วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไปตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม”ขอเริ่มต้นด้วยการตอกย้ำความสำเร็จของวงการแพทย์และสาธารณสุขไทยกรณีวิจัย “วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา โควิด-19” ที่ล่าสุด “ศาสตราจารย์นายแพทย์สุทธิพงษ์ วัชรสินธุ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศาสตราจารย์นายแพทย์เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด -19”ได้ร่วมกันแถลงผลการทดลองวัคซีนในลิงซึ่งเป็นการฉีดเข็มที่สองตามที่“ไม้หน้าสาม”เคยนำเสนอความคืบหน้ามาเป็นระยะก่อนหน้านี้ โดยสรุปว่าได้ผลดีอย่างยิ่ง ลิงมีภูมิต้านทานเป็นปริมาณสูงขึ้น ขณะที่ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งคาดว่า สิ้นปีนี้จักสามารถทดลองในคน จากนั้นไม่เกินเดือนตุลาคม 2564 จะส่งผลงานชิ้นนี้ไปให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนในต่างประเทศได้ผลิตเพื่อใช้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ต่อไป นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งในโลกที่เต็มไปด้วย “ทุนนิยม-สังคมนิยม” แล้วท่านผู้บริโภคข่าวสารจากนสพ.แนวหน้า จะมัวรอไรกันอยู่ ปรบมือดังๆ รัวๆ ให้กึกก้องกันบัดเดี๋ยวนี้เถอะ!!...
nn “ไม้หน้าสาม”เห็นความสำเร็จที่อยู่ตรงหน้าแล้ว แม้จะไม่สมบูรณ์ 100% ทว่า เมื่อประเทศไทยเข้าใกล้ที่สุด ก็น่าจะมีการต่อยอดการวิจัยให้ครบด้านนอกจาก “วัคซีน” ป้องกันแล้ว น่าจะต่อยอดงานวิจัยอื่นๆ อาทิ “กระชายขาว” ซึ่ง “คณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล” วิจัยจนพบสาร 2 ชนิดที่ชื่อว่า “Panduratin A ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19 ได้ผล 100% และ Pinostrobin ที่ “สามารถลดจำนวนเซลล์ติดเชื้อ จาก 100% ให้เหลือ 0% ได้และสามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้อีกด้วยที่มีฤทธิ์มีคุณสมบัติระงับยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ด้วย” เร่งดำเนินการควบคู่กันในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19 ระลอกสองยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย “อย่าให้ไฟไหม้ฟาง – วัวหายล้อมคอก” ดังนั้นหาก “ทหารแก่” พิจารณาตัดสินใจสนับสนุนต่อยอดงานวิจัยน่าจะมีผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่สามารถยับยั้งป้องกันได้ก่อนที่จะต้องล็อกดาวน์ประเทศเป็นครั้งที่สอง ซึ่งจะก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมหาศาลทั้งความเชื่อมั่นด้านระบบสาธารณสุขทั้งด้านการค้าการลงทุนในประเทศไทยด้วย ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ ปรากฏว่าประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด ยังเป็น “มหาอินทรีจักรวรรดินิยมอเมริกา” ตามด้วย บราซิล และ อินเดีย อีกหลายประเทศกลับมาพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เกาะฮ่องกง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยงเข้าไปอยู่ในพื้นที่แออัด เช่น สถานบันเทิง ตลาดค้าส่ง ดังนั้น “รัฐบาลทหารแก่”จักต้องใช้ความเด็ดขาดออกมาตรการคุมเข้ม โดยนำเอาเหตุการณ์ที่ปะทุใหม่ในต่างประเทศมาเป็นบทเรียนสำคัญให้ “ทีมไทยแลนด์”ตระหนักและร่วมมือกันรักษาวินัยเฉกเช่นเมื่อเดือนมีนาคม-เมษายน อีกครั้ง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ไม่นำตัวเองไปสัมผัสกับความเสี่ยงต่างๆ เลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัดคนรวมกันจำนวนมาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ “ความไม่มีสำนึกของคนหนึ่งคนใดในสังคม อาจจะนำมาซึ่งหายนะที่ “เจ็บแล้วไม่จบ” อีกครั้ง...
nn “ไม้หน้าสาม”มีเรื่องมาประจานกระทรวงสาธารณสุขของ “หมอหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” จากข้อร้องเรียนของแพทย์บางคนที่เสียโอกาสอย่างที่ไม่ควรจะเสียเพียงเพราะอีโก้คนสายนี้รุนแรงแตะต้องแทบไม่ได้ล่าสุด ... มีการร้องเรียนว่า การคัด “แพทย์ประจำบ้าน” ประจำปี 2564 ออกอาการส่อเค้าวุ่น!!! จากกรณี “สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข” เปิดรับสมัครแพทย์เข้าศึกษาฝึกอบรมหลักสูตรแพทย์ประจำบ้าน ประจำปีการศึกษา 2564 รอบที่ 1 ปรากฏว่ามีโรงพยาบาลต้นสังกัดรับรองคุณสมบัติของแพทย์ที่ประสงค์เข้าฝึกอบรมเป็นจำนวนมาก แต่ดูเหมือนหลายพื้นที่เขตสุขภาพมีปัญหาเกี่ยวกับการคัดเลือกแพทย์ที่จะได้รับทุนเพื่อการฝึกอบรม โดยเฉพาะระบบที่ใช้กรรมการคัดเลือกมีอำนาจใช้ดุลพินิจ ไม่ได้พิจารณาถึง “ความรู้ความสามารถของแพทย์” อย่างแท้จริง ยังมีระบบอุปถัมภ์แบบไทยๆ เบ่งบานอยู่ในคณะกรรมการฯ โดยเฉพาะพื้นที่เขตสุขภาพที่ 4 ซึ่งลุกลี้ลุกลนส่อเค้ามีการดำเนินการที่พิเศษ เพราะผลการคัดเลือกจะมีการประกาศผ่านเว็บไซต์ในวันศุกร์ที่17 กรกฎาคมนี้ แต่กรรมการเขตสุขภาพที่ 4 กลับยกหูโทรศัพท์บอกแพทย์ผู้สมัครว่า “คุณไม่ผ่านการคัดเลือก” ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม อย่างนี้ก็ได้หรือ??? พร้อมจัดทำไฟล์ Excel และ EMS ส่งสำนักงานปลัดสธ.ไปเรียบร้อยแล้ว เรียกว่าคณะกรรมการฯ มีอำนาจล้นฟ้านำความลับราชการเปิดเผยก่อนที่ปลัดสธ. “หมอสุขุม กาญจนพิมาย” จะลงนามอนุมัติเห็นชอบ “ไม้หน้าสาม”เห็นว่าระบบราชการอะไรก็ตามที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจจะทำให้เกิดปัญหาอย่างใหญ่หลวงเพราะ “ลุแก่อำนาจ” เนื่องจากในขั้นดำเนินการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือพรรคพวก โดยไม่คำนึงถึง “ความถูกต้องชอบธรรม”น่าเห็นใจคุณหมอที่มีความรู้ความสามารถทำคะแนนได้สูงๆ แต่ขาดเส้นสายก็ไม่อาจเจริญในหน้าที่การงานได้ “คุณหมอสุขุม กาญจนพิมาย”ในฐานะแม่บ้านสธ.จะทำหน้าที่เป็นแค่ปลัดตรายางเซ็นรับรองผลไม้พิษ โดยไม่ไหวติงกับความไม่โปร่งใสที่หมักหมมมาอย่างยาวนานเลยเชียวหรือ??? หาไม่แล้ว “ปลัดกระทรวงสาธารณสุข”ควรระงับการดำเนินการทบทวนสืบสวนสอบสวนถึงกระบวนการคัดสรรแพทย์เข้าศึกษาฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านปี 2564 รอบที่ 1 เพื่อให้เกิดความถูกต้องชอบธรรม จะเป็นที่สรรเสริญแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนโดยทั่วไปดีกว่าหรือไม่“ไม้หน้าสาม”สะกิดครั้งนี้เพื่อความถูกต้อง ควรแล้วหรือที่จะลงนามรับผลไม้พิษเหล่านี้ให้เจริญงอกงามในสังคมไทย แค่บัตรสนเท่ห์ร้องเรียนผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น ยังตั้งกรรมการตรวจสอบเป็นข่าวใหญ่โต สั่งย้าย “นพ.ชาญชัยจันทร์วรชัยกุล” ผอ.โรงพยาบาลขอนแก่น เยี่ยงนี้เป็นความบกพร่อง หรือรู้เห็นเป็นใจโดยสุจริต กระทรวงสาธารณสุขจักต้องทบทวนความนี้ดู โบราณว่า “จิ้งจกร้องทัก ยังต้องฟัง” สมควรหรือไม่ที่กระทรวงสาธารณสุขจักแสวงหามาตรการต่างๆ เพื่ออุดช่องว่างช่องโหว่สร้างองค์กรให้เปี่ยมล้นไปด้วย “ธรรมาภิบาล-โปร่งใส-ตรวจสอบได้” เพื่อให้สังคมเชื่อมั่นศรัทธาสืบไป...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ ปราชญ์ชาวบ้านแห่งห้วยกระเจา กาญจนบุรีแจ้งมาว่า “สำนักงานการสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี” มีหนังสือที่ กจ. ๐๐๓๒.๐๑๔/๑๓๗๗ ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 แจ้งว่าสำนักงานสาธารณสุขดังกล่าวดำเนินงานตามระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการออกหนังสือรับรองหมอพื้นบ้าน และระเบียบเดียวกันฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 เพื่อออกหนังสือรับรองหมอพื้นบ้านให้ถูกต้องตามเจตนารมณ์กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เนื่องจากถึงเวลาครบกำหนดต่ออายุซึ่งต้องดำเนินการภายใน 90 วันก่อนสิ้นปีปฏิทิน เพื่อให้หนังสือรับรองหมอพื้นบ้านเกิดความต่อเนื่องจึงขอให้หมอพื้นบ้านที่ได้รับหนังสือมากรอกและบันทึกแบบคำขอหนังสือรับรองหมอพื้นบ้านพร้อมแนบ มบ.๑, มบ.๒ ส่งให้สำนักงานภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ “ไม้หน้าสาม” ตรวจสอบกับ“หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย หมอพื้นบ้านแห่งห้วยกระเจา กาญจนบุรี” ทราบว่า หนังสือรับรองนี้ให้สามารถรักษาผู้ป่วยได้แต่ในรูปแบบการกุศลเท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายยาสมุนไพรได้ “ทหารแก่” เทงบกว่า 1.8 หมื่นล้านให้กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกพัฒนาต่อยอด “สมุนไพร”ตามปณิธาน “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” แต่ประพฤติปฏิบัติทำได้เพียงเท่านี้หรือผลประโยชน์ชาติจากภูมิปัญญาบรรพบุรุษอยู่ตรงไหน
ไม้หน้าสาม

สื่อเขมรตีข่าว หนุ่มจีนปลิดชีพตัวเองหน้ากาสิโนในเมืองบาเวต บาดเจ็บสาหัส
จุลพันธ์ ลั่น อย่าเต้นตามข่าวปมยื่นซักฟอก ย้ำยังไม่มีข้อสรุป
รวบแล้ว! เจ้าของอู่มหาภัย ย่านกระทุ่มแบน ลอบเอารถลูกค้าไปจำนำ ของกลางอื้อ
'อนุทิน' ลงพื้นที่สตูล สั่งนายก อบจ. ทำประชาพิจารณ์ รื้อประตูระบายน้ำ ชี้ถ้าไม่มีประโยชน์ก็เอาออก
DSI สอบปากคำมากกว่า 20 พยาน คดีคุก VVIP พบข้อมูลเด็ด ทนายชื่อดัง เมืองปากน้ำ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี