดยอ้างคำพิพากษาศาลฎีกา

“ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ตัดสินว่าที่ดิน 5,083 ไร่เป็นการบุกรุก และยึดที่หลวง เป็นเรื่องที่ช้ำใจ และเจ็บปวดมาก เพราะเราอยู่ตรงนี้มานาน อยู่โดยสุจริต มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย” นายทิวากล่าว

นายทิวา อธิบายเพิ่มเติมว่า หากพิจารณาตามหลักรัฐธรรมนูญ คำพิพากษาของศาลฎีกาไม่ได้ผูกพันองค์กรอื่น เช่นรฟท. กรมที่ดิน หรือประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในกรณีที่ประชาชนเหล่านั้นไม่ได้เป็นคู่ความในคดี ความผูกพันทางกฎหมายมีเพียงผลของคำพิพากษา ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งคำตัดสินในแต่ละรายต้องพิจารณาตามพยานหลักฐานของแต่ละบุคคล

”คำพิพากษาศาลฎีกาทั้ง 39 ราย เป็นคำตัดสินเฉพาะราย ไม่ได้ผูกพันกับประชาชนอีก 995 รายที่ไม่ได้เป็นคู่ความเราในฐานะประชาชน ยืนยันว่าพร้อมต่อสู้คดี และขอให้รัฐเตรียมรับผิดชอบหากจะยึดพื้นที่กลับไปใช้งาน โดยต้องเตรียมงบประมาณเยียวยาประชาชนราว 20,000 ล้านบาท ตามหลักรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้รัฐต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของรัฐ” นายทิวา ระบุ

ในช่วงท้าย นายทิวายังกล่าวถึงท่าทีของ รฟท. ที่ขู่ว่าหากไม่ยอมเจรจา จะนำที่ดินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์โดยตั้งคำถามกลับว่า ใช้อะไรคิด และมีหัวใจความเป็นคนไทยหรือไม่ พร้อมเปรียบเทียบกับท่าทีที่อ่อนโยนกว่านี้ที่หน่วยงานรัฐมีต่อประเทศเพื่อนบ้าน

“ทีกับกัมพูชา ทำตัวเป็นมะเขือเผา ไปเจรจาที่มาเลเซียก็ให้เขาพูดตั้งครึ่งชั่วโมง แต่พูดเองแค่ 3 นาที พอเจอคนไทยกลับทำเหมือนเป็นหมาป่าจะขย้ำเหยื่อ” ทิวา กล่าว 

นายทิวา กล่าวทิ้งท้ายว่า หากมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์จริง ประชาชนกว่า 995 รายในพื้นที่ พร้อมสู้คดีเต็มที่ และตนก็พร้อมเป็นทนายให้ทุกคนในเรื่องนี้

นายกิตติเทพ เจียรพันธ์ เจ้าของกิจการโรงโม่หิน  300 กว่าไร่ที่โดนคดี กล่าวว่า ตั้งแต่รุ่นพ่อของตน ทำกิจการรองโม่หินผลิตหินขายให้รฟท. เรางานส่งรฟท.มาตลอด ซึ่งการประกอบกิจการนี้ต้องซื้อที่ดินจำนวนมาก และต้องอยู่ใกล้กับรถไฟที่จะมาขนหิน ซึ่งโรงโม่หินของตนอยู่ในพื้นที่ที่รฟท.อ้างสิทธิ์ แต่ตนมีโฉนดตั้งแต่รุ่นพ่อประมาณปี 2514 หรือ2515 ซึ่งการได้โฉนดได้มาจากการซื้อ นส.3 จากชาวบ้านแล้วมาออกโฉนดภายหลัง 

“การออกโฉนดทุกครั้งจะมีเจ้าหน้าที่รฟท. มาเซ็นระวางแนวเขตข้างเคียง โดยสำนักงานที่ดินจะทำหนังสือส่งไปที่รฟท. ซึ่งรฟท.จะมีหนังสือมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่จากรฟท. มาชี้ระวางแนวเขต ทุกครั้งที่ออกเป็นโฉนดได้ ก็มีเจ้าหน้าที่รฟท. มาระวางแนวเขตให้ทุกครั้ง แต่อยู่ดีๆวันนี่รฟท. บอกว่าที่ที่ออกโฉนดเป็นที่รฟท.ทั้งหมด ผมไม่ทราบว่าเขาพิจารณากันอย่างไร ส่วนการต่อสู้คดี ผมคิดว่าต้องลองสู้กันสักตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเอกสารหลักฐาน และดุลยพินิจของศาล“ นายกิตติเทพ กล่าว

นายกิตติเทพ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นเรื่องการเมืองที่โจมตีกัน ถ้าไม่ใช่เรื่องการเมือง ตนคิดว่าวันนี้เขากระโดงคงไม่มีเรื่องมีราวแบบนี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตนขอพึ่งทางผู้พิพากษาที่จะพิจารณาคดี ผู้เสียหายมีจำนวนมาก ซึ่งตนโดนมากที่สุด เพราะมีที่ดินตรงนี้ 1,000 กว่าไร่ เป็นที่ที่อยู่ในพื้นที่พิพาท 300 กว่าไร่

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ภูมิธรรม\'ยัน!ทำตามคำสั่งศาล ปมเพิกถอนที่ดิน\'เขากระโดง\' 'ภูมิธรรม'ยัน!ทำตามคำสั่งศาล ปมเพิกถอนที่ดิน'เขากระโดง'
  • สวนกลับจุก! ‘ศุภชัย’ลั่นพ่อเสียไป35ปี แต่ไม่ทำชั่ว บุกรุกโบราณสถานเหมือนพี่สาว-พี่เขย-หลานคุณ สวนกลับจุก! ‘ศุภชัย’ลั่นพ่อเสียไป35ปี แต่ไม่ทำชั่ว บุกรุกโบราณสถานเหมือนพี่สาว-พี่เขย-หลานคุณ
  • มวยถูกคู่!! ‘เดชอิศม์’ซัดกลับ‘ศุภชัย’ถามหากพ่อคุณรุกเขากระโดงติดคุก ลูกต้องรับโทษด้วยหรือไม่ มวยถูกคู่!! ‘เดชอิศม์’ซัดกลับ‘ศุภชัย’ถามหากพ่อคุณรุกเขากระโดงติดคุก ลูกต้องรับโทษด้วยหรือไม่
  • อย่าเซ็นสุ่มสี่สุ่มห้า! ‘อนุทิน’เตือนอธิบดีที่ดินคนใหม่ จัดการปมที่ดิน‘เขากระโดง’ อย่าเซ็นสุ่มสี่สุ่มห้า! ‘อนุทิน’เตือนอธิบดีที่ดินคนใหม่ จัดการปมที่ดิน‘เขากระโดง’
  • \'ภท.\'ถล่มยับ!! จวกรัฐที‘โป๊กเกอร์-เขากระโดง’ทำเร็ว แต่ช่วยชาวบ้านล่าช้า 'ภท.'ถล่มยับ!! จวกรัฐที‘โป๊กเกอร์-เขากระโดง’ทำเร็ว แต่ช่วยชาวบ้านล่าช้า
  • ​‘อนุทิน’กระตุกเตือน‘อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่’ ยกอดีตย้อนเกล็ด​‘เซ็นสุ่มสี่สุ่มห้า’ติดคุกกันมาแล้ว ​‘อนุทิน’กระตุกเตือน‘อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่’ ยกอดีตย้อนเกล็ด​‘เซ็นสุ่มสี่สุ่มห้า’ติดคุกกันมาแล้ว
  •  

Breaking News

(คลิป) แผ่! ชีวิตไฮโซลูกนัท! เมื่อเปลี่ยนสี นิสัยก็เปลี่ยน 'หน้ามือเป็นหลังเท้า'

โปรดเกล้าฯให้รองผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้-ตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบกำลังพล-ราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บ

เร่งผลิตนักกีฬาโป๊กเกอร์ทีมชาติไทย ขอบคุณร่วมสร้างประวัติศาสตร์ WPT Prime Thailand Exhibition 2025

ชาวผามออีแดงผวา! บ้านถูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่หลายหลัง วอน จนท.เร่งตรวจสอบ-เก็บกู้

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved