ข่าวการตั้งพรรคการเมืองใหม่ ชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ เพราะล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณารับรองพรรคการเมืองนี้ หลังจาก กกต. พิจารณารับรองพรรคไทยสร้างไทย พรรคการเมืองใหม่ล่าสุดของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นักการเมืองผู้ย้ายพรรคมาแล้วหลายพรรค
พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมืองที่ถูกคอการเมืองไทย โดยเฉพาะคอการเมืองที่รู้ทันเกมการเมืองของคนที่กุมอำนาจรัฐในยุคปัจจุบันวิพากษ์วิจารณ์และฟันธงว่า เป็นพรรคสำรอง หรือพรรคสาขาของพรรคพลังประชารัฐ ครั้นเมื่อพูดถึงพรรคพลังประชารัฐ คอการเมืองไทยก็รู้โดยพลันว่าเป็นพรรคในอาณัติของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และเป็นพรรคที่มีตัวละครสำคัญอีกสองคน คือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา โดยทั้งสามรายนี้คือเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายทางการเมืองด้วยกัน แต่ถึงกระนั้น พลเอกประวิตร และพลเอกประยุทธ์ ก็ยังไม่เคยยอมรับกับสาธารณชนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติคือพรรคสำรอง หรือพรรคสาขาของพรรคพลังประชารัฐ แต่ทุกครั้งเมื่อถูกนักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลถามย้ำในเรื่องนี้ ทั้งสองคนจะแสดงอาการหงุดหงิดให้เห็นโดยพลัน และบางคนก็ถึงกับหลุดคำสบถหยาบคายออกมา
ตามข้อเท็จจริง พรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกยื่นขอจัดตั้งพรรคโดย นางสาวพนัชกรตุลานนท์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 โดยระบุชื่อหัวหน้าพรรคว่า ร้อยโทไกรภพ นครชัยกุลสำนักงานของพรรคตั้งอยู่ที่ 169/98 อาคารเสริมทรัพย์ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ
หลายคนที่รู้เรื่องราวภายในของพรรคพลังประชารัฐเป็นอย่างดี อาจแสร้งทำเป็นเก๋ไก๋ไร้เดียงสา ถามเพื่อให้รู้สึกน่าเอ็นดูว่า ทำไมสามศรีพี่น้องคนละท้อง (ป้อม ป๊อก ตู่) จะต้องมีพรรคการเมืองสำรอง ทั้งๆ ที่ยังมีพรรคพลังประชารัฐอยู่ คำตอบคือ ก็เพราะว่า มันบ่แน่ดอกนาย บ่แน่ว่าพรรคพลังประชารัฐจะอยู่ยงคงกระพัน เพราะอย่าลืมว่ายังมีคดียุบพรรคนี้ค้างคาอยู่ใน กกต. อีกหลายคดี อาทิ การปล่อยให้นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม คนนอกพรรคขึ้นไปปราศรัยบนเวทีหาเสียงของพรรคนี้ที่สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562รวมถึงปล่อยให้พลเอกประวิตร ซึ่งยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคนี้ ไปกล่าวเปิดสัมมนาพรรคที่การ์มองเต้ รีสอร์ท วังน้ำเขียว วันที่ 22 กรกฎาคม2562 เป็นต้น
นอกจากนี้ยังไม่นับความขัดแย้งสารพัดชนิดภายในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะเรื่องที่หลายคนใช้คำพูดง่ายๆ สั้นๆ เข้าใจทันทีว่า “แย่งชามข้าวกันเอง” แล้วยังมีความขัดแย้งระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ กับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย
คอการเมืองไทยมองตรงกันว่าพรรคพลังประชารัฐคือพรรคเฉพาะกิจของ คสช.แล้วก็รู้ดีด้วยว่า รัฐบาลประยุทธ์ ภายใต้อิทธิฤทธิของ คสช. จะมีอายุเหลืออีกเพียง 8 ปี(ในกรณีที่รัฐบาลประยุทธ์อยู่จนครบวาระ)แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่รัฐบาลภายใต้อิทธิฤทธิ์ของ คสช. จะสามารถลากสังขารเกินไปมากกว่านั้นได้ เพราะทุกอย่างจะต้องจบลงตามกรอบเวลาของรัฐธรรมนูญ และบทเฉพาะกาลที่อนุญาตให้ สว. ภายใต้การเลือกสรรโดย คสช. ต้องพ้นสภาพไปตามข้อกำหนดในบทเฉพาะกาล
ดังนั้น เมื่อมองเกมการเมืองจนทะลุแล้ว คอการเมืองไทยจึงฟันธงตรงกันว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ น่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับ “ป้อม ป๊อก ตู่” คนหน้าเดิมบนเวทีอำนาจการเมืองที่ยังไม่พร้อมที่จะลาจากเวทีแห่งอำนาจการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี