วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ “การประชุมร่วมของรัฐสภาสมัยวิสามัญ (โดยไม่มีการลงมติ)” ระหว่างวันที่ 26-27 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา โดยในตอนท้ายก่อนจะปิดประชุม ช่วงค่ำวันที่ 27 ต.ค. 2563 มีวิวาทะเล็กๆระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่แสดงความเป็นห่วงเรื่อง “ผลกระทบจากสื่อออนไลน์”โดยในตอนหนึ่งได้เอ่ยคำว่า “ผู้หญิง” ขึ้นมา ดังนี้
“วันนี้ท่านก็เห็นอยู่แล้ว สังคมมีปัญหา ผู้หญิงก็มีปัญหา ในโทรศัพท์ก็ขึ้นมาเป็นชั่วโมงในสิ่งที่ไม่ควรจะแพร่ออกมา ไม่ว่าจะชวนเที่ยว ไม่ว่าจะนัดแนะ ไม่ว่าจะขายหวย บอกหวย นี่หรือครับสิ่งที่บอกว่าจะสร้างสังคมไทยให้เข้มแข็งอย่างที่ท่านว่า ท่านเคยไหมที่จะให้ประชาชนลดการซื้อสลากกินรวบ ผมไม่เคยได้ยิน แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้เงินต่างๆ ที่เขามีอยู่แล้ว น้อยอยู่แล้ว มันยิ่งน้อยใหญ่ ผมคิดว่าเราก็ต้องสร้างหลักคิดตรงนี้ไว้บ้าง แต่ก็สุดแล้วแต่ใครจะนำไปปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากคำพูดข้างต้น ทำให้ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยกมือขึ้นประท้วงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถอนคำพูด เพราะคนเป็นนายกฯไม่ควรเลือกปฏิบัติ (Discriminate) กับเพศใดเพศหนึ่งซึ่งแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะยอมถอนคำว่าผู้หญิงออกแต่ก็ขอชี้แจงว่าคำพูดดังกล่าวหมายถึงผู้หญิงก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อ เช่น ถูกทำให้เป็นสินค้า ดังนั้นก็ต้องดูแลคนกลุ่มนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจคือ “คนไทยกับการเล่นหวย” ดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความเป็นห่วงเรื่องการเล่น “สลากกินรวบ” ซึ่งก็หมายถึง“หวยใต้ดิน” ที่แม้จะเป็นกิจกรรมที่ไม่ถูกกฎหมายแต่ก็เล่นกันทั่วไปทุกหย่อมหญ้าในสังคมไทย โดยเลขที่ออกนั้นจะอิงกับการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล(ลอตเตอรี่) ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ในหมวดเลขท้าย 2 ตัวและ 3 ตัว
ซึ่งคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่า “หวย (ทั้งใต้ดินและลอตเตอรี่) คือความหวังในชีวิตของคนไทย”ย้อนไปเมื่อเดือนต.ค. 2561 มีการจัดบรรยาย “พฤติกรรมการเงินแบบไทยๆ จากมุมมองเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมที่ทั้งสนุกและได้สาระ” ที่ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยวิทยากรคือ ผศ.ดร.ธานี ชัยวัฒน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในตอนหนึ่งได้กล่าวถึงการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยเกี่ยวกับพฤติกรรมการเล่นหวยไว้ดังนี้..
“ถามต่อไปอีกว่า ถ้าเราบอกว่าเงินทองเปลี่ยนประเทศได้ แล้วจะร่ำรวยได้อย่างไรในประเทศนี้ คำตอบคือ 76% บอกว่าต้องมีครอบครัวที่ร่ำรวย พ่อรวย เกิดมารวย 11% ตอบว่าต้องถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 แล้วจำนวนหนึ่งบอกว่าต้องถูกติดกันหลายๆ รอบด้วยอีก 8% บอกว่าทำงานหนัก ขยันอดออม อีก 5% บอกว่ากตัญญูทำความดีทำบุญ นี่คือคำตอบของคนที่ตอบมาว่าทำอย่างไรถึงจะรวยได้”
“ผมเคยวิจารณ์งานของศูนย์การพนันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมบอกว่ามันทำหน้าที่หลายอย่าง อันแรกคือความหวังที่จะเลื่อนชนชั้นโดยที่ไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงกับชีวิตตัวเอง อันที่ 2 คือ ถ้าคุณเป็นคนจน ความบันเทิงในชีวิตมีอะไรบ้าง ถ้ามีเงินก็ไปดูหนัง เพ้อฝันมีความสุขสนุกไป แต่เวลาซื้อหวย ซื้อวันที่ 5 ออกวันที่ 16 ใบละ 80 บาท ฝันว่าถูกรางวัลที่ 1 ฝันว่าจะเอาไปทำอะไรดี ฝันไป 10 วัน วันละ 8 บาท ถูกกว่าดูหนังอีก คุ้มค่าแล้ว ไม่ถูกก็คุ้มค่าแล้วเวลาที่ผ่านมา”
นอกจากคำกล่าวของ อ.ธานี ข้างต้นนี้แล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2563 มีการจัดเสวนา “พนันออฟไลน์สู่ออนไลน์ ภัยร้ายแรงงานไทย” ที่ รร.เอเชีย ย่านราชเทวี กรุงเทพฯ โดย วงศ์จันทร์ จันทร์ยิ้ม ตัวแทนมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล หนึ่งในองค์กรที่ร่วมจัดเสวนาดังกล่าว รับหน้าที่เปิดเผยผลสำรวจสถานการณ์การเล่นพนันออฟไลน์และพนันออนไลน์ในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน
โดยในส่วนของการพนันออฟไลน์ หรือการพนันแบบดั้งเดิมที่ไม่ได้เล่นผ่านอินเตอร์เนต สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 5,757 คน ในสถานประกอบการย่านปริมณฑล 12 แห่ง ระหว่างเดือนก.ค.-ส.ค. 2562 ซึ่งรายได้เฉลี่ยของแรงงานกลุ่มนี้อยู่ที่ 1-2หมื่นบาท/เดือน และรายจ่ายมีจำนวนใกล้เคียงกับรายได้ขณะที่ระดับการศึกษาส่วนใหญ่ ร้อยละ 51.33อยู่ในระดับมัธยมศึกษา รองลงมา ร้อยละ 30.9 ระดับ ปวช./ปวส. และอันดับ 3 ร้อยละ 8.53 ระดับปริญญาตรีดังนั้นคงไม่ผิดนักหากจะให้นิยามคนกลุ่มนี้ว่าเป็นคนระดับฐานราก
ข้อค้นพบบางประการที่น่าสนใจ 1.ผู้ใช้แรงงานจำนวนมากมองว่า “สลากกินแบ่งรัฐบาล” ไม่ใช่การพนัน หรือไม่แน่ใจว่าเป็นการพนันหรือไม่ โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 28.59 ระบุว่าไม่ใช่การพนัน และร้อยละ 20.64 ระบุว่าไม่แน่ใจว่าเป็นการพนันหรือไม่เช่นเดียวกับ “สลากออมสิน-สลากการกุศล” กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 35.4 ระบุว่าไม่ใช่การพนัน และร้อยละ 20.48 ระบุว่าไม่แน่ใจว่าเป็นการพนันหรือไม่ ซึ่งจะต่างจากหวยใต้ดิน ที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 88 ระบุว่าเป็นการพนัน
2.หวยคือการพนันยอดนิยม โดยจากกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 86.96 ที่ระบุว่าเล่นการพนัน พบว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลมาเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 36.16 รองลงมาคือหวยใต้ดิน ร้อยละ 35.02 ซึ่งก็สอดคล้องความถี่ในการเล่นพนัน ที่กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 61.21 ระบุว่า เดือนละ 1-2 ครั้ง หรือก็คือการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล (และหวยใต้ดินที่อิงเลขท้าย 2 ตัว-3 ตัวของสลากกินแบ่งฯ) ที่ออกเดือนละ 2 งวด
และ 3.กลุ่มตัวอย่างที่เล่นพนันหวังว่าเล่นแล้วชีวิตจะดีขึ้น โดยระบุสาเหตุ อันดับ 1 ร้อยละ 24.31 อยากรวย และอันดับ 2 ร้อยละ 14.85 อยากปลดหนี้ซึ่งในประเด็นการตัดสินใจเล่นพนันกับความหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ให้ความเห็นว่า “คนไทยยังขาดความรอบรู้ทางการเงิน (Financial Literacy)” หมายถึงการวางแผนและการบริหารจัดการเงิน
“เรื่องทักษะการจัดการชีวิตผมว่าคนไทยอ่อน เรามักจะได้เงินมาแล้วก็ทำอะไรกับมันไม่เป็น ว่าจะจัดการกับมันอย่างไร การเสริมเรื่องทักษะการจัดการทางการเงินเป็นเรื่องสำคัญ” ธนากร ฝากข้อคิด

เปิดแผน บริการ ระบบขนส่งสาธารณะ วันอาทิตย์ที่ 26 ต.ค.นี้
มีเรื่องเล่าเมื่อ 20 ปีก่อน! 'ดร.ธรณ์' เปิดความทรงจำที่ภูพิงค์ เข้าเฝ้า'พระพันปีหลวง' หลังเหตุสึนามิ
‘อนุทิน’ถึงมาเลเซียแล้ว เตรียมร่วมพิธีเปิดประชุมสุดยอดอาเซียนพรุ่งนี้
'บอดี้สแลม'ยืนถวายอาลัย 'สมเด็จพระพันปีหลวง'ก่อนแสดง (คลิป)
นครบาลเผยเส้นทางเลี่ยง เคลื่อนพระบรมศพ 'สมเด็จพระพันปีหลวง' สู่พระบรมมหาราชวัง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี