วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เฉลิมชัย ยอดมาลัย
เฉลิมชัย ยอดมาลัย

เฉลิมชัย ยอดมาลัย

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันเสาร์ ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2564, 02.00 น.
ถ้ายังรอเงินจากนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว เศรษฐกิจไทยไม่รอดแน่

ดูทั้งหมด

  •  

รายได้หลักอย่างหนึ่งของประเทศไทยมาจากการท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตัวเลขรายได้เมื่อปี 2562 พบว่ามีรายได้รวม 3.06 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 3 จากปี 2561 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่น้อยกว่าปีก่อนหน้านั้น เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติลดจำนวนลง  

อย่างไรก็ตาม รายได้จากการท่องเที่ยวของไทย เมื่อเปรียบเทียบรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อ GDP ของไทยตั้งแต่ปี 2549เปรียบเทียบกับปี 2562 จะเห็นชัดเจนว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าตัว คือจากร้อยละ 5.7เพิ่มเป็น 11.5 (แต่แหล่งรายได้หลักตัวนี้มาจากนักท่องเที่ยวจีนอย่างมีนัยสำคัญ) เมื่อมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากมายมหาศาลโดยง่ายดายเช่นนี้ รัฐบาลไทยก็จึงทุ่มเทสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างบ้าคลั่งเพราะเห็นว่าได้เงินง่ายที่สุด และยังเห็นว่ารายได้ส่วนนี้ช่วยชดเชยการลดลงของรายได้จากการส่งออกของประเทศเนื่องจากศักยภาพการแข่งขันของไทยลดลงเมื่อเทียบกับนานาชาติ 


แต่แล้วเมื่อโลกทั้งโลกต้องประสบกับหายนะภัยของโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562จนถึงปัจจุบัน การเดินทางท่องเที่ยวของมนุษย์ก็ต้องหยุดชะงักลงโดยพลัน เพราะถ้าหากยังมีการเดินทางท่องเที่ยวมากมายเหมือนเดิม ก็หมายความว่าจะยิ่งเพิ่มโอกาสการแพร่ระบาดของเชื้อมรณะตัวนี้ให้มากยิ่งขึ้น แล้วอัตราการล้มตายของมนุษย์ก็อาจจะมากกว่าที่เป็นอยู่ (ล่าสุดตัวเลขผู้เสียชีวิตจากทั่วโลกเพราะเชื้อโควิด-19 คือ 2,827,435 คนจำนวนผู้ติดเชื้อนี้ ประมาณ 130 ล้านคน รักษาหายแล้วประมาณ 104 ล้านคน) 

เมื่อโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักหน่วงทั่วโลก ประเทศไทยก็จำเป็นต้องปิดกั้นมิให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้โดยสะดวกง่ายดายเหมือนเช่นเคย เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีที่สุด เมื่อเป็นเช่นนั้นก็หมายถึงไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในไทยอีกต่อไป แล้วยิ่งในปัจจุบันแนวโน้มการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็ยังไม่เบาบางลงดังนั้นก็เป็นที่แน่นอนว่าเมืองไทยก็ยังจะไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวโดยเสรี เพราะฉะนั้นจากที่เคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไหลทะลักเข้ามาในไทยถึงปีละประมาณ 40 ล้านคน ก็จะลดเหลือเพียง 6-8 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งก็หมายความว่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ 

เมื่อประเทศไทยพึ่งพาอาศัยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมานานประมาณ 3 ทศวรรษโดยไม่พยายามพัฒนาแหล่งรายได้อื่นๆ จึงเท่ากับเศรษฐกิจไทยต้องอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวจากต่างชาติเป็นหลัก เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป เศรษฐกิจไทยก็จึงเสมือนดิ่งเหวไปโดยทันที ส่วนภาคธุรกิจในประเทศที่ต้องรอกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ประสบกับหายนะโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เช่น สายการบิน โรงแรม โรงพยาบาลที่เน้นลูกค้าต่างชาติ ส่วนธุรกิจบริการอื่นๆ เช่น สปา มัคคุเทศก์ รถเช่า ของที่ระลึก ก็ประสบหายนะไปพร้อมๆ กัน 

ผู้เขียนเคยพูดมานานอย่างน้อย 4-5 ปีแล้วว่า ถ้าหากประเทศไทยยังต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อไปเรื่อยๆรับรองว่าเศรษฐกิจไทยจะประสบหายนะอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากเกิดพิบัติภัยร้ายแรงอย่างใดอย่างหนึ่งกับโลกใบนี้ เช่นสงครามระหว่างประเทศขนาดใหญ่ที่ยืดเยื้อยาวนาน หรือเกิดเหตุการณ์ไม่สงบ ไม่ปกติภายในประเทศไทย หรือไทยถูก boycott จากประเทศใดประเทศหนึ่งที่ส่งนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเที่ยว ขอสารภาพว่าผู้เขียนไม่เคยคาดคิดเรื่องโรคติดต่อร้ายแรงใดๆ มาก่อน เพราะหลงคิดเอาเองว่าวิวัฒนาการทางการแพทย์ของโลก ดีจนไม่ต้องกลัวโรคภัยไข้เจ็บใดๆ อีกต่อไปแล้ว แต่เมื่อเกิดโรคโควิด-19 ขึ้นมา ก็จึงประจักษ์ว่าโรคร้ายไม่เคยหมดไปจากโลกใบนี้ ส่วนรัฐบาลไทยนั้น ถ้าหากยังเฝ้ารอเงินง่ายๆ จากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อไป โดยไม่มีปัญญาหารายได้ที่ยั่งยืนจากภาค Real Sectors ก็จงอย่าหวังเลยว่าจะทำให้คนไทยก้าวข้ามกับดักความยากจนแบบเช่นทุกวันนี้ไปได้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
20:11 น. เงือกไทยรอบ22ปี! 'มีอา'ทำได้คว้าทองกรรเชียง200ม.
20:06 น. มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
19:51 น. ทภ.2 สรุปสถานการณ์ชายแดน เวลา 18.00 น. เขมรถล่ม 7 พื้นที่ตลอดวัน ไทยตอบโต้เต็มกำลัง
19:47 น. ผมอยากกลับบ้าน! ฮีโร่ทองซีเกมส์เผยซ้อมหนักเพื่อแชมป์
19:35 น. 12.12สายช้อประวังภัย สสส.-ม.อ. เปิดผลตาไว โฆษณาเกินจริง-ของเถื่อนทะลักอีคอมเมิร์ซ พบผู้บริโภคเจอพิษถึง 44%
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 7-13 ธ.ค.68
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
เปิดภาพ! พระราชินี ทรงพระดำเนินร่วมกับพาเหรดทัพไทยเข้าสู่สนามพิธีเปิดซีเกมส์ครั้งที่ 33
ปรากฏการณ์ใหม่! ‘ประชาธิปัตย์ กทม.’ผู้สนใจเสนอตัวกว่า 150 คน 33 เขต เตรียมเปิดโชว์วิสัยทัศน์
‘ในหลวง-ราชินี’เสด็จพิธีเปิดซีเกมส์2025
ดูทั้งหมด
อว.เร่งนำงานวิจัยสู้ภัยพิบัติ-เยียวยาประชาชน ชง ‘คืนค่าเทอม-เลื่อนสอบ’ บรรเทาผลกระทบ
ก.ม.แรงงานใหม่ คุ้มครองการคลอดบุตร
สุดด้านฟันไม่เข้า?
เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร
บุคคลแนวหน้า : 12 ธันวาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เงือกไทยรอบ22ปี! 'มีอา'ทำได้คว้าทองกรรเชียง200ม.

มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68

ผมอยากกลับบ้าน! ฮีโร่ทองซีเกมส์เผยซ้อมหนักเพื่อแชมป์

ทภ.1 คุมเข้ม บ้านหนองหญ้าแก้ว กัมพูชา จ่อยึดคืน ฝ่ายไทยทำลายคลังเก็บอาวุธ บริเวณบ้านโจกเจย สำเร็จ

เลขาฯกกต. แจงข้อกฎหมาย หากคนละครึ่งพลัส ไปต่อใน ครม.รักษาการ

กกต.รับมีช่องทาง รัฐบาลอนุทิน อยู่ยาว ขยายวันเลือกตั้งเกิน 60 วันได้

  • Breaking News
  • เงือกไทยรอบ22ปี! \'มีอา\'ทำได้คว้าทองกรรเชียง200ม. เงือกไทยรอบ22ปี! 'มีอา'ทำได้คว้าทองกรรเชียง200ม.
  • มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68 มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
  • ทภ.2 สรุปสถานการณ์ชายแดน เวลา 18.00 น. เขมรถล่ม 7 พื้นที่ตลอดวัน ไทยตอบโต้เต็มกำลัง ทภ.2 สรุปสถานการณ์ชายแดน เวลา 18.00 น. เขมรถล่ม 7 พื้นที่ตลอดวัน ไทยตอบโต้เต็มกำลัง
  • ผมอยากกลับบ้าน! ฮีโร่ทองซีเกมส์เผยซ้อมหนักเพื่อแชมป์ ผมอยากกลับบ้าน! ฮีโร่ทองซีเกมส์เผยซ้อมหนักเพื่อแชมป์
  • 12.12สายช้อประวังภัย สสส.-ม.อ. เปิดผลตาไว โฆษณาเกินจริง-ของเถื่อนทะลักอีคอมเมิร์ซ พบผู้บริโภคเจอพิษถึง 44% 12.12สายช้อประวังภัย สสส.-ม.อ. เปิดผลตาไว โฆษณาเกินจริง-ของเถื่อนทะลักอีคอมเมิร์ซ พบผู้บริโภคเจอพิษถึง 44%
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

มีนายกฯ ไว้ผัดข้าวผัด?

มีนายกฯ ไว้ผัดข้าวผัด?

6 ธ.ค. 2568

หากกรุงเทพฯ เจอปัญหาเหมือนหาดใหญ่ จะวายป่วงสักเพียงใด

หากกรุงเทพฯ เจอปัญหาเหมือนหาดใหญ่ จะวายป่วงสักเพียงใด

29 พ.ย. 2568

พรรคสีส้มรอรับลูกจากบ้านใหญ่

พรรคสีส้มรอรับลูกจากบ้านใหญ่

22 พ.ย. 2568

ตำรวจกับโจร โจรกับตำรวจ

ตำรวจกับโจร โจรกับตำรวจ

15 พ.ย. 2568

เพื่อไทยปราบ scammers???

เพื่อไทยปราบ scammers???

8 พ.ย. 2568

สส.ไทยกับ scammers

สส.ไทยกับ scammers

25 ต.ค. 2568

ผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามเพื่อไทย

ผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในนามเพื่อไทย

18 ต.ค. 2568

พรรคทักษิณจะไม่มีคนชินวัตรนำ?!?!

พรรคทักษิณจะไม่มีคนชินวัตรนำ?!?!

11 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved