วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘ศาลรัฐธรรมนูญ’ ตีตกคำร้อง MOA ‘เสี่ยหนู-เท้ง’ ระบุเป็นเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกัน ไม่ใช่ข้อตกลงยินยอมให้ครอบงำ ไร้พยานหลักฐานล้มล้างการปกครอง
วันที่ 19 พฤศจิกายน 2568 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมวินิจฉัยคดีที่นายนิยม นพรัตน์ (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลง (MerMorandum of Agreement : MOA) ตกลงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคประชาชนพิจารณาให้ความเห็นชอบ ผู้ถูกร้องที่ 1 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อนำไปสู่การแก้ไข หรือจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนหรือกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญ หมวด 15 อันเป็นการได้มาซึ่งอำนาจฝ่ายบริหารที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยมติพรรคการเมืองยินยอมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตกอยู่ภายใต้ข้อผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใด ๆ โดยมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันไว้ล่วงหน้า เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา114 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
ทั้งนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดและอัยการสูงสุดมีหนังสือแจ้งว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองมิได้เป็นการฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 อีกทั้งยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าเป็นการใช้ สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ
โดยผลการพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา การอภิปรายแล้วเห็นว่า MOA ระหว่างผู้ถูกร้องที่ 1 กับผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นการเจรจาหรือการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสองกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
“ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และเมื่อมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว คำขออื่นย่อมเป็นอันอันตกไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี