วันพุธ ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2568
วปอ.เปิดเวทีระดมความเห็นยกเลิก MOU 43-44 ด้าน"อดีตเสธ ทร."เปรียบผลไม้พิษ เครื่องมือแบ่งผลประโยชน์ปิโตรเลียม เชื่อ"ฮุนเซนและทายาท"ต้องการขยายอาณาเขตผลประโยชน์ทางทะเลด้านเกาะกูด ด้าน"ผู้แทน กต."ย้ำหลักการ จะไม่แบ่งทรัพยากรจนกว่าได้ข้อสรุปเขตแดน
เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 54 เปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU 43 และ 44 ระหว่าง ไทย-กัมพูชา เพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชน สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลเรื่องการทำประชามติยกเลิก MOU ทั้ง 2 ฉบับ
นายพิชยพันธุ์ ชาญภูมิดล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หนึ่งในผู้ร่วมเสวนา ระบุว่า แม้ขณะนี้เรื่อง MOU 43 - 44 อาจมีความเห็นที่หลากหลาย แต่มองว่า การทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ต้องยึดตามข้อเท็จจริง ซึ่งที่มาของ MOU ทั้ง 2 ฉบับ อยู่บนพื้นฐานการสร้างสันติภาพ และ ยับยั้งไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องเขตแดน เพื่อนำไปสู่การค้าการลงทุน ส่วนการเจรจาเรื่องเขตแดนเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ผ่านกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ที่ยังดำเนินการอยู่จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น หลักการของ MOU จึงไม่ใช่การยอมรับแผนที่ฉบับใดฉบับหนึ่ง เพื่อใช้อ้างอิงผลประโยชน์ เพราะเป็นคนละส่วนกับการเจรจาปักปันเขตแดน และหลักการกระทรวงการต่างประเทศ มองว่าจะไม่แบ่งทรัพยากรจนกว่าจะแบ่งเขตแดนได้
สอดคล้องกับ พลเรือเอก จุมพล ลุมพิกานนท์ อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม และโฆษกคณะทำงานศึกษา MOU กลาโหม ย้ำว่า การคง MOU 43-44 ระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่ได้ส่งผลเรื่องเขตแดน เพราะหากจะมีการเจรจาเรื่องเส้นเขตแดนต้องผ่านกลไกทวิภาคี โดยยึดในหลักเที่ยงธรรม และปัจจุบันก็ได้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาผสมผสาน เช่น เทคโนโลยีไรดาร์ LiDAR ซึ่งขณะนี้กรมแผนที่ทหารกำลังดำเนินการ ผ่านกลไกความร่วมมือของ JBC ไทย-กัมพูชา
ขณะที่ พลเรือเอก พัลลภ ตมิศานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตเสนาธิการทหารเรือ ระบุว่า ที่ผ่านมามีหลายเสียงเสนอให้ยกเลิก MOU 43-44 เพราะมีข้อกังวลเกี่ยวกับการอ้างอิงแผนที่ และสัมปทานปิโตรเลียม โดยเฉพาะ MOU44 ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางทะเล โดยเห็นว่า การจะยกเลิกหรือไม่ต้องพิจารณาข้อสังเกต 3 องค์ประกอบ คือ เนื้อหา กระบวนการจัดทำ และพฤติกรรมของทางกัมพูชา ซึ่งหากมองทั้ง 3 องค์ประกอบ พบข้อพิรุธที่อาจจะใช้ MOU 44 เป็นเครื่องมือแสวงผลประโยชน์เปรียบเหมือนผลไม้พิษที่แสดงให้เห็นว่า มีกลไกทวิภาคี แต่การใช้ในทิศทางใดขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่ต้องมีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต
อดีตสมาชิกวุฒิสภา ยังระบุถึงเรื่องผลประโยชน์ปิโตรเลียมในพื้นที่ทางทะเลด้านเกาะกูด จังหวัดตราด ว่า เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงมีข้อกังวลอยู่จริง แม้ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังยึดถือแนวเส้นที่ไทยประกาศไว้ แต่หากในอนาคตกัมพูชาเข้มแข็งขึ้นก็อาจจะขยับกำลังท้าทายอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ท้บซ้อน และจากข้อมูลเบื้องลึกพบว่า มีบุคคลอยู่เบื้องหลังการจัดสรรผลประโยชน์ทางทะเล นอกจากนี้ เชื่อว่า ฮุนเซน และทายาท ต้องการขยายอาณาเขตผลประโยชน์ทางทะเล และอาจจะหวังแบ่งผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ทำให้ในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมามีความพยายามที่จะเจรจาเรื่องนี้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี