ประเทศเรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (ไม่จำเป็นต้องระบุชื่อให้เสียความรู้สึกอีกต่อไป เพราะที่ผ่านมาคนไทยจำนวนมากเสียความรู้สึกจนไม่เหลือความรู้สึกใดๆ อีกแล้ว) แต่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ที่พวกเราพยายามยกย่องเชิดชูว่าพวกเขาคือวีรบุรุษชุดขาว คือหน่วยกล้าตายในยามวิกฤติโควิด-19 ระบาดไปทั่วประเทศ แต่นักรบผู้กล้าเหล่านี้กลับประสบปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย และยังประสบปัญหาขาดแคลนชุด PPE (Personal Protective Equipment) ปัญหาเช่นนี้ มีคำถามจากสาธารณชนว่ารัฐมนตรีสาธารณสุขต้องรับผิดชอบหรือไม่
ประเทศเรายังมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ก็ไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่ออีกเช่นกัน เพราะหลายคนบอกว่าได้ยินชื่อแล้วเสียความรู้สึกอย่างไม่สามารถบรรยายได้) แต่คนไทยจำนวนมากมายไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยชนิดเบสิกสุดๆ มาใช้เพื่อป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจากเชื้อโควิด-19 ได้ นอกจากหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ยากเย็นแสนเข็ญใจจนไร้คำบรรยายแล้ว ก็ยังหาซื้อเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือ และหาซื้อแอลกอฮอล์สำหรับใช้ทำความสะอาดบาดแผลได้ยากเย็นแสนเข็ญอีกด้วย นอกจากหาซื้อได้ยากแล้ว ยังต้องจ่ายเงินซื้อในราคาแพงอย่างมหัศจรรย์ใจ ราวกับว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ สำหรับกำหนดราคาขายสินค้าดังกล่าว (ราคาจำหน่ายแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลขนาดบรรจุขวดละ 450 มิลลิลิตร ที่เคยจำหน่ายราคาขวดละ 50-60 บาท แต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมปีนี้แอลกอฮอล์ขาดตลาด แต่ดันมีประกาศขายในออนไลน์ราคาขวดละ 250-300 บาท) ส่วนหน้ากากอนามัยชนิดสีฟ้ากล่องละ 50 แผ่น ที่เคยขายราคากล่องละ 90-110 บาท ก็ขาดตลาดมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมแล้ว มาล่าสุดหาซื้อได้ยากมาก และราคาก็แพงกว่าเดิมอย่างน้อย 7-10 เท่า
ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์และคนไทยจำนวนมากขาดแคลนหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ และปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนชุด PPE เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยในยุคนี้ แต่ปัญหาสังคมนี้ไม่ได้รับการแก้ไขให้ทันกาล ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
คนไทยผู้มีสติปัญญายังจดจำคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนปัจจุบันได้ดีว่าหน้ากากอนามัยไม่ขาดตลาด เพราะประเทศไทยผลิตสินค้าตัวนี้ได้เกินความต้องการ แล้วนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันก็ยังสำทับหนักแน่นว่าหน้ากากอนามัยไม่ขาดตลาด แต่ทว่าคำพูดของผู้มีอำนาจรัฐทั้งสองรายนั้นไม่ได้ทำให้คนไทยส่วนใหญ่หาซื้อหน้ากากอนามัยได้โดยง่าย ภาพที่ทำให้เกิดคำถามมากมายว่าหน้ากากอนามัยไม่ขาดตลาด แต่ทำไมคนไทยต้องเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอซื้อหน้ากากอนามัยเพียงครั้งละ 3-4 ผืน ที่สำนักงานองค์การเภสัชกรรม แต่ที่เจ็บปวดยิ่งกว่าคือคนที่ไปเข้าคิวรอตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นจำนวนมากต้องกลับบ้านด้วยมือเปล่า ทั้งๆ ที่ต้องถ่อสังขารออกจากบ้านที่อยู่ไกลแสนไกล
ปัญหาประชาชนขาดแคลนหน้ากากอนามัยนับเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยแล้ว แต่ยังมีปัญหาหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ขาดแคลนหน้ากากอนามัยอีกด้วย นี่คือปัญหาที่ใหญ่มากสำหรับการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในบ้านเมืองของเรา ปัญหาที่รัฐบาลต้องคิดให้หนักและต้องแก้ปัญหาให้ได้คือ ปัญหาหมอ พยาบาลขาดแคลนหน้ากากอนามัย เมื่อคนที่เรายกย่องให้เขาเป็นนักรบแนวหน้าที่ต้องต่อสู้กับโควิด-19 ต้องขาดอาวุธสำคัญในการป้องกันร่างกายของเขาเสียแล้ว การต่อสู้เพื่อจะเอาชนะโควิด-19 ในประเทศไทยจะดำเนินต่อไปอย่างไร เรื่องนี้มีคำตอบอยู่ในตัวของมันอยู่โดยบริบูรณ์อยู่แล้ว ปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่ารัฐบาลไทยจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร เพราะการพูดเพียงว่าประเทศไทยต้องชนะ ไม่สามารถเอาชนะโควิด-19 ได้เพียงลมปาก ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านนั้นประชาชนตระหนักดีมาโดยตลอดว่า ไม่เคยแก้ปัญหาวิกฤติใดๆ ให้ประชาชนได้เลย เพราะเป็นพวกดีแต่ปาก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี