‘ธรรมนัส’ปัด ให้สัญญาเก้าอี้รมต.ล่วงหน้า ปม‘ชนนพัฒฐ์’รอศาลตัดสิน

‘ธรรมนัส’ปัด ให้สัญญาเก้าอี้รมต.ล่วงหน้า ปม‘ชนนพัฒฐ์’รอศาลตัดสิน

วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ธรรมนัสปัด

ให้สัญญาเก้าอี้รมต.ล่วงหน้า

ปมชนนพัฒฐ์รอศาลตัดสิน

ธรรมนัสยันไม่เคยสัญญามอบเก้าอี้ รัฐมนตรีให้ใครล่วงหน้าเผยปม สส.ชนนพัฒฐ์ไม่กระทบฐานเสียงภาคใต้ ทุกอย่างอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม ด้าน อัจฉริยะมอบหลักฐานเพิ่มให้ปปง.สอยสส.สงขลา ขณะที่ปชป.ผุดแคมเปญเปิดฟ้าใหม่ไล่เมฆเทาเปิดข้อมูลอาชญากรรมข้ามชาติ ฟอกเงินลามโยงอดีตรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกระแสพรรคกล้าธรรมภายหลังลงพื้นที่ภาคใต้ว่า เราคงไม่พูดว่า ดีหรือไม่ดี เอาเป็นว่าตนเดินจากสนามเข้าเวทีที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระยะทาง 200 เมตรใช้ระยะเวลาชั่วโมงเต็มๆ พี่น้องประชาชนให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปกับตน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนฐานราก อยากให้ตนแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่เป็นวลีไปวันๆ


เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้เคยสัญญาจะตั้งใครเป็นรัฐมนตรีล่วงหน้าหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มี ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าถามเรื่องที่คนพูดแล้ว เป็นไปไม่ได้ การจัดตั้งรัฐมนตรี ต้องตรวจคุณสมบัติละเอียดยิบ ขั้นตอนของพรรคเราก็ละเอียดยิบ ไม่คิดว่าใครจะตั้ง หรือคิดว่าจะเป็นแล้วได้เป็น

เมื่อถามว่า กรณีนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม จะมีผลต่อกระแสการเลือกตั้งของพรรคกล้าธรรมในภาคใต้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่เกี่ยว พรรคเราทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือการบังคับใช้กฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ใครผิดก็ว่าไปตามผิด

“คนที่มีคุณสมบัติลงสส.ตามรัฐธรรมนูญกำหนดชัดเจน ถ้ามีคุณสมบัติต้องห้ามก็ลงไม่ได้ อย่าไปคิดมาก อย่าไปสร้างวลีให้เกิดประเด็นกับสังคม ตอนนี้บ้านเมืองเราเดือดร้อนหลายเรื่อง อยากให้มองปัญหาประเทศชาติก่อน บางทีเราไปฟังเรื่องนู้นเรื่องนี้ไม่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่หากฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมืองอย่าไปกังวลเรื่องพวกนี้ ตนอยู่การเมืองมาตั้งแต่ปี 2562 ยืนอยู่โต้ตอบได้ทุกเรื่อง ทุกประเด็น แต่ตนไม่ได้ไปท้าทาย แต่ถ้าเราถูกตรวจสอบภายใต้รัฐธรรมนูญ เราต้องพร้อมที่จะรับสถานการณ์ ไม่ใช่คนบางคนโดนหน่อย ร้อง ไม่ใช่ เราเป็นนักการเมืองต้องทำใจ

เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าพรรคกล้าธรรมจะถูกพุ่งเป้าโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นพิเศษ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะตนได้มอบหมาย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ตั้งวอร์รูมและฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าเรื่องทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น เพราะสังคมในเวลานี้ พรรคที่กำลังโตถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากหลายภาคส่วน ซึ่ง 2-3 วันที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ภาคใต้ ตนกลับมีความรู้สึกว่าประชาชนฝากความหวัง ตนจึงหยุดไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อ ตนเน้นย้ำเสมอว่า “เกียรติของทหารคือตายในสนามรบ เป็นนักการเมืองถ้าจะต้องตาย ต้องตายบนเวทีการเมือง เป็นเกียรติของนักการเมือง ไม่ต้องพูดเพราะ พูดสวย ไม่ใช่สไตล์ของตน“

วันเดียวกันที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหลักฐานเส้นทางการเงิน ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวพันเครือข่ายนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม กับพวก ร่วมกันฟอกเงินมากกว่า1,000ล้านบาท และเงินอีกส่วนที่คาดว่า สส.ชนพัฒน์ซุกซ่อนผ่านระบบเงินคริปโต เพื่อขอให้นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อให้ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์จากพยานหลักฐานที่มอบให้เพิ่มเติม

นายอัจฉริยะ ระบุว่า พยานหลักฐานที่นำมามอบให้วันนี้เป็นเส้นทางการเงินที่รวบรวมมาตั้งแต่ ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายของสส.ชนนพัฒฐ์ รวมมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 15,000 ล้าน โดยเฉพาะคดีของ”บอสตาล”เชื่อมามีเส้นเงินถึง สส.ชนนพัฒฐ์ ประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีตำรวจอีกหลายนายที่รับเงินจาก สส.ชนนพัฒฐ์ไป เงินส่วนนี้ถือเป็นนิติสัมพันธ์ที่ต้องเอามาประกอบในกระบวนการอายัดทรัพย์สินของสำนักงาน ปปง. เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตนเองเดินทางมายื่นสำนักงาน ปปง. เพิ่มเติมวันนี้ประ มาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งทางสำนักงาน ปปง.ระบุในที่ประชุมกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธ ศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ว่าไม่มีข้อมูลส่วนนี้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร (สภ.)สงขลา ได้ส่งพยานหลักฐานและทรัพย์สินให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการเพียง 36 ล้านบาท

“การที่มีคลิปนายชนนพัฒฐ์ ระบุว่าจะกลับไปเป็นรัฐมนตรีอีกหลังจากเคลียร์คดีความดังกล่าว ผมไม่ทราบว่ามีการไปตกลงอะไรหรือไม่ หรือมีการตกลงกับผู้มีอำนาจ เรื่องนี้แสดงถึงความไม่รับผิดชอบ ส่วนตัวมองว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายกฎหมาย และดูถูกสำนักงาน ปปง. ดูถูกคนที่ทำคดี การที่นายชนนพัฒฐ์ปรากฎชื่อในคดีเว็บพนัน และการฟอกเงินถ้าเป็นตนเองจะเอาเวลานั้นหาหลักฐานมาพิสูจน์ ไม่ใช่การพูดกับประชาชนว่าจะกลับมาเป็นรัฐมนตรี สุดท้ายแล้ว ผมก็อยากจะดูว่าใครจะออกมาปกป้องสส.รายดังกล่าวอีกต่อไป”

ที่พรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ในการเดินหน้าทำการเมืองสุจริต ขจัดทุนเทา ผู้มีอิทธิพล รวมถึงปัญหาสแกมเมอร์ผ่านแคมเปญ ‘’เปิดฟ้าใหม่ไล่เมฆเทา’’ ของพรรคฯ หลังสหรัฐอเมริกา กำลังออกร่างกฎหมายการต่อต้านสแกนเมอร์ และมีแบล็คลิสต์ 43 รายชื่อ ซึ่งหาก 43 คนดังกล่าว เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ก็จะต้องดำเนินการโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ประเทศไทยถูกตรวจสอบจากนานาชาติ และตกเป็นเป้าสายตานานาชาติเป็นแหล่งฟอกเงิน โดยยืนยันว่า ไม่ได้มุ่งหวังโจมตีทางการเมือง แต่เพื่อประโยชน์สาธารณะ

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าจากการตรวจสอบของคณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์ พบการกระทำต้องสงสัยของบุคคลเช่นนายยิม เลี๊ยก นักธุรกิจชาวกัมพูชา, นายเบญจามินทร์ เมาเออร์เบอร์เกอร์ นักธุรกิจและล็อบบี้ยิสต์ รวมถึงยังเชื่อมโยง บริษัท และสถาบันการเงิน ทั้งในไทยและต่างประเทศ เช่น B.I.C. BANK CAMBODIA และ B.I.C. BANK LAOS ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย เช่น บริษัทที่มีทุนจดทะเบียน 330 บาท แต่สามารถซื้อบริษัทที่มีทุนขนาดใหญ่ และกู้เงินได้มากกว่า 600 ล้านได้ หรือรวมถึงบริษัทที่หลีกเลี่ยงกฎหมาย พยายามนำต่างด้าวมาเป็นนอมินีถือหุ้นอย่างซับซ้อน เพื่อให้เกินร้อยละ 49 ตามที่กฎหมายไทยจำกัด หรือเชื่อมโยงบริษัทพลังงานใหญ่ของประเทศ ซึ่งเกี่ยวพันกับอดีตรัฐมนตรีช่วยคนหนึ่ง

โดยยืนยันว่าพรรคฯจะใช้หลักสากลมาตรวจสอบ โดยเฉพาะธุรกรรมการเงิน เพื่อให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งต่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องของรัฐตรวจสอบ เช่น ปปง., กลต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่ออายัดเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจมีความเชื่อมโยงถึงการเมือง เพราะหลายเหตุการณ์มีการตั้งข้อสังเกต มีบุคคลพยายามเข้ามาถือหุ้นบริษัทพลังงานไทย และยังอาจโยงถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชนด้วย พร้อมเปิดเผยอีกว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ รวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้น หัวหน้าพรรคฯ จะมีการแถลงข้อเรียกร้อง และข้อเสนอของพรรคฯ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top