ทั่วไทยแห่ใช้สิทธิ์ประเดิมวันแรก ‘คนละครึงพลัส’คึกคัก ยอดใช้จ่าย752ล้านบ.‘หนู’ปลื้มกระตุ้นศก.

ทั่วไทยแห่ใช้สิทธิ์ประเดิมวันแรก ‘คนละครึงพลัส’คึกคัก ยอดใช้จ่าย752ล้านบ.‘หนู’ปลื้มกระตุ้นศก.

วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ทั่วไทยแห่ใช้สิทธิ์ประเดิมวันแรก
‘คนละครึงพลัส’คึกคัก
ยอดใช้จ่าย752ล้านบ.
‘หนู’ปลื้มกระตุ้นศก.
จับ3ผู้ต้องหาโกงสิทธิ์
สกัดก่อนระบาดหนัก

คนไทยทั่วประเทศ แห่ใช้“คนละครึ่งพลัส”วันแรก คึกคัก ตั้งแต่เช้า หลายร้านค้าร่วมโครงการเชื่อว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ นายกฯเชิญชวนปชช.ใช้‘คนละครึ่งพลัส’ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ-สร้างรายได้ ยันคนที่ตกหล่นได้รับสิทธิ์‘เฟส2’แน่นอน ย้ำไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้าน บช.ก.-ก.คลัง เปิดปฏิบัติการปิดเกม‘รับ-แลก-ลวง’รวบ3ผู้ต้องหาโกงสิทธิ์รัฐ หลอกแลกเงินสด‘คนละครึ่งพลัส’ป่วนโซเชียล สกัดแผนก่อนระบาดหนัก

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 บรรยากาศทั่วประเทศวันแรกของประชาชนที่เริ่มการใช้สิทธิ์“โครงการคนละครึ่งพลัส”ร่วมกับรัฐบาล สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกินวันละ 400 บาทโดยซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ถึงเวลา 23.00 น. เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม นี้ โดยวันนี้เริ่มมีประชาชนทยอยใช้เงินโครงการดังกล่าวแล้ว ในการซื้อของในตลาดใกล้บ้าน


ชัยภูมิคึกคักแห่ใช้คนละครึ่งแต่เช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิ พบว่ามีประชาชนที่ได้รับสิทธิ์คนละครึ่ง ทั้งวงเงิน 2,000 บาท และ 2,400 บาท ออกมาจับจ่ายซื้อกับข้าวและอาหารกันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดแต่ละร้านมีการติดป้าย “ร้านนี้รับคนละครึ่ง” เป็นจำนวนมาก บางร้านเปิดขาย ตั้งแต่ก่อนเวลา 06.00 น.โดยเฉพาะร้านขายเนื้อหมูที่เข้าร่วมโครงการ มีลูกค้าทยอยมาเลือกซื้อเนื้อหมูเพื่อนำไปประกอบอาหารกันอย่างคึกคัก ขณะเดียวกัน มีประชาชนจำนวนมากเลือกซื้อเสื้อผ้าชุดสีดำไว้สวมใส่เพื่อร่วมไว้อาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าของร้านเสื้อผ้าชุดดำเผยว่าก่อนหน้านี้ขายได้เพียงเล็กน้อย แต่วันนี้มีลูกค้าใช้สิทธิ์คนละครึ่งมาเลือกซื้อกันตั้งแต่เช้า ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่าทุกวัน

ปราจีนบุรีแห่ใช้คนละครึ่งคึกคัก

จ.ปราจีนบุรี ที่ร้านค้าตลาดล่าง ในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี มีประชาชนไปจับจ่ายซื้อของกันคึกคัก ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็นในครัวเรือน อาทิข้าวสาร ไข่ น้ำมันพืช วันแรกผู้ใช้โปรแกรม ก็ยังมีปัญหาบ้างที่ผู้ใช้ยังใช้ไม่เป็นไม่คล่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องใช้จำเป็นและเครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร น้ำปลา น้ำมันพืช และอื่นๆที่ใช้ในครัวเรือน ราคาสินค้าของร้านก็ขายตามปกติที่เคยขาย ไม่มีบวกเพิ่มไม่มีชาร์จเพิ่ม ส่วนระบบในการซื้อขายก็เสถียรดีทางร้านต้องทำให้และช่วยเหลือลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบโครงการนี้ ขอให้รัฐจัดให้มีอีกตลอดไป

โคราชคึกคักแห่ใช้คนละครึ่งพลัสแน่น

ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน“เดิ่นของดีโคราช ตลาดนัดเทกระจาด ตลาดนัดขาดทุน เติมสุขคนโคราช” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29–30 ตุลาคม 2568เพื่อเป็นการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน กระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายซื้อสินค้าข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพในราคาถูก เกิดระบบเงินทุนหมุนเวียนกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก อีกทั้งยังเป็นการเริ่มเปิดใช้โครงการคนละครึ่งพลัสวันแรกของรัฐบาลอีกด้วย

ภายในงานมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ห้างร้านทั้งภาครัฐ และเอกชน ร่วมจัดแสดงจำหน่ายสินค้ามากมายกว่า 100บูธ โดยจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษลด 50% มากกว่า 200 รายการมีประชาชนจำนวนมากยืนต่อแถวรอรับคูปอง เพื่อซื้อสินค้าภายในงานจนแน่นขนัด ยังชำระค่าสินค้าผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสซึ่งเป็นการลดราคาได้เพิ่มมากกว่าเดิมอีกด้วย

คนละครึ่งศก.ชายแดนคึกคักอีกครั้ง

บรรยากาศในเขตอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังร้านค้ารายย่อยในตลาดและริมถนนสายหลักต่างพากันติดป้าย“ร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส” เพื่อดึงดูดลูกค้าให้กลับมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคักทั้งร้านจำหน่ายไก่ทอด หมูย่าง ปลาย่าง ร้านข้าวกล่อง ร้านกาแฟ รถเข็น และแผงลอยจำนวนมาก โดยลูกค้าทยอยใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า แม่ค้าหลายรายรู้สึกดีใจที่คนละครึ่งกลับมาอีกครั้ง ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายประชาชนในพื้นที่ชายแดน ก่อนหน้านี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ยอดขายวันนี้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจพื้นที่ชายแดนกลับมามีชีวิตชีวาทั้งร้านค้าขนาดเล็ก รถเข็นและแผงลอย

พัทยาใช้สิทธิคนละครึ่งพลัสคึกคั

โดยบรรยากาศวันแรกในการใช้สิทธิ์ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบว่าเป็นไปด้วยความคึกคักของประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ ต่างออกมาใช้สิทธิ์คนละครึ่งตั้งแต่เช้า อย่างต่อเนื่อง นายสัญญา เกชิด เจ้าของร้านโต้งชนวัวเผยว่าเป็นโครงการที่ดีมากทำให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย และมีเงินหมุนเวียนในตลาดทั้งจากพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าขายไก่ หมู หรือสินค้าอื่นๆโดยเงินหมุนเวียนไปถึงทุกกลุ่มคน ตั้งแต่เริ่มเปิดร้านลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านเลือกใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเกือบทุกโต๊ะการตอบรับดีมาก หวังว่าโครงการจะช่วยเพิ่มรายได้ในช่วงนี้ได้ดี เพราะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บุรีรัมย์แห่ใช้‘คนละครึ่ง’มากขึ้น

จ.บุรีรัมย์ พบตามร้านค้าจำหน่ายอาหารตามสั่งจังหวัดบุรีรัมย์ แผงขายผลไม้ร้านค้าขายอาหารสดแห้งและร้านค้าทั่วไป ในเขตเทศบาลนครบุรีรัมย์เริ่มมีประชาชนทยอยเดินทางเลือกซื้อสินค้าโดยส่วนใหญ่พยายามมองหาร้านค้าที่ติดตั้งป้าย ร่วมโครงการ‘คนละครึ่งพลัส’เพื่อจะได้สแกนจ่ายค่าสินค้ากับร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ ทำให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะมีประชาชนเข้ามาเลือกซื้อสินค้ามากกว่าร้านค้าทั่วไปยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ

สแกนคนละครึ่งร้านหมูย่างเมืองตรังคึกคัก

ที่ร้านตรังหมูย่าง ถนนห้วยยอด ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง บรรยากาศการจำหน่ายหมูย่างเริ่มคึกคักตั้งแต่เช้า เมื่อมีประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยเงิน ตามโครงการคนละครึ่งพลัสวันแรก ซึ่งหลายคนเคยใช้สิทธิ์คนละครึ่งตั้งแต่สมัยรัฐบาลลุงตู่มาแล้ว ทำให้ง่ายต่อการเติมเงินและสแกนจ่าย ขณะที่บางร้านค้าเจ้าของร้านยังไม่ได้ยืนยันตัวตน ทำให้ลูกค้ายังไม่สามารถสแกนจ่ายได้ แต่ยืนยันเป็นการสแกนจ่ายที่สะดวก รวดเร็วและส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าการขายกระเตื้องขึ้นมาก โดยเฉพาะหมูย่างซึ่งวันนี้ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 580 บาท จานเล็ก 150 บาท สแกนจ่ายแค่ 75 บาทก็อิ่มกันได้ทั้งครอบครัว

นายกฯเชิญปชช.ใช้คนละครึ่งพลัส

ช่วงเช้าที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงโครงการ‘คนละครึ่งพลัส’ที่เปิดให้ประชาชนใช้สิทธิ์วันนี้เป็นวันแรก ว่าขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนที่จะได้ใช้โครงการคนละครึ่งพลัสตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเป็นระยะเวลา 2 เดือน อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันออกมาใช้เงินเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยให้คนไทยทั้งประเทศมีโอกาสสร้างรายได้

ยันคนที่ตกหล่นได้รับสิทธิ์‘เฟส2’

ส่วนผู้ที่ตกหล่นในเฟสแรกนั้น นายกฯ ย้ำว่า จะได้รับสิทธิ์ในเฟส2ด้วยอย่างแน่นอน ตนได้หารือกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.การคลังแล้ว ขณะเดียวกันจะนำข้อมูลต่างๆไปแจ้งให้กับทาง รมว.การคลังทราบ อาทิปัญหาการใช้แอปพลิเคชันของผู้สูงอายุ,เครื่องมือสื่อสาร , หรือการลงทะเบียนของกลุ่มเปราะบาง เพื่อดูแลคนกลุ่มนี้ให้ทั่วถึง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามหลักความยั่งยืน

สำหรับผู้ที่ทุจริตในโครงการ‘คนละครึ่งพลัส’ด้วยการสแกนจ่ายแล้วไปแลกเงินสดแทนโดยหักเป็นเปอร์เซ็นต์จะย้ำในเรื่องนี้อย่างไรนายอนุทินกล่าวว่าก็ต้องประชาสัมพันธ์เยอะๆแต่หากมีการกระทำแบบนั้นจริง ส่วนตัวมองว่าไม่มีประโยชน์อะไร เพราะผิดกฎหมาย

โฆษกรบ.เตือนใช้ครั้งแรกใน11พ.ย.

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนประชาชนที่ร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส”จะต้องใช้สิทธิโครงการฯโดยซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการฯครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน“เป๋าตัง”ภายในวันที่11พ.ย.2568 หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวจะถือว่าไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯและถูกตัดสิทธิในโครงการคนละครึ่งพลัส ส่วนร้านค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า620,000 ร้าน กระทรวงการคลังยืนยันว่าจะไม่มีการส่งข้อมูลยอดขายให้กรมสรรพากรแต่อย่างใด ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการยังสมัครจนถึงวันที่19ธ.ค.2568นอกจากร้านค้ายังครอบคลุมถึงระบบขนส่งมวลชนสาธารณะทั้งบก น้ำ รางเช่นBTS MRTเพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน เพิ่มรายได้ให้คนทำงานขนส่งทั่วประเทศพร้อมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้

นายกฯปลื้มใช้วันแรกกว่า752.ล้าน

ต่อมา นายสิริพงศ์ อังสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ปลื้มกระแสโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ได้รับการตอบรับจากประชาชนและร้านค้าเป็นอย่างดีโดยข้อมูลการใช้จ่ายวันแรก (29 ตุลาคม 2568) ณ เวลา 15.00 น.มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส สำเร็จแล้ว 3.60 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 752.25 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 379.44 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 372.80 ล้านบาท

คาดเงินสะพัดกว่า8.8หมื่นล้าน

น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมของร้านค้าชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ“คนละครึ่งพลัส”ที่ตลาดนานาเจริญ,ตลาดเอ.ซี อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ประกอบการร้านค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และตื่นตัวต่อโครงการนี้เป็นอย่างมาก มีหลายรายเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชนได้จริงพร้อมขอให้รัฐบาลพิจารณาขยายโครงการต่อเนื่องไปยังเฟส2อีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าโครงการคนละครึ่งพลัสจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้กว่า 88,000ล้านบาท และส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21-0.22ภายในปี 2568

บช.ก.-คลังโชว์รวบ3ผู้ต้องหาโกงสิทธิ์

เวลา12.30น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พร้อมด้วย นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ร่วมแถลงผลเปิดปฏิบัติการปิดเกม“รับ–แลก–ลวง”สกัดขบวนการโกงสิทธิรัฐสามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วยน.ส.วันทนีย์ อายุ 24 ปี น.ส.ทิพย์เทวี อายุ 31 ปี และ น.ส.นาตาชา อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญา โดยจับกุมผู้ต้องหา ได้ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ, จ.อุดรธานี และ จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่องและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่อง ข้อหา“ทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทฯ , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ”

ร้านค้าทุจริตป่วนโซเชียลหลอกแลกเงินสด

พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์กล่าวว่าจากโครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเป็นโครงการตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ ลดรายจ่ายและภาระค่าครองชีพของประชาชน ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นอีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าและการให้บริการผ่านระบบดิจิทัล แต่ก็มีผู้ที่ฉวยโอกาสกระทำทุจริตเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางโฆษณาเชิญชวนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการให้นำวงเงินตามสิทธิมาแลกรับเงินสด โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ บิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดการหมุนเวียนเงินในระบบฐานรากด้วย

ทางบก.ปอศ.จึงร่วมกับกระทรวงการคลังโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เฝ้าระวังติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการฯ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ช่องทางต่าง ๆจนพบว่ามีบุคคลที่โพสต์ข้อความสาธารณะผ่านเฟซบุ๊กเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปมาแลกรับเงินแทนการใช้สิทธิจ่ายเงินซื้อสินค้า หรือบริการตามมูลค่าจริง ซึ่งทำผิดต่อกฎหมาย ขัดต่อหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯบิดเบือนข้อเท็จจริง แสดงเจตนาทุจริต และก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อประชาชนทั่วไปว่าสามารถนำวงเงินที่ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ไปแลกรับเป็นเงินสดกับร้านค้าโดยไม่จำเป็นต้องใช้จ่าย หรือซื้อสินค้า ซึ่งล้วนเป็นข้อความอันเป็นเท็จทั้งสิ้นตลอดจนไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่กำหนดเป้าหมายโครงการฯ ด้วย

คดีนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ที่โพสต์เฟซบุ๊กโฆษณาดังกล่าว โดยเชิญชวนผู้มีสิทธิเข้าร่วมแลกวงเงิน เป็นเงินสดแทนการใช้จ่ายจริง โดยหักส่วนต่างและแบ่งผลประโยชน์ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 พร้อมด้วยพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิดอีกหลายรายการ

สอบสวน น.ส.วันทนีย์รับสารภาพว่าเนื่องจากตนเห็นข้อมูลจากสื่อโซเชียลเลยต้องการหารายได้พิเศษคิดค่าส่วนต่าง10-20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ต้องหารายอื่นให้การปฏิเสธจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.ดำเนินคดีต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top