นิสัยเสียข้อร้ายแรงข้อหนึ่งของรัฐบาลอเมริกันคือ ชอบจุ้นจ้านก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศอื่น และชอบแสดงตัวเป็นตำรวจโลก แถมยังชอบยกตนข่มท่านว่า ตนเองดีวิเศษประเสริฐกว่าประเทศอื่น
ด้วยเหตุของการมีนิสัยเสียดังกล่าวจึงทำให้รัฐบาลอเมริกาส่งเจ้าหน้าที่ของตนเข้าไปสอดแนม ล้วงความลับ ก่อเหตุจารกรรม รวมถึงวางแผนลอบสังหารผู้นำของประเทศอื่น ที่รัฐบาลอเมริกาเห็นว่าเป็นตัวขัดขวางผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา
ทางการสหรัฐอเมริกาอวดอ้างเชิงโฆษณาชวนเชื่อเสมอว่าตนเองให้ความสำคัญกับการสนับสนุนให้ประเทศอื่นๆ ต้องปกครองด้วยหลักเสรีนิยมประชาธิปไตย ต้องมีการเลือกตั้งผู้แทนประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส ขาวสะอาด
แต่สำหรับคนที่รู้ทันเล่ห์กลการเมืองของสหรัฐอเมริกาต่างรู้ดีว่า ข้ออ้างเรื่องประชาธิปไตยจากปากของสหรัฐอเมริกาเป็นเพียงข้ออ้างเบื้องต้นที่ใช้เพื่อเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น
กรณีที่เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย อ้างเรื่องความสนใจ และความกังวลใจของสหรัฐฯ ที่มีต่อกรณีตำรวจเชิญตัวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปรับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 ที่สถานีตำรวจปทุมวัน เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 โดยสหรัฐฯ อ้างว่าเป็นเรื่องปกติที่ทางการสหรัฐฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ของตนไปติดตามรับฟังการพิจารณาคดีต่างๆ โดยเฉพาะคดีที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาคมโลก เพื่อเฝ้าสังเกตว่าการดำเนินคดีเป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรมตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายสากลหรือไม่
เมื่อฟังคำอ้างของเจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยชี้แจงเรื่องนี้ ก็ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า แล้วเจ้าหน้าที่การทูตรับรู้พฤติกรรมการเมืองของนายธนาธรลึกซึ้งมากน้อยเพียงใด
เมื่อเจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยอ้างเช่นนี้ ผู้เขียนในฐานะนักข่าวการเมือง และผู้บรรยายในมหาวิทยาลัย รวมถึงคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่สนใจการเมืองของสหรัฐฯ ก็มีความเห็นตรงกันว่า อยากเข้าไปสังเกตการณ์ในกรณีที่ทางการสหรัฐฯ จับตัวนายจูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์
คนผู้มีปัญญาทั่วโลกต่างรู้ดีว่านายอัสซานจ์คือผู้เปิดโปงความชั่วช้าสามานย์ และความสกปรกโสโครกของรัฐบาลทำเนียบขาว โดยเฉพาะในประเด็นปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในอิรักและอัฟกานิสถาน
รัฐบาลอเมริกากล้าให้ผู้เขียนและคนไทยที่สนใจคดีที่ทางการสหรัฐฯ จ้องเล่นงานนายอัสซานจ์เข้าไปฟังการสอบปากคำของทางการสหรัฐฯ ที่กระทำต่อนายอัสซานจ์ หรือไม่ หรือจะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่การทูตของไทยเข้าไปสังเกตการณ์การสอบปากคำนายอัสซานจ์ หรือไม่ เพราะคนไทยที่สนใจเรื่องนี้มองตรงกันว่านายอัสซานจ์คือผู้กล้าที่กล้าลุกขึ้นมาเปิดโปงความเลวทรามของรัฐบาลสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า ผู้เขียนไม่ได้บอกว่านายธนาธรมีพฤติกรรมเหมือนนายอัสซานจ์ แต่เพียงต้องการจะบอกไปยังทางการสหรัฐฯ ว่า หากสหรัฐฯ คิดว่าจะต้องเข้าไปติดตามการทำคดีของนายธนาธร คนไทยจำนวนมาก รวมถึงผู้เขียนก็ยืนยันตรงกันว่าต้องการเข้าไปติดตามการทำคดีนายอัสซานจ์ ขอถามอีกที ทางการสหรัฐฯ กล้าให้ผู้เขียนและคนไทยไปฟังการให้ปากคำของนายอัสซานจ์ต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี