แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา…■■ คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่เป็นคณะ และถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดสมควร สิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่ความเจริญ ความมั่นคง ความสุขก็ทำ สิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็ละเว้น และช่วยกันปฏิบัติทั้งหน้าที่ทางกาย ทั้งหน้าที่ทางใจ… (พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดสระบุรี วัดหนองเขื่อนช้าง อ.เมือง จ.สระบุรี วันที่ 11 เมษายน 2519)…
■■ เป็นไปได้จริงหรือที่ผู้สังกัดพรรคการเมือง แต่ทว่ายังคงสวมหมวกรัฐมนตรีอยู่ด้วย จะไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของการเป็นรัฐมนตรีแสวงหาความได้เปรียบทางการเมือง และจะไม่หาเสียงเพื่อพรรคการเมืองของตน ขณะที่ยังปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐมนตรี…
■■ สาธารณชนมีคำถามในเรื่องพรรค์อย่างนี้มาโดยตลอด เพราะแม้กระทั่งในยุคที่มีรัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้ง สาธารณชนก็ยังคงเห็นเสมอๆ ว่าผู้มีอำนาจรัฐแทบจะทุกรายต่างก็ใช้เวลาราชการไปหาเสียงกันเป็นประจำ…
■■ ข้ออ้างที่ว่าไม่ใช้เวลาราชการเพื่อการหาเสียงนั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นแม้แต่น้อย มีผู้ถามว่า สำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีนั้น หากเลยเวลาห้าโมงเย็นไปแล้ว พวกคุณไม่ใช่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี กระนั้นหรือ หรือว่าคุณเป็นรัฐบาลเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 8 นาฬิกา ถึง 16.30 นาฬิกา เท่านั้น ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ พวกคุณแน่ใจหรือว่าคุณไม่ใช่รัฐบาล เพราะฉะนั้น ใครก็ตาม ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือมาจากการรัฐประหาร ถ้าหากพวกคุณยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแล้วต้องการหาเสียงทางการเมือง โปรดอย่าพลิกลิ้นไปมาเลย โปรดรู้จักละอายเสียงบ้างเถอะ…
■■ วิญญูชนต่างหัวร่องอหาย เมื่อได้ยินเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะระดับใดจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อ้างว่า ตามข้อห้ามของกฎหมาย ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อหาเสียงทางการเมือง แต่ถ้าหากกำลังปฏิบัติหน้าที่บริหารบ้านเมือง ก็สามารถดำเนินการไปได้ หากจะทำกิจกรรมของพรรค ก็ต้องใช้ทรัพยากรของพรรคหรือทรัพยากรส่วนตัว โดยหลักไม่ควรใช้สถานที่ราชการพูดเรื่องพรรคการเมืองของตน ต้องแยกกันให้ออก และไม่ควรพูดเรื่องของพรรคในทำเนียบรัฐบาล…
■■ มีผู้ฝากถาม กกต. ว่า โปรดตอบให้ชัดเจนด้วยว่า ในยุคที่ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจรัฐ แล้วเมื่อรัฐบาลทักษิณได้ประกาศวันเลือกตั้งไปแล้ว แต่ทักษิณยังคงไปไหนมาไหน แม้กระทั่งในช่วงวันหยุดราชการ นั่นถือว่าทักษิณไม่ใช่นายกรัฐมนตรีหรือฉันใดก็ฉันนั้น การที่รัฐมนตรีทั้งสี่ของรัฐบาลคสช. คือ กอบศักดิ์ ภูตระกูล, อุตตม สาวนายน, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และสุวิทย์ เมษินทรีย์ ยังคงรับตำแหน่งรัฐมนตรี แล้ววันหยุดราชการ คนทั้งสี่จะไม่เหลือความเป็นรัฐมนตรี กระนั้นหรือ แล้วก็มีผู้ถามด้วยว่า แน่ใจหรือว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรี มิได้มีสถานะเป็นนักการเมืองสังกัดพรรครวมพลังประชารัฐ…
■■ ปัญหาเรื่องคุณภาพการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทยยังคงถูกใช้เป็นหัวข้อในการสนทนาของผู้ที่เป็นห่วงอนาคตของบ้านเมือง หลายคนสงสัยว่าคุณภาพการศึกษาของไทยดีขึ้นจริงหรือ ทั้งๆ ที่รัฐบาลทุ่มเทงบประมาณเพื่อการศึกษามากมายมหาศาลมากกว่า 6 แสนล้านบาทต่อปี แต่ช้าก่อน ขอได้โปรดพิจารณาว่า เงินจำนวนนี้ใช้เพื่อพัฒนาการศึกษาจริงหรือ เพราะข้อเท็จจริงคือ เกือบร้อยละ 75 ของงบฯก้อนนี้ถูกละเลงไปกับรายจ่ายประจำของบุคลากร เหลือแค่ร้อยละ 7 ใช้เพื่อดำเนินการ ส่วนร้อยละ 13 เป็นงบฯอุดหนุน และอีกร้อยละ 5 เป็นงบฯลงทุน…
■■ งานวิจัยของ ชัยยุทธ์ ปัญญสวัสดิ์สุทธิ์ จากธรรมศาสตร์ เรื่อง วิเคราะห์การใช้จ่ายด้านการศึกษาไทย ในยุครัฐบาลคสช. สรุปว่าการใช้จ่ายงบฯ มหาศาลเพื่อการศึกษาไทย มิได้ทำให้คุณภาพการศึกษาไทยดีขึ้น และยังพบว่างบฯ ด้านนี้ของไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานของโลก ที่น่าสนใจคือใช้งบฯสูงกว่าญี่ปุ่น และสิงคโปร์ แต่เมื่อเทียบคุณภาพการศึกษาไทยกับสิงคโปร์และญี่ปุ่นแล้ว คนไทยที่มีปัญญาและยอมรับความจริงย่อมต้องตอบได้ชัดเจนว่าคุณภาพการศึกษาไทยต่ำกว่าทั้งสองประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย…
■■ สาเหตุที่ ธรรมกร นำเรื่องงบประมาณเพื่อการศึกษาของไทยมาวิจารณ์ มิได้ต้องการให้ตัดลดงบฯ ด้านนี้ลง แต่ต้องการให้ปรับปรุงการใช้งบฯ ให้มีคุณภาพ และมี
ประสิทธิภาพมากกว่าเดิม และไม่ต้องการเห็นการตำน้ำพริก ละลายแม่น้ำ อีกต่อไป…
■■ มีผู้ตั้งคำถามว่าเหตุใดรัฐบาลคสช. จึงเร่งรัดการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้ามากจนผิดสังเกต โดยล่าสุด อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม สั่งการให้เพิ่มรถไฟฟ้าใหม่อีก 5 สาย รวมระยะทาง 131 กิโลเมตรคาดว่าจะใช้เงินลงทุนอีกหลายแสนล้านบาท โดยเน้นการเชื่อมสถานีขนส่งหลักเข้ากับรถไฟฟ้าสายต่างๆ ผู้ตั้งคำถามนี้ ถามว่าทำไมนักข่าวยุคนี้ไม่โจมตีการลงทุนก่อสร้างของรัฐบาลคสช. แล้วทำไมโจมตีโครงการจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างหนัก…
■■ คำตอบที่นักข่าวสายคมนาคมและสายทำเนียบตอบคือ นักข่าวยังคงติดตามดูว่ารัฐบาลคสช. ทุจริตงบฯ ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าหรือไม่ แต่ยังจับไม่ได้ว่าทุจริต ถ้าหากผู้ตั้งข้อสงสัยเรื่องนี้มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลคสช. ทุจริต โปรดตีแผ่เรื่องให้สาธารณชนรับทราบเป็นการด่วน แล้วนักข่าวจะนำเสนอข่าวนี้ให้สังคมได้รับรู้ต่อไป…■■
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี