ประโยค “กูไม่กลัวมึง” ถูกจุดประกายขึ้นมาโดย “หม่อมน้อง” หรือ “ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช” อดีตคอลัมนิสต์ชื่อดังในสยามรัฐรายวัน
“กูไม่กลัวมึง” เป็นประโยคที่ “สวนอำนาจเผด็จการ” ในยุคประภาส-ถนอม เป็นใหญ่ จนกลายเป็นวลีที่คนไทยทุกภาคส่วนต่างนำไปใช้อย่าง “สุดมัน” ตั้งแต่ปี 2516 จนถึงปัจจุบันอย่าง “ไม่เลิกฮิต”
ยิ่งในยุคคนไทยขยันแข่งกีฬาสี และขยันจุดไฟเติมฟืนให้ไฟการเมืองเดือดพล่าน ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงวันนี้ วลี “กูไม่กลัวมึง” ได้กลายเป็นคำประกาศศักดาอย่างสุรุ่ยสุร่าย
หลังจาก “ม็อบคณะราษฎร 63” ได้กำเนิดขึ้นมาและประกาศอย่างซ้ำๆ ซากๆ ว่า “กูไม่กลัวมึง”พร้อมกับเดินหน้า “ลุยกิจกรรมม็อบ” กระจายไปตามสถานที่ต่างๆ อย่างถี่บ่อยแบบถือคติ “ก่อม็อบเรื่องใหญ่ถูกต่อต้านเรื่องกลาง และติดตะรางเรื่องขี้ผง” ก็ยิ่งทำให้พฤติกรรม “กูไม่กลัวมึง” กลายเป็น “แฟชั่น”
ในที่สุด “แฟชั่นดังกล่าว” ก็แพร่ระบาดไปสู่คนไทยทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มม็อบปกป้องสถาบัน เป็นต้นแถมยังลามปามเข้าไปในสภาเกียกกาย จนทำให้สส.และสว.ทั้งหลายต่างกลายเป็น “ผู้เฒ่าหลงแฟชั่นกูไม่กลัวมึง”
ดังนั้น ไม่ว่า “ม็อบคณะราษฎร 63” จะกดดันสภาดุเดือดเลือดพล่านอย่างไร “ผู้เฒ่าที่ยึดแฟชั่นกูไม่กลัวมึง” ก็ได้ทำการ “หักดิบ” ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญ“ฉบับไอลอว์” แท้งตั้งแต่อยู่ในท้อง
ล่าสุด “กะปิตันเรือเหล็ก” ได้ออกมาประกาศเตือนม็อบทั้งหลายที่เพิ่มดีกรีความหยาบคายจนแทบองศาแตกว่า “รัฐบาลจะใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นทุกมาตรา” ทำให้สส.ฝ่ายค้านบางท่านและนักวิชาการเลือกข้างบางราย ออกมา “สวนหมัด” กะปิตันว่ากำลังเติมฟืนเร่งไฟทำให้ “ม็อบโกรธกริ้ว” ยิ่งขึ้น
จากนั้น สส.ฝ่ายค้านท่านดังกล่าวยังพูดต่อแบบ“กำปั้นทุบดิน” ว่า สถานการณ์ของม็อบในวันนี้ “เลยความกลัวไปแล้ว กะปิตันไม่ต้องออกมาขู่”
การที่ สส.ฝ่ายค้านท่านนั้น และนักวิชาการเลือกข้างบางรายออกมายืนยันว่า “ม็อบได้เลยความกลัวไปไกลแล้ว” นั้น กูรูทางการเมืองได้วิเคราะห์ว่า“เหมือนเป็นการยั่วยุทางอ้อมให้ม็อบฮึกเหิมยิ่งขึ้น”เท่ากับเป็นการ “เติมฟืนเติมไฟ” ไม่แตกต่างไปจาก “การขู่” จะใช้กฎหมายทุกมาตราของกะปิตัน
อยากถามคุณผู้อ่าน ท่านคิดว่า คำพูดของฝ่ายไหน?ที่เป็นการเติมฟืนเติมไฟ หรือ “เติมฟืนเติมไฟ”ทั้งสองฝ่าย?
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี