คนในสังคมไทยได้พบได้เห็นนักการเมืองจำนวนไม่น้อยที่เป็นคนไร้จิตสำนึก นอกจากพบว่าไร้จิตสำนึกแล้ว ยังพบเสมอๆ อีกด้วยว่านักการเมืองจำนวนไม่น้อยในประเทศนี้ไร้ความละอาย ไร้ความรับผิดชอบ จนกล่าวได้ว่านักการเมืองบางรายไร้ความเป็นคน
จิตสำนึกของคนเรานั้นเกิดมาจากการได้รับปลูกฝังการอบรมบ่มเพาะมาตั้งแต่วัยเยาว์โดยพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา และญาติพี่น้อง ประกอบกับได้รับการอบรมบ่มเพาะจากครูอาจารย์ จนทำให้คนผู้นั้นรู้ตัวตลอดเวลาว่าจะต้องไม่ทำความเดือดร้อนใดๆ ให้กับผู้อื่น ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรืออ้อม ครั้นเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะต้องระวังสำเหนียกตนตลอดเวลา พร้อมทั้งเตือนสติตัวเอง
เสมอๆ ว่าต้องไม่ทำตัวให้เป็นผู้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นเป็นอันขาด
เมื่อพูดถึงนักการเมืองส่วนใหญ่ในสังคมไทย คนไทยสามารถตอบตัวเองได้ทันทีว่านักการเมืองเหล่านั้นเป็นผู้มีจิตสำนึกหรือไม่ แล้วยังสามารถตอบได้ลึกลงไปอีกว่า นักการเมืองส่วนมากของไทยมีจิตสำนึกบกพร่องในประเด็นใดบ้าง
สิ่งหนึ่งที่คนไทยสามารถตอบได้ชัดเจนคือ นักการเมืองไทยที่ถูกสังคมระบุว่ากระทำความผิด เพราะมีหลักฐานการทำผิดเป็นเครื่องยืนยันมัดตัว แต่การณ์กลับปรากฏว่า นักการเมืองพรรค์อย่างว่านั้นจะเล่นลิ้นพลิกแพลง ตลบตะแลง ตะแบงว่าตนเองไม่เคยกระทำผิด ทั้งๆ ที่มีหลักฐานมัดตัวนักการเมืองเหล่านั้นอย่างแน่นหนาประจักษ์ชัด
คุณลองถามตัวคุณเองก็ได้ว่า คุณคิดว่านักการเมืองไทยส่วนใหญ่มีจิตสำนึกหรือไม่ แล้วมีนักการเมืองสักกี่คนที่คุณมั่นใจว่าเป็นคนมีจิตสำนึก ไม่เคยทำความเสียหายให้สังคม และไม่เคยมีพฤติกรรมฉ้อฉล คุณอาจจะตอบว่าให้คำตอบในเรื่องนี้ยาก เพราะคุณไม่เคยเข้าไปสัมผัสนักการเมืองโดยตรง ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของนักการเมือง เพราะฉะนั้นจึงไม่สามารถตอบได้ว่านักการเมืองคนไหนมีหรือไม่มีจิตสำนึก ซึ่งหากคุณให้เหตุผลดังกล่าวแล้ว ก็ย่อมเป็นที่รับฟังได้
แต่ถ้าหากคุณได้เห็นหรือได้ทราบชัดๆ ว่านักการเมืองบางรายตกเป็นข่าวครึกโครมว่าบุกรุกและครอบครองที่ป่า แล้วข่าวที่รายงานนั้นก็ระบุชัดยิ่งกว่าชัดว่านักการเมืองรายนั้นคือใคร หน้าตาเป็นเช่นไร พฤติกรรมเป็นแบบไหน เคยมีชีวิตเป็นเช่นไรมาก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในแวดวงการเมือง มีพ่อแม่ชื่ออะไร บุกรุกที่ป่าจำนวนเท่าไร และบุกรุกที่ป่าในบริเวณไหน ทั้งๆ ที่เนื้อหาข่าวชัดเจนแจ่มแจ้งถึงเพียงนั้น แต่ก็ยังปรากฏว่านักการเมืองรายนั้นยังคงยืนยันว่าตนเองไม่ผิด ไม่เคยบุกรุกที่ป่า ถึงแม้จะเคยมีคนมีอำนาจรัฐบางรายพยายามใช้อำนาจรัฐช่วยฟอกผิด เปลี่ยนดำเป็นขาวให้กับนักการเมืองรายนั้นโดยเคยพูดทำนองว่า ถ้าบุกรุกจริงก็คืนที่ดินที่บุกรุกไป แล้วก็จะพ้นผิด
นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของความไม่มีจิตสำนึกของนักการเมืองที่ทุกคนทราบดีว่าชื่ออะไร หน้าตาเป็นเช่นไร แต่สิ่งที่น่าขยะแขยงมากที่สุดของนักการเมืองไร้จิตสำนึกคือ แม้จะมีผู้ออกมายืนยันว่านักการเมืองรายนั้นบุกรุกที่ป่า แต่นักการเมืองที่คนไทยรู้จักหน้าตาเป็นอย่างดีกลับประกาศว่าจะต่อสู้คดีนี้ให้ถึงที่สุด คำประกาศเช่นนี้หากมองในมุมหนึ่งก็คือการรักษาสิทธิ์ของตน แต่ถ้าหากมองอีกมุมหนึ่งก็คือการตลบตะแลง เพราะเรื่องนี้ย่อมเป็นที่ชัดเจนอยู่แก่ใจของผู้ที่สังคมกำลังจับตามองว่า การครอบครองที่ดินดังกล่าวนั้นเป็นไปโดยบริสุทธิ์ หรือเป็นไปโดยความฉ้อฉล เพราะไร้จิตสำนึก ขอย้ำว่าจิตสำนึกนั้นมันอยู่ที่การอบรมสั่งสอนของบุพการีเป็นสำคัญ หากบุพการีไม่สั่งไม่สอนเรื่องนี้ ก็ยากเหลือเกินที่ลูกหลานในบ้านนั้นจะมีจิตสำนึกฝ่ายดี ส่วนเมื่อไม่มีจิตสำนึกใฝ่ดี แล้วจะใฝ่ต่ำหรือไม่ เรื่องนี้สาธารณชนกำลังเฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี