The Speed of Trust โดย Stephen M.R.Covey
เรื่องผู้นำกับศรัทธา(Trust) เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะศรัทธาเกิดได้ ต้องสร้างขึ้นและทำอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่
ผู้นำจึงไม่ใช่เป็นผู้มีตำแหน่งเท่านั้น ถ้ามีก็ต้องสร้างศรัทธาอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ไว้ใจและเป็นที่พึ่งของผู้ที่เกี่ยวข้องใครๆ ก็เป็นผู้นำได้ ถ้าสร้างศรัทธาอย่างต่อเนื่อง
อิทธิพลเรื่องนี้มาจากหนังสือเล่มแรกที่ผมอ่านชื่อ Speed of Trust เขียนโดยลูกชายของ Steven Covey ซึ่งคุณพ่อเป็นเจ้าของแนวคิด 7 Habits ซึ่งได้เขียนเรื่องศรัทธาไว้ 4 ระดับ
- Self Trust ศรัทธาของตัวเอง
- Relationship Trust ศรัทธาจากความสัมพันธ์
- Organization Trust ศรัทธาขององค์กร
- Social Trust ศรัทธาที่สังคมมี
ถ้าจะทำได้ ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจะต้องทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมคือเน้นเราไม่ใช่ฉัน (We ไม่ใช่ I)
ต่อมามีหนังสือเล่มล่าสุดซึ่งได้พูดถึงเรื่อง กฎ 10 ข้อของความศรัทธา ทำให้ผมมั่นใจว่าศรัทธาสร้างได้ เขียนโดย Joel Peterson with David A.Kaplan
กฎ 10 ข้อ ประกอบไปด้วย
- ต้องสร้างด้วย Integrity (ความถูกต้องและศีลธรรม) ส่วนบุคคล
- ต้องมีเรื่อง Respect ยกย่องนับถือผู้อื่น
- มอบอำนาจ Empower ให้ผู้ร่วมงาน
- วัดสิ่งที่เน้นความสำเร็จและผลงาน
- ต้องมีความฝัน (Common Dream) ร่วมกัน
- บอกให้ทุกคนรับทราบข้อมูลต่างๆ อย่างทั่วถึง
- บริหารความขัดแย้ง มีคุณค่า
- อย่าโอ้อวด แต่ถ่อมตัว
- บริหาร ชนะ/ชนะ ไม่ใช่มีผู้ชนะและผู้แพ้
- ทำทุกอย่างเพื่อการเห็นใจผู้อื่น (Care)
ผมไม่เคยเขียนเรื่อง Trust มาก่อน แต่ดูจากหนังสือ 2 เล่มก็พบว่า สิ่งที่ผมทำอยู่ก็น่าจะสร้างศรัทธา โดยเน้นทุนมนุษย์ได้ระดับหนึ่งออกมาเป็น 7 ข้อ
- ทำอย่างต่อเนื่อง กัดไม่ปล่อย 3 ต. เพราะทำเรื่องทุนมนุษย์เกือบ 40 ปีแล้ว
- เน้นนับถือ (Respect) และศักดิ์ศรี (Dignity)
- ยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
- ตรงประเด็น และเน้นความจริง 2 R’s
- มองประโยชน์ระยะยาว
- สร้างพลังในการทำงาน (Passion)
- และสุดท้ายคือ Networking คือ ทำงานเป็นทีมและสร้างเครือข่าย
The 10 Laws of Trust โดย Joel Peterson with David A.Kaplan
ผมอาจจะเรียกว่า Chira Way 7 ข้อเรื่อง Trust เป็นแนวคิดเพิ่มเติม
บทเรียนครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าจากแนวคิดดังกล่าวทั้ง 3 แนว น่าจะยกย่อง นายกฯประยุทธ์ที่เข้ามาช่วยประเทศให้หลุดพ้นจากระบบการเมืองเลวร้ายแบบระบอบทักษิณ ที่สร้างศรัทธาจอมปลอม
ผมเชื่อว่าประชาชนทั่วๆ ไปรู้ว่านายกฯประยุทธ์หวังดีต่อส่วนรวม ไม่ทำเพื่อตัวเอง สร้างศรัทธาในตัวท่านว่าทำประโยชน์ให้ประเทศจริงๆ เช่น วางแผนระยะยาว 20 ปี พยายามปฏิรูปประเทศ ลดความขัดแย้ง ขจัดปัญหาคอร์รัปชั่น แต่ระบอบทักษิณ หลอกลวงคนไทยที่ขาดความรู้ปลุกระดมให้คนได้ประโยชน์ระยะสั้นแบบวัตถุนิยม แต่ล้มเหลวระยะยาว เช่น ประชานิยมที่เน้นวัตถุ เน้นเงินเป็นหลัก โดยไม่มีหลักธรรมาภิบาล ปลุกระดมฝ่ายซ้ายจอมปลอม บวกเงินทุกคนทำเพื่อเงิน เผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลางจังหวัด และสมบัติของชาติ หลายๆ แห่ง
ใครที่ทำงานรับใช้ให้ทักษิณ มักจะถูกตัดสินคดีเข้าคุกในที่สุดมีคดีติดตัวมากมาย คนดีๆ อย่าง วิโรจน์ นวลแขยังต้องติดคุกไปด้วย ล่าสุด กกต. อีก 2 ท่านก็เข้าคุกไปด้วยคือ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และ นายปริญญา นาคฉัตรีย์
กลับมาดูระบอบธรรมกาย ถูกดำเนินคดีแต่ยังไม่กล้าสู้คดี ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าผิดหรือถูกต้อง ปฏิเสธกับระบบตุลาการของชาติ ใช้กฎหมู่นำกฎหมายสร้างค่านิยมว่าบุญคือความโลภ ถ้าอยากจะไปเกิดดีชาติหน้าต้องทำบุญมากๆ และจะเรียกว่าสร้างศรัทธาได้อย่างไร?
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี