คนจำนวนไม่น้อยยกย่องว่านิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นคนเก่ง เหตุที่คนทั่วไปมองว่าเก่ง เพราะสามารถสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีคะแนนสอบในลำดับที่สูงสุดของประเทศได้แต่ในความเป็นคนเก่งนั้น สาธารณชนมิได้ยกย่องว่านิสิตทุกคนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือคนดี เพราะหลายคนประจักษ์แล้วว่า นิสิตจุฬาฯ จำนวนหนึ่งมิใช่คนดีโดยแท้จริง เนื่องจากบางคนมีพฤติกรรมอันต่ำช้าน่าขยะแขยง ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ไม่รู้กาลเทศะ ไม่มีสัมมาคารวะ ไม่มีจิตสำนึกเพื่อสาธารณะ
สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปก่นด่าประณามนิสิตจุฬาฯ บางคน ถึงประเด็นความไม่รู้กาลเทศะ ไม่รู้ที่ต่ำที่สูงคือ การที่นิสิตหญิง คณะอักษรศาสตร์รายหนึ่งจงใจชักธงดำขึ้นสู่ยอดเสาธงของจุฬาฯ ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นที่ติดค้างอยู่ในใจของสาธารณชน และยังคงมีคำถามตลอดเวลาผู้บริหารจุฬาฯ ดำเนินการสอบสวนหาความจริงเรื่องนี้ไปถึงไหนแล้ว เพราะเหตุไม่สมควรนี้ผ่านไปแล้วกว่าหนึ่งปี แต่ทุกอย่างยังคงนิ่งเงียบไร้คำตอบ ไร้ข้อสรุป
มาล่าสุด เกิดเหตุนิสิตกลุ่มหนึ่งที่พักอยู่ในหอพักจุฬาฯ ส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายภายในหอว่าตนเองถูกกักขังเสมือนสัตว์ ซึ่งผู้ที่รับทราบความจริงเรื่องนี้ต่างวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมอันน่ารังเกียจและน่าสมเพชนี้ว่า เป็นพฤติกรรมของคนไร้สติ แม้จะดูเสมือนว่ามีปัญญาสอบเข้าเรียนในจุฬาฯ ได้ก็ตามทีเถอะ แต่ก็ยังไม่มีสติอยู่วันยังค่ำ
สาธารณชนรับทราบกันทั่วไปว่าในจุฬาฯ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาแล้วเป็นระลอกๆ แล้วก็ทราบด้วยว่าในหอพักนิสิตจุฬาฯ ก็มีผู้ติดเชื้อนี้เช่นกัน(ตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่ 14 เมษายน มีนิสิตในหอพักติดป่วยด้วยโรคโควิด-19 จำนวน 13 คน)ดังนั้นผู้บริหารหอพักจุฬาฯ จึงมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อนี้ในระหว่างวันที่ 13-26 เมษายนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อนี้ภายในจุฬาฯ และในสังคม อันเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม อย่างไรก็ตาม จุฬาฯ ไม่ได้ห้ามนิสิตออกจากหอพักตามที่นิสิตพยายามบิดเบือนข้อมูล เพราะจุฬาฯ ให้สิทธิ์นิสิตอยู่ในหอพัก หรือจะกลับบ้านก็ได้ แต่มีเงื่อนไขคือขอตรวจร่างกายให้มั่นใจว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 โดยการตรวจนี้นิสิตไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และถ้าตรวจพบเชื้อก็จะรักษาให้โดยไม่คิดค่ารักษาเช่นกัน หากไม่พบเชื้อก็สามารถกลับบ้านได้ หรือหากจะอยู่ในหอต่อไป ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และนำเชื้อกลับเข้ามาแพร่ภายในหอพัก และภายในจุฬาฯ รวมถึงแพร่กระจายไปในสังคม ทั้งนี้จุฬาฯ ทำประกันโควิด-19 ให้นิสิตจัดเตรียมสัญญาณอินเตอร์เนต ให้ซิมโทรศัพท์มือถือ เตรียมอุปกรณ์รักษาความสะอาด เตรียมผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยา และคัดแยกผู้ติดเชื้อ และผู้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออย่างมากไว้แล้ว พร้อมทั้งลดค่าเช่าหอพักให้ด้วย
ส่วนประเด็นที่นิสิตบางคนวิจารณ์ว่าลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการเดินทางไปมา ก็ต้องถามกลับไปยังผู้วิจารณ์ว่า แล้วเคยคิดบ้างไหมว่า หากนิสิตนำเชื้อโควิด-19 ไปแพร่กระจายต่อสังคม นิสิตมีปัญญารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดตามมาหรือไม่ นิสิตที่เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดเชื้อมีปัญญาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ผู้ติดเชื้อรายอื่นหรือไม่ หรือมีปัญญาจ่ายเงินชดเชยให้กับร้านค้าที่ต้องปิดบริการหลังจากที่นิสิตนำเชื้อไปแพร่ระบาดหรือไม่ แล้วที่สำคัญคือนิสิตมีปัญญาจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลตัวเองในกรณีที่ตัวเองติดเชื้อแล้วป่วยเป็นโรคโควิด-19หรือไม่ ซึ่งว่ากันตามจริงแล้ว ก็ไม่ได้กักขังนิสิตไว้ในห้องโดยห้ามออกไปภายนอก เพราะยังให้ออกจากห้องไปซื้อหาข้าวของและอาหารภายในหอพักได้ตามปกติ ยกเว้นเพียงห้ามออกไปเพ่นพ่านโดยไร้ขอบเขตภายนอกหอพักเท่านั้น
เรื่องธรรมดาสามัญแบบนี้ เป็นเรื่องที่ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนิสิตของจุฬาฯ จำเป็นต้องมีความสำเหนียก และมีสามัญสำนึกให้จงดี อย่าสักแต่ว่าสอบเข้าไปเรียนในจุฬาฯ ได้เพียงเพราะว่าเป็นผู้อ่านหนังสือมาก แล้วจำตำราได้เยอะเท่านั้น แต่จงถามตัวเองด้วยว่า ตัวเองมีความเป็นปัญญาชนจริงแท้แน่หรือ หรือว่าเป็นได้แค่เพียงคนอ่านหนังสือออกแต่คิดไม่เป็น แถมยังไร้สามัญสำนึก แยกผิดแยกชอบไม่ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี