คนดี คนปกติ คนซื่อสัตย์ คนไม่ทำชั่วไม่เคยรังเกียจความร่ำรวย แต่ทว่าความร่ำรวยนั้นต้องได้มาโดยสุจริต โปร่งใส ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานที่ไม่ผิดศีลธรรม ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
แต่สำหรับตำรวจอายุ 40 ปี รายหนึ่งที่ได้กินตำแหน่งผู้กำกับการสถานีตำรวจได้อย่างรวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ใจ แถมยังมีทรัพย์สินมูลค่ามากมายมหาศาลจนเกินจะหาเหตุผลมาประกอบให้สาธารณชนเชื่อถือได้ ว่าการได้มาซึ่งทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล อาทิ รถยนต์หรูจำนวน 40 คัน มูลค่าหลายร้อยล้านบาท และคฤหาสน์ราคาหลักร้อยล้านบาท รวมถึงเรื่องที่ต้องติดตามต่อไปคือมีเงินสด และสินทรัพย์อื่นๆ ที่อยู่ในความครอบครองอีกจำนวนเท่าไร
การทำอาชีพตำรวจ (และทุกอาชีพที่สุจริต) แล้วมีฐานะร่ำรวยโดยสุจริต โปร่งใส สามารถบอกที่มาที่ไปของทรัพย์สินได้ นับเป็นเรื่องน่ายกย่องสรรเสริญ และน่าถือเป็นแบบอย่างในการประกอบสัมมาชีพ แต่สำหรับกรณีตำรวจไทยที่สังคมรู้จักในนามผู้กำกับโจ้กับการครอบครองสินทรัพย์ประดามีเท่าที่ปรากฏเป็นข่าว ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เหตุใดจึงสามารถครอบครองสินทรัพย์มูลค่ามหาศาลได้
การทำอาชีพตำรวจโดยสุจริต ได้เงินเดือนเดือนละเท่าไร แล้วถ้ามีรายได้โดยสุจริตอื่นๆ อีก จะหารายได้ ได้เดือนละเท่าไร สิ่งเหล่านี้ไม่ยากต่อการพิสูจน์เพื่อค้นหาความจริง
ตำรวจยศพันตำรวจโท พันตำรวจเอกได้เงินเดือนประมาณหลักหมื่น (หลักหมื่นกลางๆ) ส่วนรถหรูคันหนึ่งราคาโดยเฉลี่ย10 กว่าล้านบาท ถามง่ายๆ ว่าต่อให้ตำรวจยศพันตำรวจโท พันตำรวจเอก หรือต่อให้เป็นพลตำรวจเอกด้วยก็ได้ (เงินเดือนพลตำรวจเอกอยู่ที่ระดับหลักหมื่นปลายๆ)ดังนั้นหากต้องใช้เงินเดือนเพื่อซื้อหารถยนต์หรูแค่เพียงคันเดียว (ราคาประมาณ 10 กว่าล้านบาท) มาครอบครองให้ได้ ต้องทำงานไปอีกกี่สิบชาติ หรือเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดมาเป็นตำรวจอีกกี่สิบชาติ จึงจะสามารถใช้เงินเดือนตำรวจซื้อรถยนต์หรูได้สักหนึ่งคัน
แล้วปรากฏการณ์ตำรวจยศพันตำรวจโทพันตำรวจเอกที่สามารถครอบครองรถยนต์หรูได้มากถึง 40 คัน แล้วยังมีคฤหาสน์หลังละราคานับร้อยล้านบาทได้เรื่องแบบนี้มันเกิดมาจากความสุจริตกระนั้นหรือ
ต่อให้ตำรวจยศดังกล่าวได้เกิดมาในครอบครัวที่รวยล้นฟ้า มีพ่อแม่เป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ก็ไม่มีใครเชื่อว่าตำรวจคนดังกล่าวซื้อสินทรัพย์ทั้งหมดได้โดยอาศัยเงินเดือนของตนเอง ยกเว้นว่าอาเตี่ย หรืออาม่ามหาเศรษฐีจะยอมกวาดเงินจากตู้เซฟของมหาเศรษฐีให้ไปซื้อรถหรูและคฤหาสน์ หรือหากตำรวจรายนั้นไม่มีพ่อแม่รวยระดับมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของประเทศไทยก็ต้องถูกหวยรางวัลที่ 1 ติดต่อกันอย่างน้อย 100 งวด จึงอาจจะสามารถครอบครองสินทรัพย์ที่ปรากฏเป็นข่าวได้
สรุปทิ้งท้ายว่า ตำรวจรวยได้ ไม่มีใครรังเกียจ แต่ตำรวจต้องอธิบายมูลเหตุของความร่ำรวยให้ได้ด้วย ส่วนหัวหน้าของตำรวจต้องตอบสังคมให้ได้ด้วยว่า ทำไมลูกน้องของตนจึงรวยล้นฟ้าได้เช่นนี้ รวยเพราะสาเหตุหัวส่าย ห่างจึงกระดิก ใช่หรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี