“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา”ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ประจำการ “ขยายโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ และย่อโลกทัศน์ที่แคบให้กว้างทำความจริงให้ปรากฏด้วยสาระข้อมูล ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม บันเทิง รายงานผลการแข่งขันกีฬาที่ฉับไวแน่นอน”เริ่มต้นด้วย “สงครามสื่อศึกแห่งข่าวสาร” ที่แวดวงบันเทิงที่การขยับตัวของโทรทัศน์ช่องทหาร “สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ททบ.”ที่เตรียมแถลงข่าวสิ้นเดือนกันยายนนี้กับความร่วมมือครั้งสำคัญกับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมน้องใหม่ไฟแรง “ท็อปนิวส์” ของพี่ใหญ่ “ต้อย –สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม” ดีลที่สุดท้ายปิดกันไปท่ามกลางแฮปปี้เอ็นดิ้งนี้ โทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 จะปรับผังรายการใหม่โดยให้“สนธิญาณ” หอบหิ้วคุณลุงคุณป้าขุนพลพิธีกรข่าวคนดังสถานีท็อปนิวส์ทั้ง “ลุงกนก รัตน์วงศ์สกุล-ลุงธีระ ธัญไพบูลย์-ป้าปองอัญชะลี และ ลุงหนุ่มสันติสุข” มายึดหัวหาดเสนอข่าวช่วงเวลาข่าวไพร์มไทม์ททบ.5 แต่ก่อนหน้านี้ “พลโทรังษี กิติญาณทรัพย์นายใหญ่ช่องททบ.5” เถียงลิ้นพัลวันว่าเพียงเป็นแค่เพียงการนำเสนอแผนรายการให้บอร์ดททบ.5 พิจารณาตามปกติเช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ยังไม่มีการลงนามหรือสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นนั้น เป็นเรื่องปกติที่ทุกช่วงใกล้สิ้นปีจะมีผู้ผลิตรายการต่างๆ ติดต่อนำเสนอแผนงานเข้ามา ทว่า ดีลนี้ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวว่า บรรลุข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ให้ท็อปนิวส์ยึดหัวหาดกินเนื้อปลามันช่องททบ.5เรียบร้อยโรงเรียนคสช. โดยมีบริษัทเอกชนรายหนึ่งได้ตกผลึกกับกลุ่มท็อปนิวส์ร่วมกันผลิตรายการข่าวให้กับททบ.5 เริ่มต้นด้วยสัญญา 1 ปี เพื่อยกระดับททบ.5 เพื่อกลับมามีกำรี้กำไรจากดีลนี้ และหากแผนงานบรรลุเป้าหมายกลุ่มบริษัทเอกชนนี้จะได้รับฉันทามติให้เป็นผู้ดูแผงผลิตรายการต่างๆ ให้ททบ.5 แบบเบ็ดเสร็จ ภายใต้เงื่อนไขนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริง ไม่ยุยงสร้างความแตกแยกให้กับคนในสังคม โดยมีการนำ 4 พิธีกรคนดังมาเปิดตัวที่ททบ.5 ในวันที่ 30 ก.ย.นี้ เวลา 09.30 น. นับเป็นดีลที่น่าสนใจในแวดวงรายการข่าวของสื่อโทรทัศน์ที่เริ่มส่งสัญญาณ “เลือกข้าง” ทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ สงครามข้อมูลข่าวสารทั้งกรรมการข่าวที่เพิ่งพ้นจากพันธนาการ คงได้สู้รบกันดุเด็ดเผ็ดร้อนเชิงสร้างสรรค์ อย่างน้อยประชาชนก็จะมีทางเลือกในการเสพข้อมูลข่าวสารที่มากขึ้นหลังจากวันที่ 1 ม.ค. 2565 ซึ่งคงต้องวัดกันที่ฝีไม้ลายมือคลังสมองกองบรรณาธิการและอิสระทางความคิด ใครจะมีอุดมการณ์และสรรหาข้อเท็จจริงมาตีแผ่ให้สังคมเห็นและเข้าใจในความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น…

nn ถึงบรรทัดนี้ต้องชื่นชม “แดเนี่ยล เคร็ก” พระเอกจอเงินจากภาพยนตร์เงินล้าน “เจมส์บอนด์ 007”(คนล่าสุด... คนที่ 6) ที่ไม่เปิดโอกาสให้สื่อปีศาจสามานย์หลอกลากไปปลุกปั่นสร้างความแตกแยกให้สังคมในฐานะคนสาธารณะสื่อปีศาจที่ไม่ต่างจากสื่อปีศาจสามานย์ในสังคมไทยที่พยายามสนตะพายคนในสังคมให้เกิดความแตกแยกชิงชัง หลังตอบคำถามสื่อกรณีให้แสดงความคิดเห็นกรณีเปลี่ยนตัวแสดงนำเรื่อง “เจมส์บอนด์ 007”จากผู้ชายมาเป็นผู้หญิง ซึ่งแดลเนี่ยล เคร็ก ฉลาดไม่ได้บอกว่าเหมาะสมหรือไม่แต่บอกว่าเจมส์บอนด์หญิงสมควรได้รับบทใหม่ที่เป็นความเหมาะสมกับนักแสดงหญิงมากกว่าเอาบทเจมส์บอนด์ชายไปให้ผู้หญิงแสดง หลีกเลี่ยงประเด็นการเหยียดเพศได้อย่างเหมาะสมบางครั้งการศึกษาสูง(ดร.จากญี่ปุ่น)ประสบการณ์ดีในวงการสื่อก็ไม่ได้ขัดเกลาให้มีสามัญสำนึกมีความเป็นผู้ดีหมกอยู่ในวิถีวงจรอุบาทว์จนหาทางออกไม่เจออย่างสื่อปีศาจสามานย์ในสังคมไทยบางคนชวนให้นึกถึงประโยคอมตะของ“ชัย ราชวัตร”ที่กรีดตวัดปักอก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”กับสุนทรพจน์อัปยศที่มองโกเลียยิ่งนัก…

nn อีกประเด็นที่คาบเกี่ยววงการบันเทิง “คริสโตเฟอร์ จูเลียส” หรือ “คริส ร็อก ที่ 3” ดาราตลกอันดับ 5 ของดาราตลก, นักแสดง, นักเขียนบท, โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์และผู้กำกับภาพยนตร์ รวมทั้งผู้ประกาศรางวัลบน “เวทีประกวดออสการ์”ยอมรับว่าเป็น “ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” ทั้งที่เขาได้รับ “วัคซีนยี่ห้อ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” 1 โดส เรียบร้อยแล้วตามที่บริษัทผู้ผลิตในสหรัฐยืนยันว่าวัคซีนนี้ฉีดแค่ 1 เข็ม หรือ 1 โดส ทั้งยังเรียกร้องให้ชาวอเมริกันเร่งออกมารับวัคซีนกันให้ถ้วนทั่วด้วย ตอกย้ำยืนยันว่าทั่วโลกให้ฉีดวัคซีนครบประมาทแตกแถวก็ติดเชื้อได้อีก ไม่ใช่วัคซีนด้อยคุณภาพ…

nn ปฏิบัติการณ์ดาวกระจายเผาเมืองเริ่มแล้ว 10 ปีที่แล้ว สัมภเวสีโอปปาติกะหนีคดี “ทักษิณ ชินวัตร”ปราศรัยปลุกระดมคนเสื้อแดงเผาศาลากลางจังหวัด เสียงกระสุนปืนแตกวันใด จะออกมานำทัพนำม็อบต่อต้านรัฐบาลเอง จนบัดนี้พี่น้องคนเสื้อแดงยังไม่มีโอกาสเดินม็อบตามคำมั่นสัญญาชายที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร”สักครั้ง ขณะที่คำปราศรัยในครั้งนั้นสร้างความย่อยยับกับสมบัติของชาติได้รับความเสียหายหลายหัวเมือง โดยมีสาวกคนเสื้อแดงต้องคดีติดคุกอยู่ในเรือนจำจวบจนทุกวันนี้ แต่คนสั่งการ ... “เผาเลยครับพี่น้องเผาเลย ผมรับผิดชอบเอง” ยังคงลอยนวลเสวยสุขอยู่กับอิสรภาพและกองเงิน และยังกระทำทุกวิถีทางที่จะทำให้บ้านเมืองนี้ไม่สงบสุขร่ำไปล่าสุดเมื่อเวลาราว 02.00 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมามีกลุ่มผู้ไม่หวังดีบางฝูงลักลอบเผาป้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้สำหรับสัญญาณจราจรในกรุงเทพมหานครได้รับความเสียหายหลายแห่ง เช่นบริเวณสี่แยกสะพานควาย, แยกประดิพัทธ์, แยกอุรุพงษ์ และสี่แยกมิตรสัมพันธ์เป็นต้น แม้ก่อนหน้านี้ “ไม้หน้าสาม”ได้ยินได้รับกระแสข่าวปฏิบัติการณ์ดาวกระจายเผาเมืองมาบ้างแล้วจากฝีมือเหล่าสีเขียวนอกแถวบัญชาการ ร่วมกับกลุ่มอันธพาลป่วนเมืองที่สวมใส่หน้ากากอนามัยปิดบังหน้าแอบอ้างประชาธิปไตยเป็นผู้ชุมนุมสถุนอาละวาดป่วนเมือง เป็นที่อิดหนาระอาใจของพี่น้องประชาชนใน “ชุมชนสามเหลี่ยมดินแดง” แต่จะหนักหนาผลาญภาษีกู อย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถป้องกันหายนะเหล่านั้นได้ ทรัพย์สินทางราชการที่คนบางคนอาจไม่เคยเสียภาษีแก่รัฐเลยก็เป็นได้ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ – พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข”จะปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปรายวันเช่นนี้โดยไม่มีมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อสกัดกั้นและยุติความเสียหายอย่างนี้ไม่ได้หากท่าน “ไร้สมอง- ไร้ความสามารถ - ขาดสำนึก” ก็ลาออกเพื่อเปิดทางให้นายพลตำรวจรุ่นน้องที่มีจิตสำนึกมีความคิดมีความสามารถขึ้นมารับหน้าที่บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อาจได้รับเสียง “ปรบมือเชิดชูสปิริต” ก็เป็นได้ อย่ายึดติดบนความเสียหายของชาติอีกเลย ... นิ้วไหนร้ายก็ให้ตัดทิ้งมิใช่หรือ!! เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งตรวจกล้องวงจรปิดล่ามือวางเพลิงโดยเร็ว ว่าเป็นกลุ่มม็อบ 3 กีบ หรือ “ม็อบทะลุแก๊ส” หรือไม่ หรือแค่สถุนกุ๋ยข้างถนนที่หิวแสงสวมรอยสร้างความวุ่นวายป่วนเมืองเท่านั้นและที่คุยโตโอ้อวดว่า รู้แล้วว่าไอ้อีตัวไหนเป็นผู้ส่งท่อน้ำเลี้ยงสั่งการอยู่เบื้องหลัง เอาเข้าใจจริงๆ ก็คงหนีไม่พ้นแก๊งคนมีสีนอกราชการที่เคยลักลอบวางระเบิดป่วนกรุงมาแล้วเมื่อกว่า 10 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ไปไล่เลียงกันดู…nn

ไม้หน้าสาม