วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
'ชลธิชา'ซัดผิดหวัง'รมว.ยุติธรรม'ไร้เดียงสา หลังให้สัมภาษณ์ปมนักโทษจีนเทาใช้คุกไทยเป็นที่บำเรอกามเพิ่งเคยเจอ ชี้'ระบบสมเด็จ'ในเรือนจำมีมานานแล้ว
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2568 น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "ดิฉันผิดหวังอย่างยิ่งกับ “ความไร้เดียงสา” ของ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม” ที่ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีเอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องขังชาวจีนภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า “ตั้งแต่รับราชการมาจนเกษียณอายุราชการ เพิ่งเคยพบเห็นเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้”
ดิฉันก็พยายามจะเห็นใจท่านว่าเพิ่งจะมาเป็นรัฐมนตรีวินาทีสุดท้ายของครม.อนุทิน ท่านอาจจะไม่ได้ทันตั้งตัวว่าเก้าอี้นี้จะหล่นมาใส่ท่าน หรือแม้ว่าท่านอาจจะเป็นรัฐมนตรีในระยะเวลาอันสั้น แต่ตั้งแต่วินาทีแรกที่ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีกรมราชทัณฑ์อยู่ใต้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ท่านจำเป็นต้องทำการบ้านให้หนักขึ้น เพื่อเรียนรู้งานในความรับผิดชอบของท่านทั้งหมด ซึ่งต้องรวมถึงงานราชทัณฑ์ ซึ่งถือเป็นปลายน้ำของกระบวนการยุติธรรมด้วย และระบบสมเด็จภายในเรือนจำถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมและโลกโซเชียลมาโดยตลอด ถ้าท่านทำการบ้านอย่างลึกซึ้ง ท่านจะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าระบบนี้เป็นปัญหามานานแล้ว
การให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สะท้อนให้เห็นว่า ตลอดระยะเวลาสองเดือนในการบริหารราชการแผ่นดิน ท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานยุติธรรมทุกส่วนใต้การบังคับบัญชาของท่านอย่างแท้จริง ดิฉันอดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าท่านใช้เวลาสองเดือนที่ผ่านมาเพื่อทำอะไรอยู่กันแน่ ดิฉันเองก็ไม่อยากให้เกิดข้อครหาว่า ท่านมานั่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเพราะเป็นเด็กในสังกัดของบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เพื่อคั่นเวลาเคลียร์คดีฮั้ว สว. ที่เกี่ยวข้องกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ท่านจึงควรต้องพิสูจน์ตัวเองว่าท่านมีความเหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรีนี้ ผ่านการทำงานหนักและผลงานที่ชัดเจน
มิหนำซ้ำ สิ่งที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งคือ ท่านรับรู้ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์นี้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว แต่เพิ่งจะออกมาแสดงความตกใจกับเหตุการณ์ และแสดงท่าทีอยากจะรื้อระบบคุกใหม่ทั้งประเทศอีก มันไม่ช้าไปหน่อยหรือ? สำหรับเจ้ากระทรวงที่รับผิดชอบกรมราชทัณฑ์โดยตรง
แม้ดิฉันจะเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการยกระดับความโปร่งใสในการดำเนินงานของเรือนจำ แต่ดิฉันคาดหวังว่าจะได้เห็นแนวทางนโยบายที่เป็นรูปธรรมของท่านรัฐมนตรีมากกว่านี้ ไม่ใช่เพียงแค่แสดงความตกใจหลังจากผ่านเหตุการณ์มาเกือบสัปดาห์ แล้วรับปากแบบส่งๆต่อหน้าสื่อมวลชน แต่ไม่มีแผนปฏิรูปที่ชัดเจนว่าท่านจะทำอย่างไร สุดท้ายแล้วก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การเอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องขัง หรือที่เรียกกันว่า “ระบบสมเด็จ” ไม่ได้เพิ่งจะเกิดขึ้นกับกรณีผู้ต้องขังจีนเทานี้เป็นกรณีแรก แต่ระบบสมเด็จเป็นปัญหาของระบบราชทัณฑ์ไทยที่มีมาอย่างยาวนานและผู้ต้องขังที่เป็นสมเด็จในเรือนจำก็ไม่ได้มีเพียงแค่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่รวมไปถึงผู้ต้องขังคนไทย หรือสัญชาติใดๆก็แล้วแต่ ที่มีเงิน มีอิทธิพล มีอำนาจเหนือกว่าผู้ต้องขังคนอื่นในเรือนจำ โดยมักจะคอยควบคุมความเป็นอยู่ภายในเรือนจำตั้งแต่เรื่องเล็กน้อย จนอาจไปถึงระดับของการทุจริตอำนวยความสะดวก(ทุจริต) เช่น เรื่องอาหารการกิน ยารักษาโรค และจากที่ดิฉันเคยรับทราบข้อมูลมา อาจไปไกลกว่านั้นจนถึงการติดสินบนเจ้าหน้าที่ เพื่อให้จัดหาและนำสิ่งของอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จากภายนอกเข้าไปยังเรือนจำเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ตนเองและพวกพ้องผู้ต้องขัง ซึ่งต้องจ่ายแพงกว่าที่ขายกันในท้องตลาดหลายเท่าตัว สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำในเรือนจำและความล้มเหลวในการควบคุมดูแลผู้ต้องขังอย่างชัดเจน
ที่สำคัญคือ เราจะเห็นว่า เวลาเกิดเรื่องฉาวขึ้นในเรือนจำ กระทรวงก็จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่เรื่อยไป แต่คำถามของดิฉันคือ คนไทยจะสามารถไว้วางใจการ “ตรวจสอบกันเอง” ของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ได้หรือไม่ เพราะการตรวจสอบพวกพ้องกันเอง จึงไม่แปลกที่เวลาเกิดเรื่องฉาวทีไร ก็ไม่สามารถลบคำครหาของประชาชนได้ ดังนั้น ด้วยความปรารถนาดีค่ะ หากกระทรวงยุติธรรมต้องการแสดงความจริงใจอย่างแท้จริง ท่านต้องเปิดให้มีกลไกการตรวจสอบที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วย เพื่อความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม
ดิฉันเห็นว่า เมื่อเกิดกรณีฉาวเช่นนี้ขึ้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯแล้ว คงไม่มีความจำเป็นที่กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม จะปิดตาข้างเดียวทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีกต่อไป ดิฉันหวังว่าท่านรัฐมนตรีจะเอาจริงเอาจังกับการปราบระบบสมเด็จให้หมดไปจากระบบราชทัณฑ์ในยุคสมัยของท่าน อย่างน้อยท่านจะได้มีผลงานสักหนึ่งชิ้นก่อนสิ้นสุดบทบาทรัฐมนตรี จะได้ยุติข้อครหาว่าท่านเป็นรัฐมนตรีแค่คั่นเวลา และหากท่านจะเอาจริงกับเรื่องนี้ ดิฉันก็พร้อมจะสนับสนุนค่ะ"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี