พี่เบิ้มเสนอตัวเป็นคนกลาง! ‘สิริพงศ์’ ชี้จากนี้ไปสถานการณ์ชายแดนต้องยึดรอบคอบ หลังนานาชาติจ้องจับตาใกล้ชิด แฉเล่ห์กลเขมร เน้นใช้ ‘เด็ก-คนชรา’ ออกแนวหน้า บีบ ‘ไทย’ ให้ขยับลำบาก ย้ำ ‘นายกฯ-รัฐบาล’ ให้อำนาจทีมพื้นที่ดำเนินการ พร้อมหนุนภารกิจสุดลิ่ม
วันที่ 9 ตุลาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเผชิญช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ โดยในช่วงปลายเดือนต.ค. ระหว่างวันที่ 25–28 ต.ค. จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รวมถึงผู้นำอาเซียนหลายประเทศจะเข้าร่วม และทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เสนอตัวเป็น ตัวกลางเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา นั่นหมายความว่า จากนี้การเคลื่อนไหวของไทยต้องรอบคอบเป็นพิเศษ เพราะผู้นำอย่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแนวทางที่ต้องการหาความร่วมมือ แต่ในขณะเดียวกันก็ถืออำนาจทางเศรษฐกิจไว้ในมือ เช่นมาตรการด้านภาษีที่ไทยได้รับการผ่อนปรน 19% ซึ่งยังเป็นเพียงแนวทางและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามท่าทีของแต่ละฝ่าย ดังนั้น ท่าทีของผู้นำประเทศมีความสำคัญมาก ภาพที่ปรากฏต่อสื่อนานาชาติย่อมส่งผลต่อการรับรู้ของโลกซึ่งนี่คือบทบาทของนายกรัฐมนตรีที่ต้องรักษาภาพลักษณ์และผลประโยชน์ของชาติ
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นอย่างยิ่งโดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่อย่างรอบด้าน รวมถึงหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในลักษณะที่อาจถูกอีกฝ่ายใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองระหว่างประเทศ ส่วนกรณีขแมร์ไทม์สอบถามถึงกระแสข่าวว่าไทยเตรียมผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่พิพาท จ.สระแก้ว ซึ่งจะถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น นายกฯชี้แจงชัดว่า รัฐบาลไม่เคยกำหนดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ การประเมินสถานการณ์และการสื่อสารก่อนหน้านี้ มาจากผู้รับผิดชอบในพื้นที่โดยตรง ที่ตอนนั้นได้ประเมินสถานการณ์ไว้เช่นนั้น แต่เวลาต่อมา ปรากฏว่าทางกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ ไปจนถึงท่าทีจากนานาชาติที่จับจ้องไทยมากขึ้น แผนการต่างๆ ที่วางไว้ต้องมีการปรับ ซึ่งในพื้นที่ได้ประเมินแล้วว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ
“รัฐบาลยืนยันพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย และเน้นให้ดำเนินการตามกฎหมาย จากเบาไปหนักตามลำดับ ภายใต้กรอบความยุติธรรมและมนุษยธรรม” นายสิริพงศ์กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวด้วยว่า ฝ่ายกัมพูชาเองก็มีไม้ตายคือการใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา หรือหญิงตั้งครรภ์ เพื่อท้าทายจุดยืนด้านมนุษยธรรมของไทย ทำให้ไทยมีทางเลือกที่จำกัดมาก เราต้องเข้าใจเกมของเขา และตั้งอยู่บนความรอบคอบ ดีกว่าปล่อยให้ปัญหาบานปลายจนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบในระยะยาว
นายสิริพงศ์ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลไทยยึดมั่นในผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และนายอนุทิน ห่วงใยคนไทยทุกคน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชายแดนพร้อมสนับสนุนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ภาคสนามอย่างเต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายด้วยความสงบและปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี