“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม... ทำหน้าที่ "ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ และขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง” เริ่มต้นด้วยสถานการณ์น้ำท่วมน้ำหลากจากพิษภัยของ “พายุเตี้ยนหมู่” ที่สร้างภัยพิบัติกระจายไปทั้งเหนือ-อีสานกว่า 10 จังหวัด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 13,930 ครัวเรือน สงสารประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน “ความวัวจากพิษภัยโควิด-19 ยังไม่ทันหาย ความควายจากอุทกภัยก็เข้ามาแทรก” นอกจากสงสารประชาชนชาวบ้านแล้ว เกิดความรู้สึก “สมเพชลุงตู่” ที่ลงไปตรวจสถานการณ์นี้แนะนำให้ประชาชนชาวบ้านในพื้นที่สวดมนต์อ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยห้ามพายุไต้ฝุ่นไม่ให้พัดมาทำให้ฝนตกในพื้นที่เป็นการกระหน่ำซ้ำเติมปริมาณน้ำฝนที่มีอยู่เดิมอีก “สมเพช” นายกรัฐมนตรีที่พูดจาไม่คิดหน้าคิดหลังไม่ไตร่ตรองอะไรควรพูดไม่ควรพูดในความเป็น “นายกรัฐมนตรีของราชอาณาจักรไทย” แก้ไขปัญหาบ้านเมืองด้วย “ไสยศาสตร์” เยี่ยงนี้ “สื่อ” ก็เหลือเกินประโยคไหนพูดเล่นพูดจริงคิดเล่นคิดจริงเป็นข่าวหมดดิสเครดิตผู้นำประเทศไม่เหลือ... บทเรียนที่ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ต้องหัดจดหัดจำ โฆษกรัฐบาลก็ไม่ได้ยืนห่างมากมายสมควรสะกิดให้คิดสักนิด...
nn ชอบใจจัง “โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง” ทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวที่ชื่อ Bow Nuttaa Mahattana@NuttaaBow เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมได้อย่างน่าอ่านน่าติดตามว่า ปัญหาน้ำท่วมเป็นปัญหาที่อยู่คู่เมืองไทย เหมือนที่ญี่ปุ่นต้องอยู่กับแผ่นดินไหว มันเป็นเรื่องของการบริหารจัดการภัยพิบัติซึ่งควรจะดีขึ้นเรื่อยๆ ได้ เมื่อเกิดแล้วต้องเร่งลดผลกระทบเมื่อจบต้องเร่งฟื้นฟูเยียวยาสรุปบทเรียนรอรับน้ำรอบใหม่ คือจะบอกว่าอย่าโทษใครเลยให้อยู่กับมันให้ได้ว่างั้นเถอะ ดูมีเหตุมีผลเหมือนกันน่ะ...
nn ไม่รู้จักจบจักสิ้นกับลิ้นไร้กระดูกของนักการเมืองไทย ยังเอร็ดอร่อยกับ “อาจม” อันโอชะของ “สัมภเวสี - โอปปาติกะ” ที่ยังนำ “วัคซีนโควิด-19” มาเป็น “วัคซีนการเมือง” อย่างซ้ำซาก... “หญิงหน่อย – สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย” ที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อคะแนนนิยมพรรคการเมืองและผู้สมควรได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามคาด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นอันดับ 1 จะผิดคาดตรงที่ “หญิงหน่อย” ตะเกียกตะกายมาเป็นอันดับ 2 โดยมองว่าผ่านงานบริหารงานซึ่งเคยทำได้ดี มีผลงานที่โดดเด่่น ใส่ใจประชาชนและมีประสบการณ์การทำงาน “ไม้หน้าสาม” ไม่ได้ติดใจอะไรนอกจากต้องถามหาจริยธรรมนักการเมืองในช่วงที่ผ่านๆ มา ตั้งแต่เมื่อครั้งใช้รถหาเสียงติดป้ายชื่อตนเองออกประกาศโฆษณาเชิญชวนประชาชนถวายดอกดาวเรืองเมื่อครั้ง “พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช”ที่เมื่อโดนสังคมตำหนิติติง
ก็บีบเค้นน้ำตาแถลงขอโทษโยนบาปให้ทีมงานเสียอย่างนั้น...
nn ล่าสุดเริงร่า กระดี๊กระด๊าว่าบินไปสหรัฐอเมริกาเข้าเยี่ยมพบ “พันโทหญิงลัดดา แทมมี่ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกรัฐอิลลินอยส์ พรรคเดโมแครต” และ “มิตต์ รอมนีย์ วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาซูเซตส์ พรรครีพับลิกัน” เพื่อให้ช่วยเหลือสนับสนุนให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาช่วยเหลือไทยจัดส่งวัคซีน mRNA ที่ค้างอยู่ราว 1 ล้านโดส และให้องค์กรปกครองท้องถิ่นไทยและบริษัทเอกชนที่มีความพร้อมจัดซื้อวัคซีน mRNA ไปฉีดให้พนักงานบริษัทตนเองและประชาชนในความดูแลของอปท.แต่ละแห่งด้วย ทั้งยังอ้างว่า “พันโทหญิงลัดดา แทมมี่ ดักเวิร์ธ” รับปากว่า “จะดำเนินการติดตามช่วยเหลือจัดส่งวัคซีน 1.5 ล้านโดสให้ แต่!!! รัฐบาลไทยต้องทำหนังสือตอบรับความช่วยเหลือมาก่อน” OMG!! ขณะที่อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยระบุว่าทางสถานทูตและกระทรวงการต่างประเทศไทยเร่งประสานงานเรื่องการจัดส่งวัคซีนมาโดยตลอด และคาดว่าน่าจะจัดส่งวัคซีนที่เหลือ 1.5 ล้านโดส ถึงประเทศไทยได้ในเร็ววันนี้ สู้อุตส่าห์ไปสร้างพระพุทธเจ้าน้อย สร้างบุญกุศลหลายอย่าง แต่ศีลข้อ 4 “มุสาวาทาเวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ” กลับไม่สำเหนียกแม้แต่น้อย งานนี้น่าจะถึง“นายหัวชวน หลีกภัย”ที่ต้องสละเวลาสั่งสอนนักการเมืองไทยในฐานะประธานรัฐสภา และนักการเมืองอาวุโส สส. 12 สมัย จัดอบรมนักการเมืองไทยปรับเปลี่ยนบริบทการเล่นการเมืองยุติ “ตีกิน” สร้างความสับสนให้สังคมไทยเสียที เยี่ยงนี้สังคมไทยมีแต่เสียผลประโยชน์ทางใดทางหนึ่ง...
nn ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่องความนิยมทางการเมืองของ “สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)” ครั้งนี้กลับไม่ปรากฏชื่อ “หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ –พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ”แม้แต่น้อย เรียกสั้นๆ ง่ายๆ “ตกสำรวจ” ไปเสียกระนั้นเยี่ยงนี้ยังจะสมควรเป็นตัวเลือกที่นักการเมืองค่ายพลังประชารัฐเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหรือ บอกตรงนี้เลยเยี่ยงนี้ “เขามาแน่”...
nn ย้ำกันตรงนี้ชัดๆ ศบค.คลายล็อกมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” อีกเปราะ10 กิจการถูกหวยเปิดดำเนินการได้ไม่อดตายแล้ว โดย 10 กิจการที่ว่า ได้แก่ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และวัยก่อนเรียน, ห้องสมุดสาธารณะ ห้องสมุดเอกชนห้องสมุดชุมชน, พิพิธภัณฑ์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน, ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมหอศิลป์, กีฬาในร่ม ในห้องที่มีระบบปรับอากาศ ฟิตเนส, ร้านทำเล็บ ร้านสัก ร้านนวด สปาเพื่อสุขภาพ, ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ฉายภาพยนตร์ และการเล่นดนตรีในร้านอาหาร โดยผู้ประกอบการต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงระบบหมุนเวียนอากาศ และจัดสถานที่ให้เป็นไปตามมาตรการ COVID-Free Setting ก่อนเปิดให้บริการ น่าสนใจก็ข้อนี่แหละ เปิดให้มีแสดงดนตรีสดแต่งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำได้จริงหรือก็ขนาดห้ามขนาดล็อกดาวน์ ลูกท่านหลานเธอยังแอบเช่าห้องเช่าสถานบันเทิงจัดเลี้ยงฉลองวันเกิดบ้างอะไรบ้าง ปาร์ตี้ยาก็แยะ เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองฝ่ายบ้านเมืองจะเข้มงวดควบคุมอยู่หรือลองให้ผู้กำกับการ, ผู้การ, ผู้บัญชาการภาค มายืนอ้าปากท่ีอมพระอยู่ในปากไหม ถ้าทุกอณูในสังคมไทยไม่ช่วยกัน “ประมาท การ์ดตก ไร้วินัยไร้ความรับผิดชอบ” การแพร่ระบาดระลอกใหม่ก็คงมีอีกแล้วทีนี้จะโทษใครได้อีกเล่า โทษคนสั่งเปิดสั่งคลายล็อกหรือโทษคนประมาทไร้ระเบียบวินัยดี ตอบกันดังๆ จากใจด้วยเถิด เพื่อความสุขของสังคมไทย...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี