‘ประชาธิปัตย์’จัดทัพใหม่18ต.ค.นี้
‘อภิสิทธิ’หัวหน้าพรรค
‘กรณ์’คัมแบ๊กรองหน.
‘ชัยวุฒิ’จ่อเลขาฯพรรค
‘สุริยะ’ตกใจพท.ถูกดูด
‘สมพงษ์.อมรวิวัฒน์’เผ่น
“มาร์ค”คัมแบ๊ก 18 ตุลาคม นั่งหัวหน้า ปชป.100%เปิดโผทีมบริหาร“ชัยวุฒิ” นั่งเลขาฯ เซอร์ไพรส์“กรณ์-จุรี” ดาวติ๊กต็อก ร่วมทัพ รองหัวหน้าพรรค “เพื่อไทย” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ลอต 2 รวม 22 ราย ยอดเสนอตัวลงชิงแล้ว 205 คน ย้ำเป้าหมาย 200 ที่นั่ง “สุริยะ”ตกใจตัวเลขซื้อ“สส.เพื่อไทย” มหาศาล เย้ยคนทิ้งพรรคสอบตก เผยตัวเลขความนิยม‘ปชน.’ลดเชื่อหนุน‘พท.’มากขึ้น มั่นใจ คนใหม่ลงแทน‘โกศล’ชนะ100เปอร์เซ็นต์ ว่าที่ผู้สมัคร’ศรีสะเกษ’ลั่น ขอเป็นเลือดหยดสุดท้ายอาสาปราบงูเห่า ด้าน’โกศล’โต้ไม่ใช่เงิน-แต่อึดอัดไม่อบอุ่น แนะผู้บริหารดูแลให้ดีกว่านี้ แย้มปูดอาจมี สส.ไม่ไปต่อกับพรรคอีก ขณะ’สมพงษ์’ไขก๊อกทิ้ง พท.เปิดเหตุผลลาออก อึดอัดสุดจะทนการบริหารในพรรค สุดท้ายทำ‘เชียงใหม่’พัง
เมื่อวันที่ 17ตุลาคม2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการเปิดตัวผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เพิ่มเติมอีก 22ราย นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค ทั้งนี้ หลังจากเปิดตัวทางแกนนำได้สวมเสื้อแจ็กเก็ตพรรคเพื่อไทยให้กับผู้เสนอตัวทุกคนด้วย
พท.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.อีก22คน
โดย นายสุริยะ กล่าวว่า วันนี้ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย และตนที่เคยประกาศไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าทางพรรคเพื่อไทยเราตั้งเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้าจำนวน 200 คน เราได้เปิดตัวไปแล้ว 183 คน ดังนั้นเพื่อเป็นไปตามเป้าหมายจึงได้เปิดตัวเพิ่มอีก 22 ท่านใน 12 จังหวัด หน้าตาแต่ละคนมีความผ่องใส ราศีจับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีความตั้งใจที่จะนำนโยบายของพรรคเพื่อไทยซึ่งในอดีตประสบความสำเร็จาตลอด ตนเชื่อมั่นว่า การเปิดตัวในครั้งนี้จะได้รับการตอบสนองจากพี่น้องประชาชน สำคัญที่สุดคือผู้สมัครทุกท่านต้องลงพื้นที่ทำงานหนัก เอานโยบายของเราไปถึงพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ 12 จังหวัด พรรคเพื่อไทยต้องสามารถตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน
“ผมอยู่กับการเมืองมานานพอสมควร แต่มีหัวหน้าพรรคๆ หนึ่งบอกว่าช่วงนี้จะมีการย้ายพรรคกันมากเป็นเรื่องปกติในทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ที่ผมเห็นว่ามันไม่ปกติเพราะว่าที่ผ่านมาการย้ายพรรคนั้นเกิดจากกระแสพรรคไม่ดี แต่ในครั้งนี้มีการเสนอตัวเลขมาให้กับ สส.ของพรรคเรา มีบางท่านหวั่นไหวและย้ายพรรคไป ส่วนที่เหลืออยู่เพราะเขายังเชื่อมั่นว่ากระแสเราดี เพราะบางท่านลงไปในพื้นที่แล้วได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าถ้าย้ายพรรค เขาไม่เลือกแน่ การเมืองที่ต้องใช้เงินใช้ทองซื้อตัว สส.เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง ผมหวังว่า สส.ที่อยู่กับเรา ผมเชื่อมั่นว่าเราจะชนะ ส่วนที่เคยย้ายไปในอดีต มีเรื่องที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเมื่อย้ายออกจากพรรคไปแล้วก็สอบตกไปหลายท่าน พี่น้องประชาชนคงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมพยายามสื่อสาร” นายสุริยะ กล่าว
‘มานพ’อาสาปราบงูเห่าศรีสะเกษ
จากนั้นผู้สมัคร สส.ได้ออกมาแนะนำตัวและกล่าวให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลรับใช้ประชาชน เช่น นายมานพ จรัสดำรงค์นิตย์ ผู้เสนอตัวลงสมัคร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวช่วงหนึ่งว่า ในนามตัวแทนของพี่น้องชาวศรีสะเกษ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าพรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคเพื่อไทย จึงขออาสาเป็นคนตัวเล็กคนหนึ่งที่จะไปปราบงูเห่า โดย จ.ศรีสะเกษ ถือเป็นตำนานของเมืองงูเห่า ความจริงคนศรีสะเกษมีน้ำใจ รักพรรคเพื่อไทยมาก ได้ สส.ยกจังหวัดมาหลายครั้ง ครั้งที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องงูเห่า ครั้งนี้ก็มีปัญหาอีก เพราะศรีสะเกษมีฟาร์มงูเห่าใหญ่ 2ฟาร์ม จึงขอกำลังใจและขอบคุณผู้บริหารพรรค ที่ให้โอกาสตนไปเป็นตัวแทนของประชาชน ซึ่งจะทำทุกอย่าง และจะเป็นตัวแทนเลือดหยดสุดท้ายของเพื่อไทยในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้ได้เสียงปรบมือจากผู้บริหารพรรคและผู้ลงสมัคร สส.
เปิดรายชื่อชิงสส.ชุดใหม่อีก22คน
ทั้งนี้ รายชื่อผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ในวันนี้ ประกอบด้วย นายธนรัช จงสุทธานามณี ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.เชียงราย นายชัยณรงค์ ภู่พิศิษฐ์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ลำพูน นายวราทิต ไชยนันทน์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส. ตาก น.ส.ปิยธิดา บุตรกาล ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.มุกดาหาร นายวีระศักดิ์ โคตรสมบัติ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ยโสธร นายวรฉัตร พงศ์ธีระดุลย์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ชัยภูมิ น.ส.วิเมลือง แก้วศิริ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ชัยภูมิ นางพัชราวรรณ ภิญโญ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.นครราชสีมา นางนารดา อึ้งสวัสดิ์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.นครราชสีมา นายมานพ จรัสดำรงนิตย์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ
นายสมเกียรติ คำดำ ผู้เสนอตัวชิงสส.ปราจีนบุรี นายคงกฤช หงษ์วิไล เสนอตัวลง สส.ปราจีนบุรี นายสุทิน นพขำ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.ปทุมธานี นายธนากร ปราณีนิตย์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.นครพนม นายชาญชัย คำจำปา ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.นครพนม นายนพวิชญ์ ไทยแท้ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม. นายแมน เจริญวัลย์ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม. นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม. นายธกรเลาหพงศ์ชนะ ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม. นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม. น.ส.เสาวนีย์ คงวุฒิปัญญา ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม. และนายสายัณห์ จันทร์เหมือนเผือก ผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม.
‘สุริยะ’ตกใจตัวเลขซื้อสส.มหาศาล
นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์กรณีมีการระบุถึงตัวเลขซื้อสส.เพื่อไทย จะสามารถเปิดเผยตัวเลขได้หรือไม่ ว่า เป็นสส.ของพรรค พท.ที่ให้ข่าวตนมาว่า พยายามมีการติดต่อเพื่อขอให้ย้ายพรรค โดยเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างมหาศาล แต่อย่าให้ตนลงตัวเลขที่ชัดเจนเพราะเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ หากเขาจ่ายขนาดนี้แล้วมีการเลือกตั้งเข้ามา เขาจะถอนทุนคืนขนาดไหน ย้ำว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีการพูดถึงตัวเลขค่อนข้างเยอะพท.จะใช้กระแสไปต่อสู้อย่างไร นายสุริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า หากพรรคพท.สามารถเสนอนโยบายที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้จริง พรรค พท.จะได้ตัวเลขตามที่ตนเคยตั้งเป้าเอาไว้ได้ เราได้ติดตามโซเชียลมีเดียมาโดยตลอดและเห็นว่า ความนิยมของพรรค ปชน.ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่งของเราและต่อสู้กันมาโดยตลอดความลดลง ฉะนั้น โอกาสที่จะมาเพิ่มให้เราก็มีพอสมควร แล้วตัวเลขที่ตนตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ 200 คน อาจจะบวกลบเล็กน้อย 10-20 เปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า มีผลสำรวจว่าพรรค พท.จะกลายมาเป็นพรรคอันดับกลาง ในช่วงเวลาที่เหลือจะทำอย่างไรให้กระแสนิยมกลับมาได้ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากระแสที่เรามีปัญหาพอสมควรคือเรื่องของการสู้รบกับประเทศกัมพูชา และยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่ทำให้กระแสตกต่ำได้เช่นนี้ ฉะนั้น จึงเชื่อมั่นว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ประชาชนจะเริ่มเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหากมีการทำประชามติยกเลิกเอ็มโอยูพร้อมกับการเลือกตั้ง จะทำให้กระแสชาตินิยมเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงพรรค พท. นายสุริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่สาธารณชนใช้วิจารณญาณได้ว่าสิ่งที่ทำไปแล้วเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติหรือไม่ หากเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ตนเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร
ไม่มีทาม’วราวุธ’แดนดิเดตนายกฯ
เมื่อถามถึง กรณีที่ผู้ที่ออกจากพรรค พท.ไปแล้ว วิจารณ์ว่าแม้พรรค พท.จะยกเครื่อง แต่ก็เป็นเครื่องที่พังแล้ว ยังมั่นใจยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนยังเชื่อมั่นอยู่ เพราะจากการที่ได้คุยกับแกนนำในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา ที่ไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจากการที่ตนได้คุยกับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล แกนนำพรรค พท.ท่านก็มั่นใจคนใหม่ของเรามาจะชนะ100เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามถึง การเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯพท.ช่วงใดจะเหมาะสมที่จะเปิดตัว นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคกำลังพูดคุยกันอยู่ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม เมื่อถามถึงกระแสที่มีการไปพูดคุยกับ นายวราวุธศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้มาเป็นแคนดิเดตของพรรค พท.ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสุริยะ กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินตรงนั้น เมื่อถามว่า บางกระแสบอกว่ามีชื่อของ นายสุริยะด้วย นายสุริยะ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า ไม่มีคุยกันถึงตรงนั้นถามย้ำว่า หากพรรคเสนอขึ้นมามีความพร้อมหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ให้รอถึงตรงนั้น อย่าเพิ่งไปสมมติเลย
‘โกศล’โต้ไม่ใช่เงิน-แต่อึดอัดไม่อบอุ่น
นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ได้เปิดตัวร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ระบุมีการใช้เงินดู สส.ออกไปว่า “ส่วนตัวที่ไม่ได้ไปต่อกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีเรื่องเงินใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น การออกจากพรรคเป็นเรื่องของความรู้สึก เหมือนกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้ให้เหตุผลในการลาออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะ สส.รู้สึกอึดอัดในการบริหารจัดการพรรค ผมได้คุยเรื่องนี้กับนายสุริยะ เมื่อครั้งที่ท่านโทร.มาหาให้ผมไปร่วมเปิดตัวเป็นผู้สมัครของพรรค แต่ผมไม่ได้ไป เพราะเมื่อเราจะออกอยู่แล้ว ก็ไม่ควรไปรับทรัพยากรของพรรคเพื่อไทย ที่เขาจะสนับสนุนในการเลือกตั้ง”
นายโกศล ยืนยันว่า การไม่ไปต่อกับพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ถูกซื้อ หรือ มีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ตนคิดว่าไม่ควรไปเปิดตัว เพราะไม่ต้องการรับทรัพยากรจากพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยจะได้มีเวลาในการคัดเลือกตัวผู้สมัคร ให้เขาได้มีเวลาในการลงพื้นที่ ส่วนจะแพ้หรือชนะอยู่ที่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจ ฝากผู้บริหารพรรคควรดูแล สส.ให้ดี รับฟังเขา เพราะยังมี สส.ที่รู้สึกไม่อบอุ่น แล้วอนาคตอาจไม่ไปต่อกับพรรคอีกหลายคน
แตกยับสมพงษ์’ยื่นหนังสือลาออกแล้ว
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนได้ตัดสินใจลาออกการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ส่งผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อด้วย โดยให้ทีมงานนำเอกสารใบลาออกไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว การตัดสินใจนี้ไม่เกี่ยวกับที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน หรือกระแสตก แต่เหตุผลมาการบริหารจัดการภายในที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 เชื่อว่า สส.ส่วนใหญ่ก็อึดอัดกับสถานการณ์ในพรรคกับการจัดลำดับความสำคัญที่มีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ผู้บริหารพรรคมองไม่เห็น ทั้งที่การเลือกตั้งทั้งในระดับ สส.หรือท้องถิ่น ก็ฟ้องอยู่ว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก
เปิดเหตุผลสุดจะทน‘เชียงใหม่’พัง
นาบสมพงษ์ กล่าวว่า โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ตนมีส่วนในการบริหารจัดการมาโดยตลอด ก่อนจะถูกลดบทบาท กระทั่งไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เลย อย่างที่ จ.เชียงใหม่ที่เลือกตั้งล่าสุดได้มาเพียง 2 เขตทั้งที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของพรรค จุดเปลี่ยนมาจากการที่พรรคสนับสนุนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดถึง 2 สมัย แต่เมื่อได้ทำงานกลับทำงานแบบไม่เห็นหัวใคร ไม่เคยประสาน สส.หรือผู้สมัคร สส.ของพรรคที่ไม่ใช่พวกตัวเอง มันก็เลยพังอย่างที่เห็น และจุดแตกหักสุดท้ายกรณีที่พรรคมอบหมายให้เฟ้นหาผู้ที่มีศักยภาพ เพื่อเสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส.ที่เขต 1 จ.ลำพูน เมื่อได้คนที่มีความเหมาะสม และเริ่มให้ทำพื้นที่ก็ได้กระแสดี แต่พรรคตัดสินใจเลือกคนอื่นโดยไม่แม้แต่จะนำชื่อคนที่ตนไปชักชวน เข้าไปเป็นตัวเลือกในการพิจารณาด้วยซ้ำ เพราะผู้มากบารมีในพรรคบางคนเข้ามาล้วงลูก สั่งการจะเอาคนนั้นคนนี้ลงโดยไม่ทำโพล เมื่อกระแสพรรคเป็นแบบนี้ การวางตัวผู้สมัคร สส.ย่อมต้องละเอียดมากที่สุด จะทำกันแบบเดิมๆ ไม่ได้
ยืนยันไม่มีใครดูดไปร่วมพรรค
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า การตัดสินใจลาออกจากพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจเพียงลำพัง ไม่ได้หารือหรือแจ้งให้นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคทราบแต่อย่างใด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสายสัมพันธ์ครอบครัว และนายจุลพันธ์ถือว่ามีความอาวุโสทางการเมือง และมีแนวทางของตัวเอง ไม่อยากให้มองว่าตนทิ้งพรรคเพื่อไทยในวันที่พรรคตกต่ำ เพราะที่ผ่านมาทุ่มเทเต็มที่ให้กับพรรค และกับครอบครัวชินวัตรมาโดยตลอด ยอมรับว่าใจหายเเละเสียใจอย่างยิ่ง เพราะได้ร่วมบุกเบิกมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย สุดท้ายนี้ผมขอกราบขอบพระคุณนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตลอดจนผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทย และขอส่งกำลังและความปรารถนาดีไปยังทุกท่านที่ร่วมเดินทางกันมา
เมื่อถามถึงอนาคตทางการเมือง นายสมพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวอายุ 84 ปีแล้ว ในความเป็นจริงก็คิดที่จะพักผ่อน ปล่อยให้การเมืองเป็นเรื่องของคนรุ่นใหม่ แต่ก็มีหลายๆ เรื่องที่ยังคั่งค้างอยากผลักดันให้คนเชียงใหม่และคนไทยทั้งประเทศก่อนที่จะวางมือทางการเมือง หากมีใครเห็นความสำคัญเห็นความรู้ประสบการณ์ที่มีของตน ที่อาจไปช่วยเสริมในบางมิติให้นักการเมืองร่นลูกรุ่นหลานในลักษณะที่ปรึกษา ก็พร้อมและยินดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกพรรคไหนดูด เพราะแม้จะมีคนรู้จัก และสนิทสนมคุ้นเคยกับหลายพรรคการเมือง แต่คงไม่มีพรรคไหนกล้ามาดูดตนแน่นอน
‘สรวงศ์’คาดน้อยใจเชียงใหม่แพ้ปชน.
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อและอดีตหัวหน้าพรรค พท.ตัดสินใจลาออกจากพรรค ว่า เป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้ พรรค พท.มีความแตกต่างจากพรรคอื่น ในเรื่องเจนเนอเรชั่นแก็ป หรือช่องว่างระหว่างวัย ซึ่ง นายสมพงษ์ ก็ถือเป็นบุคลากรทางการเมืองและเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค เราค่อนข้างที่จะเสียใจเหมือนกันที่ท่านตัดสินใจแบบนี้ ตนได้คุยกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่และรองหัวหน้าพรรค ก็ได้พูดมาหลายรอบแล้วว่าท่านอยากจะพัก ด้วยวัย 80กว่าปี แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆที่ผ่านมา ทำให้ท่านชะลอไว้และขณะนี้ปลายสมัยประชุมแล้ว และจะยุบสภาในเร็ววัน เลยตัดสินใจลาออก
เมื่อถามว่า นายสมพงษ์ บอกว่า จ.เชียงใหม่เป็นพื้นที่เมืองหลวง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ หลังพรรคไปสนับสนุนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว เชียงใหม่เป็นฐานที่มั่นของพรรคพท.มาตลอด ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย แต่ถูกพรรคก้าวไกลชิงพื้นที่ไปได้พอสมควร เราได้มาแค่ 2 เขต ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพูดคุยกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากอะไร เพราะนายสมพงษ์ ก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ใน จ.เชียงใหม่ ท่านอาจจะเกิดการน้อยใจ ตนในฐานะเลขาธิการพรรค ก็ได้รับทราบเรื่องนี้มาพอสมควร แต่ในที่สุดนายจุลพันธ์ ก็คอยพูดคุยอยู่ แต่เดี๋ยวดูสถานการณ์ ตนมั่นใจว่านายสมพงษ์ กับพรรค คงไม่ได้แยกขาดจากกัน ท่านเองก็เป็นบุคลากร และตนเจอท่านก็เรียกพ่อทุกครั้ง ให้ความเคารพตลอด พูดคุยกันตลอด และในนามของพรรค พท.รู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ท่านตัดสินใจแบบนี้ แต่ว่าทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไป
ส่วนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่น ของฐานเสียงในพื้นที่หรือไม่ เพราะนายสมพงษ์ก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องพูดคุย ผู้หลักผู้ใหญ่ตัดสินใจแบบนี้ ในพื้นที่เองก็คงตั้งคำถาม และมั่นใจว่าพี่น้องในพื้นที่ ถ้าได้รับการชี้แจงแล้ว และนายสมพงษ์ไม่ได้ไปไหน ยังเป็นบุคลากรของพรรคอยู่ และยังช่วยอยู่เบื้องหลัง ตนมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจ
‘ไอติม’เย้ยพท.แพ้-ชนะอยู่ที่ประชาชน
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุคะแนนนิยมของพรรคประชาชนลดลง และจะไปเพิ่มคะแนนให้กับพรรคเพื่อไทยว่า เป็นความเห็นของนายสุริยะ ตนคิดว่าคะแนนของพรรคไหนเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับพรรคประชาชน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ นายสุริยะ เมื่อถามว่า ในส่วนพรรคปชน.จะเปิดตัวผู้สมัครเมื่อไหร่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า กรอบเวลาในการนำเสนอทั้งนโยบายและผู้สมัครรับเลือกตั้ง คงเป็นไปตามกรอบเวลาของการเลือกตั้ง แต่หมุดหมายที่แจ้งกับพี่น้องประชาชนได้ คือสัปดาห์หน้าพรรคจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญ คงเป็นจังหวะที่เราสามารถสื่อสารกับประชาชนให้เห็นถึงกรอบและแนวทางของพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้อยู่บ้าง คิดว่าภารกิจสำคัญที่เราต้องการจะทำในการเตรียมการเลือกตั้งครั้งนี้ คือทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า หากพรรคปชน.มีโอกาสเป็นรัฐบาลเราสามารถผลักดันการเปลี่ยนแปลงตามที่สื่อสารกับประชาชนมาโดยตลอดให้เกิดขึ้นจริงได้ ในมุมหนึ่งเราต้องการให้พรรคทำให้พี่น้องประชาชนทั้งเชื่อใจและเชื่อมือ ดังนั้นทุกอย่างที่เราทำก็จะมุ่งเป้าไปตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย ทีมบริหาร ที่อาจจะมีการนำเสนอก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไป รวมถึงผู้สมัครสส.ด้วย
เมื่อถามว่า ในจ.ลำพูนที่พรรคประชาชนมีนายกฯอบจ. แต่วันนี้มีพี่ชายของนายก อบจ.ลำพูนไปเป็นผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องไม่มองการเมืองเป็นเรื่องของครอบครัว เพราะฉะนั้นการที่มีบุคคลในครอบครัวเดียวกัน อาจจะสังกัดคนละพรรค มีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน หรือแม้กระทั้งลงสมัครสส.คนละพรรค ก็เป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องที่เขาใจได้ว่าบุคคลในครอบครัวก็อาจจะมีชุดความคิดทางการเมืองไม่เหมือนกัน ดังนั้นตนคิดว่า ก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนในการเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง
เปิดตัวแล้ว’อภิสิทธิ์-กรณ์’กลับปชป.
เวลา 16.30น.ก่อนเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปตย์คนใหม่ 1วัน เพจAbhisit Vejjajiva ได้โพสต์ภาพนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อม นายกรณ์ จาติกวณิช และทีมงานที่หน้ารูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผม ที่พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมข้อความ “อาสามารับใช้ประชาชนในฐานะลูกพระแม่ธรณีอีกครั้งครับ”ทั้งนี้ น่าจะเป็นการส่งสัญญาณชัดว่า พรุ่งนี้นายอภิสิทธิ์ จะเสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ซึ่งขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ คนที่ 7 จะได้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 10 โดยตำแหน่งการจัดวางบุคคลมาเป็นทีมผู้บริหารพรรคในตำแหน่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯนั้น ทางสมาชิกพรรคฯ ให้สิทธิ์แก่หัวหน้าพรรคคนใหม่ตัดสินใจเลือกคนมารับตำแหน่งนี้เอง ซึ่งคาดว่านายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ จะได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ คนใหม่ เนื่องจากเป็นผู้ที่นายอภิสิทธิ์ไว้วางใจมานาน และมีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน
เปิดรายชื่อกก.บห.พรรคชุดใหม่
ส่วนทีมงานที่เหลือ นายอภิสิทธิ์ ได้ฟอร์มทีมด้วยตัวเองไว้แล้ว ซึ่งจะผสมผสานกันทั้งคนเก่าและคนใหม่ โดยจะมีการเปิดตัวพร้อมกันทั้งคณะ หลังจากนายอภิสิทธิ์ได้รับเลือกจากที่ประชุมให้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว และเมื่อเสร็จกระบวนการทั้งหมดแล้ว นายอภิสิทธิ์จะขึ้นกล่าวแสดงวิสัยทัศน์แนวทางการนำพาพรรคประชาธิปัตย์ต่อสมาชิกพรรค สำหรับรายชื่อผู้บริหารพรรคบางส่วนมีชื่อ นายสกลธีภัทธิยกุล อดีตรองผู้ว่ากทม. มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม.นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร อดีตสส.นครสวรรค์ เป็นรองหัวหน้าพรรค ภาคเหนือ ขณะที่รองหัวหน้าพรรคภาคกลาง มีชื่อขงอนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหน้าพรรคพรรคภาคกลาง มานั่งอีกสมัย ส่วนรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ คือนายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองหัวหน้าพรรคภาคใต้ มานั่งเหมือนเดิม นอกจากนั้นยังมี นางการดี เลียวไพโรจน์ ผู้เชียวชาญด้านอนาคตศาสตร์และสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นรองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ ยังมี นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า มาเป็นรองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจที่เซอร์ไพรส์ มีชื่อ นายจุรี นุ่มแก้ว ดาวติ๊กต๊อก ชื่อดัง มานั่งรองหัวหน้าพรรคตามภารกิจด้วยเช่นกัน รวมชื่อ นายพงศกร ขวัญเมือง หรือเอิร์ธ บุญชาย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี