วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เป็นที่ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วว่า ยอดของเสาธง และตัวของเสาธงแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นมีไว้เพื่อการสำคัญเพียงการเดียวเท่านั้น นั่นคือใช้สำหรับประดิษฐานธงชาติไทย เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่บังอาจและบังอาจกระทำโดยนำธงชนิดอื่นใด หรือวัตถุอื่นใดขึ้นสู่เสาธงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงว่าบุคคลผู้นั้นจงใจกระทำละเมิดต่อเสาธงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตามกฎหมายไทยนั้นระบุว่าสถานที่ราชการทุกแห่งของไทย ไม่ว่าจะอยู่ภายในหรือภายนอกพระราชอาณาจักรไทยจะต้องมีเสาธง และสถานที่ราชการทุกแห่งของไทยจะต้องมีเสาธงชัก (เรื่องของเสาธงนั้น มีอยู่สองชนิด คือเสาธงประดับและเสาธงชัก) ดังนั้นจึงกล่าวได้อย่างชัดเจนว่าสถานที่ราชการทุกแห่งของไทยต้องมีเสาธงชัก คือเสาธงที่มีเวลาสำหรับเชิญธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสา และเชิญธงไตรรงค์ลงจากยอดเสาในแต่ละวันโดยมีเวลาเชิญธงที่แน่นอนตายตัวคือ เวลา 08.00 น. เป็นเวลาเชิญธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสาธง และเวลา 18.00 น. เป็นเวลาเชิญธงไตรรงค์ลงจากยอดเสาธง ซึ่งเป็นไปตามระเบียบเรื่องการใช้ธงชาติไทย (อ้างตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการใช้ธงชาติ พ.ศ. 2529)
ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่องการใช้ธงชาติ พ.ศ. 2529 กำหนดให้สถานที่ราชการต้องมีเสาธงชาติสำหรับชักโดยระบุอยู่ในส่วนที่ 2 ข้อ 12 วงเล็บ 2 กำหนดให้อาคารสถานที่ราชการฝ่ายพลเรือน ต้องชักธงชาติไทยในทุกหน่วยงาน (เน้นว่าสำหรับเสาธงชักเท่านั้น ไม่ใช่เสาธงประดับธง) การชักธงชาติไทยต้องมีเสาชักและต้องชักหรือเชิญธงขึ้นและลงตามเวลาที่สำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดตามข้อ 15 คือ เวลาเช้าชักธง (เชิญ)ขึ้นเวลา 08.00 น. และชัก (เชิญ) ลงช่วงเย็นเวลา 18.00 น.
ส่วนสถานที่ราชการต้องมีเสาธงแบบประดับ คือเสาธงที่มีไว้เพื่อการประดับธงชาติอย่างถาวร ตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการใช้ธงชาติ คือไม่ต้องชักธงชาติขึ้นและชักลง ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นเสาไม้ ตั้งประดับอยู่บนรั้ว และ/หรือนอกอาคาร และ/หรือหลังคาอาคาร
มติของคณะรัฐมนตรี เรื่องการใช้ธงชาติ โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2546 เห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2546 ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไปตรวจพิจารณา โดยให้ถือเป็นหลักการว่าสถานที่ราชการ สถาบันการศึกษา สถานศึกษา ที่ทำการรัฐวิสาหกิจ และองค์กรอื่นๆ ของรัฐ นอกจากจะต้องชักธงขึ้นและลงตามเวลาเฉพาะในแต่ละวันแล้ว ยังให้ประดับธงชาติในที่อันสมควรเป็นการถาวร และสม่ำเสมอด้วย เพื่อสร้างความรู้สึกนิยม และภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย อีกทั้งเป็นการเผยแพร่ธงชาติไทยให้เป็นที่ปรากฏชินตาแก่ผู้พบเห็น ส่วนสถานที่ต่างๆ ของเอกชนให้อนุโลมตามความเหมาะสม และมอบให้กระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีสอดส่องดูแล และให้คำแนะนำในการจัดทำธงชาติและสีธงชาติให้ได้มาตรฐานและเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ลักลั่นกันหรือดัดแปลงตามอำเภอใจจนผิดไปจากลักษณะและสีที่ควรจะเป็น ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2546
สรุปได้ว่าสถานที่ราชการทุกแห่งของไทยต้องมีเสาธงชักซึ่งเป็นไปตามระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการใช้ธงชาติ พ.ศ. 2529 โดยระบุอยู่ในส่วนที่ 2 ข้อ 12 วงเล็บ 2
เมื่อสาธารณชนได้รับทราบประกาศดังกล่าวโดยทั่วกันแล้ว จึงจะอ้างเป็นอย่างอื่นอย่างใดมิได้ และจะอ้างว่าเสาธงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น เมื่อเวลาเชิญธงชาติไทยลงจากยอดเสาแล้วจะนำธงอื่นๆ ไม่ว่าสีอะไรก็ตาม หรือจะนำวัสดุอื่นใดชักขึ้นแทนธงชาติไทยไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะเสาธงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีไว้สำหรับชักธงชาติไทยเท่านั้น

พรรคประชาชน เผยโฉม 100 ชื่อ ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ เลือกตั้ง 2569
โป๊ะแตก 'แอดวี' ปล่อยโฮ ผิดหวัง Tokyogurl อ้างญาติเสีย-ปวดท้องทิพย์ เลี่ยงแข่ง On-site
เท้ง คุยโว นี่ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่คือเรื่อง common sense ทางการเมือง
เปิดภาพ ทหารนาวิกโยธิน ขับไล่กำลังกัมพูชาออกจากดินแดนไทย ยึดคืนพื้นที่บ้านหนองรี (บ้านสามหลัง) ได้สำเร็จ
เสียงสะอื้นจากแม่จ่าเริง รอรับศพลูกชายสละชีพ เนิน 350 ให้คนทรงทำพิธีเสี่ยงทายตามความเชื่อ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี