วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ในยุคที่โควิด-19 กลายเป็นวิกฤตการณ์ของสังคมไทย รวมถึงสังคมโลกด้วย ยามนี้จึงถือได้ว่าสมาชิกในสังคมไทยและสังคมโลกกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาสังคมไปพร้อมๆ กันโดยปริยาย ทุกคนที่ยังพอมีสติหลงเหลืออยู่บ้าง ต่างก็บอกกับตัวเองว่า ต้องอดทนและต้องสู้ ด้วยความหวังที่ว่าเราจะรอดพ้นจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้
ในยามทุกข์ยามร้อนเช่นนี้ทำให้สมาชิกของสังคมไทยได้รับรู้ว่า สังคมของเรายังมีคนดีมีน้ำใจหลงเหลืออยู่ เพราะคนดีต่างก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน เพราะถือคติว่า ต้องช่วยกันจึงจะพ้นภัยไปด้วยกัน แต่ในมุมตรงกันข้าม เมื่อพบว่ามีคนดี ก็ทำให้พบด้วยว่าสังคมไทยนั้นยังมีคนที่เข้าขั้นเลวร้ายสามานย์ เพราะจ้องเอารัดเอาเปรียบเพื่อนร่วมสังคมตลอดเวลา คนกลุ่มที่ถือได้ว่ามีพฤติกรรมเลวร้ายสามานย์คือนายทุนใหญ่บางกลุ่มบางตระกูลในสังคมไทย
ในยามนี้คนค้าคนขายส่วนใหญ่ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ค้าขายฝืดเคืองมากที่สุด ลูกค้าหายไปมากจนแทบจะขายของไม่ได้ เจ้าของร้านค้าหลายแห่งบอกว่า วันหนึ่งๆ ขายของได้ไม่พอกับค่าเช่าพื้นที่ (กรณีที่ผู้ค้าต้องเช่าพื้นที่สำหรับค้าขาย) แต่ก็ยังนับว่าสังคมนี้ยังมีความดีหลงเหลืออยู่ เพราะผู้ให้เช่าพื้นที่บางรายเมื่อทราบปัญหาของคนขายของที่เช่าพื้นที่ของตนก็ยินยอมลดค่าเช่าให้เป็นการเฉพาะ เพราะต้องการให้ผู้เช่าสามารถดำรงกิจการต่อไปให้ได้ นั่นคือส่วนดีของสังคมไทย
แต่ก็ใช่ว่าสังคมนี้จะมีแต่ผู้ให้เช่าพื้นที่ ที่เป็นคนมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้เช่าที่ แต่กลับยังมีผู้ให้เช่าพื้นที่สำหรับค้าขายในห้างใหญ่ ซึ่งเป็นห้างเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ห้างเก่าแก่ที่ว่านั้นมีพฤติกรรมที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นจงใจเอาเปรียบผู้ค้า (และผู้ซื้อด้วย) พฤติกรรมเอาเปรียบที่ผู้ค้าถูกกระทำคือ ห้างใหญ่ขอเรียกเก็บเงิน ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเงินกินเปล่าจากผู้เช่าพื้นที่และผู้ค้ากับห้างนั้นๆ โดยเรียกเก็บตามอำเภอใจ โดยผู้ค้าและผู้เช่ารายใหญ่ก็จะถูกเรียกเก็บเงินกินเปล่ามากกว่าผู้ค้าและผู้เช่ารายย่อย แต่ถึงกระนั้นทุกรายก็ต้องยอมเสียเงินกินเปล่าให้กับห้างนั้นเป็นเงินหลักพันถึงหลักหมื่น ทั้งๆ ที่กว่าจะได้เงินค่าสินค้าจากห้างนั้นก็ต้องกินเวลานานหลายสิบวัน (ซึ่งเรียกว่าเครดิตเงิน)แล้วกว่าจะนำของเข้าไปวางขายได้ ก็ต้องเสียเบี้ยบ้ายรายทางยุบยับนับไม่ถ้วน พฤติกรรมแบบนี้หากไม่เรียกว่าเอาเปรียบ หรือรีดเลือดจากผู้เช่าพื้นที่และผู้ค้าแล้ว จะให้เรียกว่าให้ความเมตตา กระนั้นหรือ
ในยามที่การค้าการขายฝืดเคืองเช่นนี้ แทนที่ห้างใหญ่จะมีใจเอื้อเฟื้อกับผู้ค้าและผู้เช่าสถานที่ แต่ก็กลับจะมีนโยบายรีดเลือดหนักกว่าเดิม คือมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า ห้างใหญ่แห่งหนึ่งจะขอเรียกเก็บเงินกินเปล่าจากผู้ค้าและผู้เช่า โดยการกำหนดให้ผู้ค้าและผู้เช่าต้องตั้งเป้า ตั้งยอดการขายในแต่ละเดือน แล้วถ้าหากขายได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ ห้างนั้นก็จะเรียกเก็บเงินส่วนที่ขายได้เกินเป้า แต่ถ้าหากตั้งเป้ายอดขายไว้ในแต่ละเดือน แต่ไม่สามารถขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ก็จะต้องถูกปรับเงิน ฐานที่ไม่สามารถทำได้ตามยอดที่ตั้งไว้ พฤติกรรมสามานย์ หรือนโยบายสามานย์เช่นนี้ หากไม่เรียกว่ารีดเลือดจากผู้ค้าและผู้เช่าแล้ว จะให้เรียกว่าอย่างไรมิทราบ
ในสังคมไทยนั้นทุกคนทราบดีว่าการที่คุณหรือใครก็ตามจะนำสินค้าของตนเข้าไปวางขายในห้างใหญ่ๆ ได้ คุณจะต้องฝ่าฟันด่านมหาโหดที่กำหนดขึ้นโดยห้างยักษ์ใหญ่ให้จงได้ แล้วเมื่อได้เข้าไปค้าขายด้วยแล้ว ก็อย่าหวังว่าคุณจะได้รับเงินที่คุณขายของได้ในทันทีทันใด แต่กว่าจะได้รับเงินก็ต้องรอไปอย่างน้อย 45 วัน ในยามห้างขายของได้ดี เพราะเศรษฐกิจดี ห้างก็ไม่เคยลดค่าเช่าให้ผู้เช่า แต่ในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำ ห้างก็กลับจะรีดเลือดจากผู้ค้าและผู้เช่า พฤติกรรมสามานย์เช่นนี้เป็นที่รับรู้กันอย่างโจ่งแจ้งในหมู่ผู้ค้าและผู้เช่า แต่ถึงแม้จะรู้ก็ไม่มีอำนาจต่อรองกับห้างใหญ่ ก็ต้องจำใจให้ห้างใหญ่รีดเลือดต่อไป เมื่อคุณๆ ที่เป็นผู้ซื้อ ผู้สนับสนุนทราบถึงพฤติกรรมสามานย์ของห้างยักษ์ใหญ่แล้ว คุณยังจะสนับสนุนห้างยักษ์ใหญ่ต่อไปหรือไม่ ก็ขึ้นกับดุลยพินิจของคุณ

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี