“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ที่ยึดมั่นใน “จรรยาบรรณ” – “อุดมการณ์” มั่นคง ตรงไป ตรงมา ฉบับนี้ เป็นหน้าที่ “ไม้หน้าสาม” ประเดิมแจกแจงการเดินสายของ 7 พรรคฝ่ายค้าน ที่ดิ้นรน ตะเกียกตะกาย จุดกระแสปลุกเร้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถือธงนำแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำมาซึ่งประเด็นร้อนแรงขึ้นทุกขณะ...
nn โดยเฉพาะการเดินสายไปเสวนาที่ภาคใต้ ได้มีการปลุกระดมแก้ไขมาตรา 1 ซึ่งมีเนื้อหาที่กระทบต่อความมั่นคงเกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดนการปกครองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้เจ้าของพื้นที่ “พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ” ผู้ชำนาญการสำนักงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.) ได้รับมอบอำนาจจาก “พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์” แม่ทัพภาคที่ 4” ในฐานะผอ.รมน.ภาค 4 แจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับแกนนำพรรคฝ่ายค้าน และนักวิชาการรวม 12 คน ซึ่งฝ่ายค้านออกมาตอบโต้ทันควันโดยอ้างว่า เป็นการใช้อำนาจทางกฎหมายคุกคามฝ่ายค้าน...
nn “ไม้หน้าสาม” ประสาคนเขลาตามเกมการเมืองที่แยบยลไม่ทันจึงไม่เข้าใจว่า 7 พรรคฝ่ายค้านมีเป้าประสงค์อะไรเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 1 ที่อ่อนไหวและกระทบต่อความมั่นคงชาติบ้านเมือง ฤๅปัญหาไฟใต้ ปัญหาความแตกต่างทางวัฒนธรรมจะถูกพรรคฝ่ายค้านนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อแยกรัฐอิสระ ฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย เพราะในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ชัดเจนยิ่งว่าประเทศไทยเปิดกว้าง เคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรมจนบางครั้งคนส่วนใหญ่กลับถูกคนส่วนน้อยลิดรอนสิทธิด้วยซ้ำไป เป็นที่ทราบกันดีว่าเมืองไทยเมืองพุทธ มีประชาชนนับถือศาสนาพุทธมากกว่าร้อยละ 80 แต่ที่ผ่านมาหลายยุคสมัยรัฐบาล ก็ไม่กล้าที่จะบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าประเทศไทยเป็นดินแดนพุทธ วบร.หรือวัด-บ้าน-โรงเรียน-พระภิกษุสงฆ์กับคนไทยมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น ทั้งในยามที่บ้านเมืองสงบ หรือแม้แต่ยามที่เกิดภัยสงคราม ดังจารึกประวัติพระอาจารย์ธรรมโชติ ภิกษุกู้ชาติแห่งวัดโพธิ์เก้าต้น จังหวัดสิงห์บุรี...
nn แต่รัฐบาลก็ไม่ประกาศให้เมืองไทยเป็นเมืองพุทธในรัฐธรรมนูญ เหตุผลหลักใหญ่ก็คือ ไม่ต้องการสร้างความแตกแยก เปรียบชาติไทยดั่ง “ม้าอารีย์” กำลังตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว เพราะมีคนกลุ่มนี้กำลังจับแพะชนแกะ บางคนก็กำลังจะคิดการใหญ่แบ่งแยกดินแดนหมายเอาลัทธิศรัทธาของตนกลืนกินเมืองไทยอยู่ทุกเช้าค่ำ...
nn “ชวน หลีกภัย”ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ในฐานะคนปักษ์ใต้ นักการเมืองน้ำดีที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสมัยรัฐบาลถึงกับอดรนทนไม่ไหวต้องออกมาปรามพรรคฝ่ายค้านถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้สภามีคณะกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมอยู่แล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาต้องพูดว่าจะต้องยกเลิกมาตราไหน เพราะต้องดูวิธีการก่อนว่าจะมีทางไหนแก้ไขที่รัฐธรรมนูญได้บ้างเนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดให้แก้ไขได้ยากมาก ซึ่งเนื้อหาสาระนั้นต้องหาร่วมกันทุกฝ่าย รวมทั้งสว.ด้วย ส่วนที่พรรคฝ่ายค้านเดินสายรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นไม่ขอวิจารณ์ แต่ขอแนะนำว่าเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคงจะต้องระมัดระวังให้จงหนัก ถ้ายังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะดีกว่าเดิมก็ไม่ควรทำไปชี้นำให้เป็นความขัดแย้งจนเกิดผลกระทบ...
nn “ไม้หน้าสาม” เคยสะกิดให้จิตสำนึกบังเกิดไปเมื่อสัปดาห์ก่อนถึงปัญหาไฟใต้ ซึ่งรัฐบาลที่ทำให้เกิดความรุนแรงจวบจนทุกวันนี้ก็คือรัฐบาลภายใต้การนำของ “นักธุรกิจการเมืองหน้าเหลี่ยมที่หนีอาญาแผ่นดินไปซุกหัวใต้อุ้งต่างชาตินาม ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งแกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน หลายคนทั้งอ้ายและอีถือเสมือนเทพเจ้าที่ต้องปกป้องเทิดทูน...
nn ไม่เว้นแม้แต่“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่” ก็เคยอยู่แถวหน้าร่วมชุมนุมสนับสนุนระบอบทักษิณมาแล้วทักษิณใช้ความรุนแรงส่งระเบิดยิงถล่ม “มัสยิดกรือเซะ” อดีตนายกฯชวนชี้เปรี้ยงถึงปมไฟใต้ว่า การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยมีความผิดพลาดมาแล้ว เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2544 และมีผลจนถึงทุกวันนี้ มีความสูญเสียชีวิตไปถึง 6 พันกว่าคน บาดเจ็บอีกนับหมื่นราย เพราะความผิดพลาดจากนโยบายที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยไม่ศึกษาว่านโยบายความมั่นคงเดิมนั้นมีอะไรดีหรือไม่ดีอย่างไร จนเกิดความขัดแย้งแตกแยก จึงเสนอว่าถ้าเป็นเรื่องของความมั่นคงขอให้ทุกฝ่ายทั้งฝ่ายค้าน รัฐบาล และฝ่ายที่เกี่ยวข้องศึกษาให้ถ่องแท้ ทั้งประวัติศาสตร์และแนวทางที่มีอยู่เดิม ว่าสิ่งที่กำลังจะเสนอใหม่นั้นดีกว่าเดิมหรือไม่ ถ้าดีกว่าเดิมก็แก้ไขเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเห็นว่ายังไม่สามารถแก้ไขให้มันดีกว่าเดิมได้ก็ต้องระมัดระวัง โดยยึดจากความผิดพลาดเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2544 เป็นตัวอย่าง จนทำให้เกิดเหตุการณ์ 4 ม.ค. 2547 ที่เกิดการปล้นปืนจาก “กองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” อำเภอเจาะไอร้อง นราธิวาส...
nn วันก่อนหัวหน้าพรรคส้มหวานไปกล่าวบนเวที “Open Future Forum” ที่ฮ่องกง ยอมรับการเคลื่อนไหวของม็อบฮ่องกงเมื่อปีที่แล้วสร้างแรงบันดาลใจในการตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาเดินเกมการเมืองในไทย “ธนาธร” ได้รับเสียงชื่นชมจากเวทีดังกล่าวโดยเฉพาะประดา “นักการเมืองรักร่วมเพศ” ก็ขอแสดงความยินดีกับพ่อของฟ้าที่นำความหลากหลายทางเพศมาเติมเต็มดังปรากฏอยู่ใน “สมาชิกพรรคอนาคตใหม่” ความหลากหลายรสนิยมทางเพศ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม สำหรับประเทศไทยเราไม่เคยกีดกั้นชาติพันธุ์ใด ดอกไม้หลากสีจึงอยู่ร่วมกันมาอย่างสันติสุขร่มเย็นภายใต้พระบารมีพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทยจอมทัพไทย วัดวาอาราม มัดยิด โบถส์คริสต์ ตั้งเรียงรายก่ายเกยในหลากหลายพื้นที่เสมือนสิ่งที่มหัศจรรย์ของโลก “ไม้หน้าสาม” ขอเรียกร้องพรรคร่วมฝ่ายค้านติตรองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ถี่ถ้วน อย่าชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านอย่าบั่นทอนแผ่นดินไทย เฉกเช่นชาติมหาอำนาจเคยกระทำย่ำยีอย่างในประวัติศาสตร์ อย่าเพียรพยายามแตะต้องมาตราที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติต่อจิตวิญญาณของคนไทยส่วนใหญ่ อย่านำความแตกต่างทางศาสนามาเป็นเงื่อนไขกลืนกินความสงบสุข เพราะมาตราเหล่านี้ที่พวกท่านยกเมฆขึ้นมาว่าจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชนคือข้อมูลและสมมุติฐานที่เพ้อเจ้อ หลอกลวงประชาชนอย่างหน้าด้านที่สุด ควรมุ่งมั่นทำการเมืองให้ขาวสะอาดโปร่งใสตรวจสอบได้ อย่างที่ท่านอ้ายอีทั้งหลายพยายามสำรอกต่อหน้าสาธารณชนหลายต่อหลายครั้งก่อนการเลือกตั้ง 26 มี.ค. 2562 รวมถึงนำตัวนักการเมืองหรือคนใกล้ชิดที่ทุจริตคอร์รัปชั่นต่อประเทศชาติบ้านเมืองมาลงโทษตามกฎหมาย ไม่ใช่ช่วยกันปกป้องคนโกงชาติบ้านเมืองมองเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องปกติ แม้แต่ “นายธนาธร” ก็สมควรต้องตอบคำถามของสังคมให้ได้ว่า การรักษาสัจจะวาจาเป็นสิ่งที่นักการเมืองพึงยึดถืออย่างหนักแน่นหรือไม่อย่างไร เพราะนับแต่ที่ตั้งพรรคอนาคตใหม่ และได้รับเลือกเป็นสส. นั้น หัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ได้ทำหรือปฏิบัติตามในสิ่งที่เคยให้คำมั่นไว้กับประชาชนแล้วหรือไม่...
nn ในประวัติศาสตร์ทางการทูตของประเทศไทยที่ผ่านมา เราต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหน เพื่อดุลอำนาจจีน-สหรัฐเพื่อผลประโยชน์ของคนทั้งชาติในขณะที่ธนาธรโลกสวย คิดแบบ NGO มิได้คิดแบบผู้นำประเทศ กระทำตัวเสมือนสงครามตัวแทน ให้สหรัฐ เป็นปรปักษ์จีนเยี่ยงนี้ อนาคตทางการเมืองมันสมควรจะจบแล้ว นี่ถ้า “ศาสตราจารย์ พลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช" ทราบความจะกล่าวอย่างไรกับความพยายามแหวกม่านไม้ไผ่เพื่อถ่วงดุลอำนาจสหรัฐ-จีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 ซึ่งถือเป็นการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-จีน ประเทศคอมมิวนิสต์เป็นครั้งแรกปรากฏว่าได้รับการต้อนรับจาก “ประธานเหมา เจ๋อ ตุง” รวมถึงผู้บริหารประเทศในทุกระดับ ทว่า “ตี๋น้อย-ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ” กลับมิได้คิดเยี่ยงนั้นแล้วความพยายามของศาสตราจารย์ พลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่กระทำไปเพื่อผลประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศจะมีคุณค่าต่อไปอีกหรือไม่...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี