“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ยึดมั่น “จรรยาบรรณ-อุดมการณ์”มั่นคง ตรงไป ตรงมา ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ทำหน้าที่เช่นเคย วันนี้เริ่มต้นด้วยกระชากหน้ากากอันธพาลอเมริกา ที่ประกาศตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ “GSP” สินค้าไทย 573 รายการ ซึ่งจะมีผลในอีก 6 เดือนข้างหน้า นั่นคือวันที่25 เมษายน 2563 เรื่องนี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR)ระบุว่า คำสั่งจะครอบคลุมสินค้าไทย มูลค่าราว 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.92 หมื่นล้านประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งหมดที่อยู่ภายใต้โครงการ GSP โดยเฉพาะ “สินค้ากลุ่มอาหารทะเลแช่แข็ง” จะถูกระงับสิทธิ์ยกเว้นภาษีทั้งหมด และที่น่าจะหนักไม่แพ้กันก็เป็น “สับปะรดกระป๋อง” อีกอย่างที่น่าจะกระเทือนไม่ต่างกัน...
nn หากพิจารณาข้อมูลสิทธิ์ GSP ที่ไทยได้รับจากสหรัฐฯ ณ ปี 2559 พบสหรัฐฯได้ให้สิทธิ์ GSP แก่ไทยครอบคลุมสินค้ากว่า 3,400 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 69.98% ข้ออ้างของสหรัฐฯ ในการตัดสิทธิ์ GSP ประเทศไทยครั้งนี้อยากให้รัฐบาลไทยแก้ไขปัญหาแรงงาน เพราะไม่มีการคุ้มครองแรงงานมากพอไม่ตรงตามมาตรฐานสากล นับเป็นข้ออ้างที่ไร้รากไร้เหตุผลอย่างสิ้นเชิง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลลุงตู่ได้ดำเนินการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันกฎหมายเพื่อดูแลแรงงาน หรืออุตสาหกรรมประมง ซึ่งก็ได้รับการยอมรับจากเวทีโลกมาแล้ว หากพิจารณาถึง “มาตรการป้องกันการค้ามนุษย์” วันนี้ไทยก็มีกฎหมายที่เข้มงวดสอดส่องดูแลแรงงานต่างด้าวเป็นอย่างดี สิทธิการรักษาพยาบาลจะดีกว่าคนไทยด้วยซ้ำไป หลายประเทศในโลกใบนี้จะดูแรงงานต่างด้าวไม่ดีเท่าไทยด้วยซ้ำไป...
nn “ไม้หน้าสาม”มีคำถามใหญ่ตามมาว่านี่คือมาตรการตอบโต้ทางการค้าที่สหรัฐฯกำลังจะเสียผลประโยชน์ในฐานะประเทศที่ส่งออกสารเคมีทางการเกษตร ซึ่งรัฐบาลไทย โดยคณะกรรมการควบคุมวัตถุอันตรายมีมติแบน 3 สารเคมีนรกหรือไม่ แม้รัฐบาลไทยเองจะพยายามบอกกล่าวสังคมไทยว่าไม่เกี่ยวข้องกันกับการแบน 3 สารเคมีก็ตาม การออกมาตัดสิทธิ์ GSP ครั้งนี้ มองเป็นอื่นใดไปมิได้ นอกจากสงครามการค้าอันธพาลมะกันอันตรายที่ทำการค้าอย่างไร้ธรรมาภิบาลรังแกประเทศคู่ค้าเล็กๆ โดยที่ไม่เจรจาการค้าแบบเปิดเผย แต่เลือกใช้สันดานอันธพาลโลกเช่นนี้มันไม่งดงามเอาเสียเลย...
nnที่ผ่านมาคนระดับคีย์แมนในหอการค้าไทยบอกว่าสหรัฐอเมริกาพยายามบีบให้รัฐบาลไทยเปิดบ้านรับ “หมูเนื้อแดงมะกันและเครื่องในหมู” และ “หัวหมู” ที่มะกันชนมันไม่บริโภคส่งมาขายให้คนไทยกิน โดยไม่ให้รัฐบาลไทยตรวจสอบว่า ทั้งที่มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงมีสารพิษปนเปื้อน หรือว่าต้องการให้รัฐบาลชะลอการแบน 3 สารเคมีซึ่งสหรัฐฯได้เคยออกโรงเรียกร้องก่อนหน้าที่จะมีคำสั่งตัดสิทธิ์ GSP...
nn“ไม้หน้าสาม” เห็นใจ “รัฐบาลลุงตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ที่ต้องแบกภาระทั้งศึกในและศึกนอกไว้บนบ่าไหล่มากมาย จากเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศโงหัวไม่ขึ้น “ชิม ช้อป ใช้” ที่หวังกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปีให้กระฉับกระเฉงขึ้นมาบ้าง กลับโดนอ้ายวายร้ายมะกันเล่นเล่ห์เพทุบายเล่นงาน....
nn แต่ไทยก็ควรยืนอยู่กับความจริง เร่งเสาะแสวงหาตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชีย หรือตะวันออกกลาง คงไม่เกินความสามารถของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” รองนายกฯ-รมว.พาณิชย์ และข้าราชการกระทรวงนี้ โดยเฉพาะบทบาทในฐานะที่ไทยเป็นประธานประชุมอาเซียนบวกสหรัฐฯ หรืออาเซียนตะวันออก บวกจีนแผ่นดินใหญ่ ก็ต้องวัดกันไปข้างหนึ่ง เลือกคบค้าสมาคมกับประเทศที่เป็นมิตรประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งการประชุมอาเซียน-สหรัฐ ก็คงเห็นแล้วว่าสหรัฐฯไม่ได้ให้ความสำคัญหรือราคากับการประชุมนี้สักเท่าไหร่ เพราะไม่เพียงแต่อ้ายเฒ่าอหังการเจ้าเล่ห์ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่แยแสร่วมประชุม แม้แต่รัฐมนตรีมะกันก็ไม่ให้ราคากับการประชุมอาเซียนนี้เช่นกัน ดังปรากฏว่าจะส่งแค่ผู้ช่วยรัฐมนตรีมาร่วมประชุมเท่านั้น “ไม้หน้าสาม” ได้ข้อมูลมาว่าสหรัฐฯจะส่ง “เท็ด แมคคินนี ผู้ช่วยรัฐมนตรีเกษตรเพื่อการค้าและกิจการเกษตรระหว่างประเทศ” เจ้าของผลิตภัณฑ์ “คลอร์ไพริฟอส (ดาว อะโกรไซแอนส์)” มาร่วมประชุมอาเซียนแทน อย่าอ้างเรื่องการกดขี่แรงงาน “ไม้หน้าสาม” ไม่ใช่พหูสูต แต่อยากถามอ้ายเฒ่า “ทรัมป์” ว่า ทางการสหรัฐฯดูแลประคบประหงมแรงงานต่างด้าวที่เข้าไปค้าแรงงานในสหรัฐฯ ดีเพียงใด ไม่ว่าแรงงานจากประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย หรือแรงงานเม็กซิกัน ที่วันนี้สหรัฐฯตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเม็ดเงินก้อนโตสร้างกำแพงเพื่อปกป้องแรงงานอพยพข้ามถิ่น นี่แหละสันดานมะกันชนที่เอาเปรียบรังแกประเทศที่ด้อยศักยภาพกว่า...
nn ทำตัวเป็นสุนัขเฝ้ากระดูกรอจังหวะเข้าไปแทรกแซงกิจการภายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก จนกลายเป็นสงครามล้างเผ่าพันธุ์ไม่จบสิ้น กองทัพสหรัฐฯเองก็ต้องสูญเสียกำลังพลไปมากมายในสมรภูมิอิรัก ในอัฟกานิสถานแม้ “ซัดดัม ฮุสเซน” จะถ่มน้ำลายใส่หน้าก่อนถูกแขวนคอ มันก็ไม่ทำให้สงครามความแตกแยกในอิรักยุติสงบลง...
nnถึงเวลาที่คนไทยต้องกลับมาร่วมใจกันตอบโต้อเมริกันเสียบ้างให้มันรู้ว่าหนูอย่างไทยก็หาได้กลัวราชสีห์อย่างมะกันไม่“ไม้หน้าสาม” เรียกร้องคนไทยทั้งชาติ แสดงความรักความสามัคคีร่วมกับ “แอ๊ด คาราบาว-ยืนยง โอภากุล” ลุกขึ้นมาตอบโต้จักรวรรดินิยมเหมือนเมื่อปี 2515-2517 ที่ “ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ ศนท.” เคยดำเนินการต่อต้านสินค้าญี่ปุ่นและต่อต้านการแผ่ขยายอำนาจของจักรวรรดินิยมอเมริกาอย่างได้ผล จนคาราบาวมาทำเพลงชื่อ “เมดอินไทยแลนด์” กระหึ่มติดปากนักฟังเพลงมาจนทุกวันนี้และล่าสุดเห็นว่า แอ๊ด คาราบาว ปลุกผีคนไทยต่อต้านสินค้าอเมริกาด้วยบทเพลง “ฝนเหลือง” เพื่อสนับสนุนรัฐบาลและหน่วยงานราชการไทยที่มีมติแบนสารเคมี 3 ชนิดที่ฆ่าคนไทยแบบตายผ่อนส่ง ดูข้อความที่ แอ๊ด คาราบาว โพสต์ลงเฟซบุ๊คแล้วต้องยอมรับว่า ดุเดือดตรงไปตรงมายิ่งนัก...
nn พูดถึงมติแบนสารพิษทางการเกษตรไปแล้วก็ต้องมาดูว่าเกษตรกรไทยในอดีตทำอย่างไรถึงยืนอยู่ได้ ผลผลิตทางการเกษตรเลี้ยงให้ประเทศไทยอยู่รอดมาจนทุกวันนี้...
nn สะกิด “ลุงตู่” ตรงนี้เลยเร่งสานต่อ “ปณิธานพ่อ” พลิกฟื้น “อุตสาหกรรมเกษตรอินทรีย์ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพ่อหลวงรัชกาลที่ ๙” ไม่ใช่เปิดช่องให้นักการเมืองแสวงหาอำนาจกับกลุ่มทุนใหม่ค้าเคมีนรกมาทดแทนสารนรกเดิม รัฐบาลลุงตู่ควรตั้งเป้าชิงเปิดตลาด “สินค้าเกษตรออร์แกนิค” ซึ่งตลาดระดับบนเปิดกว้าง กำลังซื้อมหาศาล ลดการนำเข้าเคมีภัณฑ์สารอันตราย การปกป้องชีวิตคนไทยควรเป็นวาระแห่งชาติ...
nn ท่านผู้นำควรมีบัญชาสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขยกเครื่องแพทย์แผนไทยอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เฉพาะกัญชากู้ชาติ แต่ควรมุ่งมั่นรักษาภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยอย่างเต็มสรรพกำลัง ยาตำรับสมุนไพรไทยชั้นเลิศของหมอพื้นบ้านมีมากมาย อย่าง “หมอเณร-นายชัยรัตน์ นนทชัย” มีตำรับยาสมุนไพรชั้นเลิศ...
nn“ไม้หน้าสาม”เคยบอกมาครั้งสองครั้งแล้วว่ามีสรรพคุณรักษาโรคร้ายหายขาดโดยไม่ต้องลงมีดผ่าตัดแขนตัดขา อาทิโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิต ฯลฯ ไม่ได้หลับหูหลับตาเชียร์ นั่งเทียนเขียนเลขใบ้หวยน่ะ เรื่องนี้มีบทพิสูจน์มาแล้ว ทั้งในคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนชุดก่อนการปฏิวัติรัฐประหาร และเอกสารเรื่องนี้ที่ทีมงานหมออนุทินก็น่าจะมีไว้ ได้อ่านบ้างหรือป่าวไม่รู้ “ไม้หน้าสาม” นี่แหละนำส่งให้ ทว่าเรื่องพรรค์อย่างนี้กลับไม่ได้รับการส่งเสริมรับรองตำรับยาจากกระทรวงสาธารณสุข ทำตนเสมือนหูหนวกตาบอดไม่ได้ยินไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นกฎระเบียบ “ไดโนเสาร์เต่าล้านปีควบคุมหมอพื้นบ้าน”ไม่ให้ผุดให้เกิด อย่างนี้จะรังสรรค์พัฒนาชาติไปในทิศทางใด “ไม้หน้าสาม” มีประสบการณ์ตรงและได้รับการรักษาจากหมอเณรจากอาการป่วยความดันโลหิตสูงเนื่องมาจากไขมันในเส้นเลือดสูงทานสมุนไพรหมอเณรไม่นานความดันกลับมาปกติ ไขมันในเส้นเลือดแทบไม่มีให้เห็นมาแล้ว จึงมีโอกาสกลับมานั่งเขียนหนังสือให้สังคมไทยรู้เท่าทันนักการเมืองนายทุนศักดินา ถึงไม่ทั้งหมดแต่ก็ดีกว่าไม่รู้อะไรเลยจริงไหม “ไม้หน้าสาม” จึงขอชื่นชมและส่งเสริมด้วยบริสุทธิ์ใจท่านใดมีปัญหาเจ็บป่วยจะไปปรึกษาหมอเณรได้ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ณ ที่ทำการสวนสมุนไพรหมอเณร ห้วยกระเจา กาญจนบุรี หรือสืบค้นข้อมูลจากกูเกิ้ล ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการรักษามรดกล้ำค่าของชาติ หากรัฐบาลไม่นำพาที่จะส่งเสริมแพทย์แผนไทยภูมิปัญญาบรรพชนสมบัติของชาติ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี