ก่อนอื่นต้องขอยอมรับว่าโดยส่วนตัวเห็นด้วยกับการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวนักลงทุน นักเรียนนักศึกษาต่างชาติ เพราะน่าจะส่งผลดีต่อการค้าขาย และระบบเศรษฐกิจไทยแต่ก็ต้องระมัดระวังเรื่องการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ให้จงดี และต้องมีมาตรการรองรับที่ดีมาก เพื่อระงับยับยั้งการแพร่ระบาดเชื้อ ถ้าหากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อนี้จากคนต่างชาติ  

แต่ลึกๆ เท่าที่ดูนั้น ที่ผ่านมาไทยก็ไม่ได้ปิดประเทศอย่างเข้มงวดหรือเคร่งครัดมากมายนัก เพราะอนุญาตให้คนต่างชาติเข้าในประเทศได้ แต่ทว่าคนต่างชาติไม่ต้องการเข้ามาแล้วถูกกักตัว ดังนั้นเขาจึงไม่เข้ามาในประเทศไทย  

ล่าสุดเมื่อสองวันที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะเปิดประเทศในอีก 120 วันข้างหน้านี้ก็คือประมาณเดือนตุลาคม โดยนายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่สามารถรอให้ทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนครบสองเข็ม แต่ต้องตัดสินใจเรื่องนี้เพื่อความอยู่รอดของประชาชนโดยรวม แม้ว่าอาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้นก็ตาม ก็ต้องรอดูและรับมือกับปัญหาต่อไป ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีบอกว่าเราทุกคนต้องร่วมรับความเสี่ยงด้วยกัน แต่ก็จะพยายามฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับประชาชนให้มากที่สุดและเร็วที่สุด แต่ทว่าไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในเรื่องการฉีดวัคซีนให้ประชาชน 

น่าสนใจที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมรับความเสี่ยงด้วยกันถ้าความเสี่ยงนั้นผ่านการประเมินอย่างรอบคอบดีแล้วว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายในประเทศเพื่อให้ประเทศก้าวเดินต่อไปได้ เราไม่สามารถรอจนไวรัสตัวนี้หมดไปจากโลกได้ และเราก็ไม่สามารถรอจนคนทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบสองเข็มได้ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับการอยู่ร่วมกับโรคอื่นๆ แต่เราต้องสามารถจัดการควบคุมมันให้ได้ในระดับหนึ่ง เพื่อให้ประชาชนสามารถทำมาหากินได้อีกครั้ง 

ประเด็นสำคัญที่นายกรัฐมนตรีบอกคือหากเมืองท่องเที่ยวของไทยแห่งไหนที่มีความพร้อมก็สามารถเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวได้ก่อนกำหนด120 วัน โดยนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วก็เข้ามาได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว และไม่ต้องเผชิญกับเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว และยังบอกด้วยว่าสำหรับคนไทยที่ได้รับวัคซีนแล้วสองโดสก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ แล้วสามารถกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องถูกกักตัว 

ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มิถุนายน เป็นเรื่องที่มีเหตุมีผลควรแก่การรับฟังได้ เพราะไม่มีประเทศใดสามารถปิดประเทศได้ยาวนาน โดยไม่ได้รับผลกระทบด้านลบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดตามมา ส่วนประเด็นที่ทุกคนต้องร่วมรับความเสี่ยงของโรคนี้ก็เป็นเรื่องที่ฟังขึ้น เพราะเป็นความร่วมรับผิดชอบของคนทั้งแผ่นดิน แต่ประเด็นสำคัญยิ่งกว่าที่นายกรัฐมนตรีต้องตระหนักให้มากคือ ทุกวันนี้คนไทยจำนวนไม่มากนักได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 บางรายได้รับหนึ่งเข็ม บางรายได้รับครบสองเข็มแล้ว แต่การประกาศเปิดประเทศใน 120 วันข้างหน้านี้ ต้องพิจารณาด้วยว่าคนไทยส่วนใหญ่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เรียบร้อยแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อยก่อนเปิดประเทศ 30-60 วัน เพื่อให้มีภูมิต้านทานรวมของสังคม คำถามสุดท้ายคือในระยะเวลาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีสามารถยืนยันหนักแน่นได้หรือไม่ว่า ประชาชนอย่างน้อย 50 ล้านคน ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกเรียบร้อยแล้ว