ปล่อยหนูเข้าป่า!‘จุลพันธ์’ฟาด‘ดีลการเมือง’ที่พังพินาศที่สุด ‘ปชน.-ภท.’ต้องร่วมรับผิดชอบ

ปล่อยหนูเข้าป่า!‘จุลพันธ์’ฟาด‘ดีลการเมือง’ที่พังพินาศที่สุด ‘ปชน.-ภท.’ต้องร่วมรับผิดชอบ

วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 10.35 น.

‘จุลพันธ์’ฟาด‘ปชน.-ภท.’ต้องรับผิดชอบร่วมกัน มองเป็น‘ดีลการเมือง’ที่พังพินาศที่สุด ผิดหวัง‘เท้ง’ปล่อย‘หนูเข้าป่า’ให้นายกฯ‘ยุบสภา’หนีการตรวจสอบ ซัดรัฐบาลลอยตัวเหนือความผิด ชี้ไม่ใช่เวลาถามหาความจริงใจ ‘นายกฯ’ต้องทำตามกฎหมาย ส่งคำถามประชามติให้กกต.เท่านั้น

เมื่อเวลา 08.50 น.วันที่ 12 ธันวาคม 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไปไม่ถึงวาระ 3 ถือว่าเกินความคาดหมายหรือไม่ ว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่พูดมาโดยตลอด เพราะเห็นมาตั้งแต่ต้นว่าเอ็มโอเอที่ทำมาจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาชน (ปชน.) มีแต่ทางล้มเหลว เพราะเป็นดีลการเมืองที่พังพินาศที่สุดเท่าที่เคยมีมา และขัดต่อหลักการประชาธิปไตย และเมื่อเข้าสู่ดีลนี้กันแล้วมีแต่ไปสู่ความผิดพลาด สุดท้ายปรากฏชัดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม


นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า เราสงสัยมาโดยตลอดถึงเรื่องความจริงใจรัฐบาลที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจุดนี้ตนไม่แน่ใจว่าพรรคปชน. เพิ่งเห็นหรือไม่อย่างไรเพราะเราพยายามเตือน พยายามบอกตั้งแต่ต้นอยู่แล้วสุดท้ายก็ปรากฏชัด เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่ประชุมรัฐสภา ทางพรรคภท. โหวตให้กับสว. โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถไปคุยกับสว.ได้ หรือไปควบคุมไม่ได้ จึงจำเป็นต้องยกมือให้เพื่อหวังว่าวาระ 3 จะผ่าน หากจะมีคนเชื่อก็มีแต่พรรคปชน. เพราะพรรคการเมืองอื่นเห็นอยู่แล้วว่าการเคลื่อนไหวของสว.ชุดนี้ มีความเชื่อมโยงกับพรรคภท. อย่างไร

“จริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องประหลาด ซึ่งนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ก็ได้พูดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่าที่เข้าสู่เอ็มโอเอฉบับดังกล่าว เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทย มีอำนาจเหนือที่จะเจรจากับสว.ชุดนี้ ฉะนั้น นายณัฐพงษ์คงเชื่อเหมือนกับผมว่ากระบวนการฮั้วสว.นั้นมีจริง” นายจุลพันธ์ กล่าว

เมื่อถามถึง กรณีที่สถานการณ์มาถึงจุดนี้ดูเหมือนว่าพรรคปชน.กับพรรคภท.โยนความผิดกันไปมา นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องรับผิดชอบทั้งคู่ สำหรับพรรค พท.ต้องแสดงความผิดหวังกับรัฐบาลก่อน เพราะสภาวะประเทศขณะนี้ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เรื่องน้ำท่วมที่ยังแก้ไขไม่เสร็จ รัฐบาลกลับปัดทิ้งภาระความรับผิดชอบ และเลือกที่จะหนีการตรวจสอบผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจและยุบสภา ทิ้งให้ประชาชนเดือดร้อนต่อไป แต่แน่นอนว่ากลไกภาครัฐยังสามารถเดินต่อไปได้ ทหารก็ดูแลชายแดนไป แต่รัฐบาลปัดความรับผิดชอบของตนเอง ยุบสภาหนีการตรวจสอบ

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ในขณะที่ความผิดหวังที่สองของพรรค พท. คือพรรคปชน. ซึ่งยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกับนายณัฐพงษ์จริง ที่มาขอให้พรรค พท.ชะลอการยื่นอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 และสุดท้ายมาพูดคุยกันว่าหากการลงมติในวาระที่ 2 มีปัญหาหรือแพ้ นายณัฐพงษ์ก็เชื่อว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจ ก็จะมาร่วมกับพรรค พท. ในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งตอนที่นายณัฐพงษ์พูดในสภา ตนอยู่ด้านนอก แต่เมื่อได้ยินก็รีบเข้ามาทันที เพราะตอนที่นายณัฐพงษ์พูด ก็ชัดเจนว่า หากญัตติโหวตแพ้ ก็ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา และส่งสัญญาณว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

“ซึ่งต้องใช้คำว่า ปล่อยหนูเข้าป่า เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาลสามารถที่จะยุบสภาได้ทัน เพื่อที่จะไม่ต้องตรวจสอบกัน เป็นการเปิดโอกาสให้รัฐบาล ไม่ต้องโดนตรวจสอบ ซึ่งเราผิดหวังทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ และอีกหลายพรรคการเมือง ที่มาลงชื่อไว้กับผม ก็พร้อมที่จะตรวจสอบ เรารอพรรคประชาชนว่าจะเอาอย่างไร”นายจุลพันธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่าพรรคปชน. ตามเกมไม่ทันทั้งเอ็มโอเอ หรือการชิงยุบสภาก่อนที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตามไม่ทันหรือเห็นว่าวิธีการนี้ดีกว่า ตนไม่ทราบ ท่านอาจจะเลือกให้มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งแทนการตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งการตรวจสอบรัฐบาลมีปัญหาเยอะทั้งเรื่องของกรณีเขากระโดง ฮั้วสว. การทุจริตคอรัปชั่น MotoGP และอีกหลายสิ่งหลายอย่าง

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า 2 เดือนที่ผ่านมาประเทศไทยและคนไทยไม่ได้อะไรเลย คนที่ได้ทั้งหมดเต็มๆ คือ พรรคภท.ที่ได้สะสมกำลัง เสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มอนุรักษ์นิยม และได้โยกย้ายข้าราชการเตรียมไว้สำหรับการเลือกตั้ง ซึ่งคนไทยไม่ได้อะไร กลับต้องมาเผชิญกับรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ที่บริหารงานน้ำท่วมล้มเหลว งานชายแดนจนกระทั่งลุกลาม ซึ่งทั้ง 2 พรรคที่อยู่ในเอ็มโอเอต้องรับผิดชอบทั้งคู่

เมื่อถามว่า สถานการณ์แบบนี้เหมือนปล่อยให้รัฐบาลลอยตัวเหนือความผิดหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ถูกต้อง ความจริงแล้วกระบวนการถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ สภาก็เดินหน้ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อได้ สภามีหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีเข้ามาใหม่ หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลุดออกจากตำแหน่ง ซึ่งยังสามารถเสนอชื่อเข้ามาได้ ไม่ได้ผิดอะไร และการแก้ไขปัญหาประเทศก็เดินหน้าต่อ เมื่อมีรัฐบาลใหม่มาก็ประสานงานต่อแค่นั้น แต่ตอนนี้คือมีสุญญากาศ

เมื่อถามย้ำว่า เป็นการเตะหมูเข้าปากหนูใช่หรือไม่ พรรค พท.จะตั้งเกมรับมืออย่างไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราไม่ตั้งเกม เพราะเราเตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว วันนี้ต้องบอกประชาชนว่าอย่าสิ้นหวัง วันนี้ต้องใช้เวทีการเลือกตั้งนำพาประเทศกลับสู่ความถูกต้อง พรรค พท.พร้อมเป็นตัวเลือก

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องสู้กับกระแสคลั่งชาติ และสถานการณ์ชายแดน จะทำอย่างไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กระแสใดก็ตามเราก็ต้องฟันฝ่า และต้องแสดงความจริงใจของเราให้กับประชาชน จุดยืนของพรรค พท. เรามั่นคง

ต่อข้อถามว่า มองว่าสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนมีผลกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า มีแต่พูดคุยกันว่า จะจัดการเลือกตั้งได้หรือไม่ ในกรณีที่ไม่สามารถจัดเลือกตั้งพร้อมกันทั้งประเทศ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา สส. ของพรรคภท. เดินพูดทั้งวัน ซึ่งกลไกตามรัฐธรรมนูญไม่มีอะไรติดขัด เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดว่า ต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์หรือวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 แต่ถ้าจะให้ทันตามกรอบเวลา การตั้งคำถามประชามติ คงต้องเป็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีประกาศให้เลือกตั้งทั้งประเทศแล้ว กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งก็เขียนชัดเจนว่า ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินจำเป็น แต่ละหน่วยเลือกตั้งสามารถเลื่อนการเลือกตั้งในแต่ละจุดนั้นได้ แต่ไม่กระทบการเลือกตั้งภาพรวม ซึ่งยังมองไม่ออกว่า รัฐบาลมีความประสงค์ที่จะดำเนินการอย่างที่ว่า จะดำเนินการด้วยกฎหมายช่องใด แต่ต่อให้ดำเนินการจริง ก็สามารถทำได้ถ้ามีช่องทางทางกฎหมาย แต่นั่นคือความพังพินาศของท่าน เพราะประชาชนคนไทยคงไม่รอด้วย

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสงสัยสถานการณ์การชายแดนที่เกิดขึ้น อาจจะมีการเอื้อต่อการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่ง นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้อย่าคิดมาก ตนก็ติดตามข่าวสาร แต่นาทีนี้สิ่งที่ต้องทำคือ การส่งกำลังใจให้ทหารที่บริเวณชายแดน ประชาชนที่ต้องประสบภัย และต้องอพยพ ซึ่งตัวแทนของพรรค พท.เองก็อยู่ในพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่า การชิงยุบสภาก่อนจะส่งผลต่อการปราบสแกมเมอร์หรือไม่นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กระบวนการการแก้ไขปัญหาต่างๆ หน่วยงานรัฐก็ต้องดำเนินการต่อไป อย่าให้สะดุดติดขัดตามกรอบกฎหมายที่มี ในส่วนของรัฐบาล การรักษาการก็สามารถดำเนินการภารกิจที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ ไม่ใช่ต้องยุติไปทั้งหมด เมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็ไปสานต่อ ซึ่งไม่ทำให้การแก้ปัญหานั้นหยุด

เมื่อถามว่า จะได้เห็นความจริงใจสุดท้ายของรัฐบาล ในการเดินหน้าทำคำถามประชามติหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร สุดท้ายพวกเราที่อยู่ในสภาก็คุยกัน เพื่อที่จะเร่งกระบวนการในการผ่านญัตติเรื่องคำถามประชามติ คำถามที่ 1 ว่า เห็นควรให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ ซึ่งจบด้วยดี

“ตอนนี้ไม่ได้ถามถึงความจริงใจรัฐบาล เมื่อมีคำถามประชามติส่งไปจากรัฐสภาไปยังรัฐบาล ตามกฎหมายรัฐบาลต้องดำเนินการ ดังนั้น ไม่ต้องไปถามหาความจริงใจ ผมว่าความจริงใจเขาหมดตั้งแต่เข้าสู่เอ็มโอเอและกระบวนการลงมติมาตรา 256/28 เมื่อคืนนี้แล้ว วันนี้ไม่ได้มาถามหาความจริงใจ แต่ขอให้ทำตามกฎหมายคือ คำสั่งที่รัฐสภาส่งไปให้ถาม ก็ไปถามซะ” นายจุลพันธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม นอกจากวันนี้พรรค พท.จะมีการเรียกประชุมสส.พรรค พท.แล้ว ยังมีกรรมการบริหารพรรค แกนนำพรรค รวมถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายยศนัน วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่คาดว่าเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพรรคในวันนี้ด้วย

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top