วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สัปดาห์นี้ “ที่นี่แนวหน้า” ขอนำเสนอเรื่องเล่าจาก สถาบันวิจัยประชากรและสังคม (IPSR) มหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยผลกระทบของเด็กที่เติบโตมาในสภาพ “ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว” หมายถึงมีเฉพาะพ่อหรือแม่ที่เลี้ยงลูก และ “ครอบครัวแหว่งกลาง” หมายถึงลูกไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ แต่อยู่กับปู่ย่าตายาย โดย “การย้ายถิ่นไปทำงาน” ประชากรวัยแรงงาน (ซึ่งก็เป็นวัยแจริญพันธุ์และวัยสร้างครอบครัวด้วย) ต้องทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำมาหากินในพื้นที่ไกลออกไปไม่ว่าต่างเมือง (เช่น คนต่างจังหวัดไปทำงานในกรุงเทพฯ) หรือต่างประเทศ เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะนี้
ย้อนไปเมื่อกว่า 1 ทศวรรษก่อน ข้อมูลการสำรวจประชากรโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2553 พบว่า “เด็กอายุ 0-17 ปี ร้อยละ 23 ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ส่วนใหญ่เนื่องจากพ่อแม่ย้ายถิ่นไปทำงานที่อื่น” ซึ่ง รศ.ดร.อารี จำปากลายผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม (IPSR) มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ภาวะที่เกิดขึ้นส่งผลให้เด็กมีปัญหาสุขภาพจิต และเรื่องนี้เป็นปัญหาระดับโลก
“สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ความสำคัญและสนใจประเด็นปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีการศึกษาวิจัยเพื่อการหาแนวทางในการแก้ไขโจทย์ทางสังคมระดับโลกดังกล่าวอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ผ่านมา เมื่อศึกษาลึกลงไปพบอีกว่า กรณีที่แม่ไม่อยู่กับครอบครัว ส่งผลกระทบมากกว่าพ่อไม่อยู่ นับเป็นครั้งแรกที่สถาบันฯ ได้สนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยในประเด็นดังกล่าวอย่างจริงจังโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน ที่เน้นทั้งปริมาณและคุณภาพ” รศ.ดร.อารี กล่าว
.jpg)
หนึ่งในการสำรวจที่น่าสนใจคือ “แรงงานย้ายถิ่นที่เป็นแม่ (กรณีย้ายไปทำงานต่างประเทศ)”ซึ่งจัดทำโดย เบญจมาศ เป็นบุญ ดุษฎีบัณฑิตของ ISPR. ใช้กลุ่มตัวอย่าง 1,000 ครัวเรือน ผสมผสานกับการเดินทางไปสัมภาษณ์แม่ที่ย้ายถิ่นไปทำงานต่างแดนด้วยตนเอง ซึ่งพบว่า แม้จะใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยคอยเติมเต็มความสัมพันธ์ที่ห่างไกล แต่ก็ไม่เทียบเท่าการได้ดูแลอย่างใกล้ชิด
“ในภาวะที่พ่อหรือแม่ต้องไปทำงานในต่างประเทศ เด็กผู้ชายจะมีความเสี่ยงต่อปัญหาทางสุขภาพจิตและพฤติกรรมมากกว่าเด็กผู้หญิง เช่น ภาวะสมาธิสั้น และพฤติกรรมเกเร เนื่องจากขาด Role Model หรือต้นแบบในการดำเนินชีวิต โดยเด็กผู้ชายส่วนใหญ่มักเกรงใจพ่อและเรียนรู้ตัวแบบที่ดีจากพ่อ และแม้ลูกจะได้อยู่กับปู่ย่าตายาย เมื่อพ่อแม่ย้ายถิ่นไปทำงานไกลบ้าน แต่ในยามที่ครอบครัวขยายต้องประสบปัญหา ก็ไม่สามารถดูแลลูกได้อย่างเต็มที่ เมื่อเทียบกับการที่เป็นพ่อแม่ดูแลลูกด้วยตัวเอง” เบญจมาศ ระบุ
งานวิจัยชิ้นนี้ที่มีชื่อเต็มว่า “ผลกระทบจากการย้ายถิ่นระหว่างประเทศของแรงงานไทยต่อสุขภาพจิตของครอบครัวและประเทศต้นทาง : สถานการณ์การสูญเสียการดูแลและการส่งต่อภาระการดูแลของครัวเรือนที่มีการย้ายถิ่นในประเทศไทย” ผลงานของ เบญจมาศ เป็นบุญ โดยมี รศ.ดร.อารี จำปากลาย เป็นที่ปรึกษา ยังเป็นผลงานเด่น สามารถคว้ารางวัลการวิจัยแห่งชาติประจำปีงบประมาณ 2564 รางวัลวิทยานิพนธ์ระดับดี สาขาสังคมวิทยา จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
.jpg)
บทสรุปจองงานวิจัยดังกล่าว คือ ด้วยเหตุผลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางและสัญญาจ้างงานแรงงานย้ายถิ่นจะเผชิญกับข้อจำกัดในการเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวในประเทศต้นทาง ซึ่งการใช้ความเห็นอกเห็นใจในการปรับเปลี่ยนข้อตกลงสัญญาว่าจ้าง ที่ส่งเสริมสวัสดิการ และเอื้อให้ครอบครัวแรงงานย้ายถิ่นได้กลับไปพบหน้ากันมากขึ้น จะทำให้แรงงานย้ายถิ่นมีกำลังใจ ทั้งในการปฏิบัติงาน และการดำเนินชีวิต
ในขณะเดียวกันนายจ้างยังคงสามารถรักษาแรงงานย้ายถิ่นที่ดีมีคุณภาพเอาไว้ได้เช่นเดิม ซึ่งจะส่งผลดีต่อรายได้มวลรวมของทั้งประเทศต้นทางและปลายทางต่อไปได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามแม้อ้อมอกของพ่อแม่จะอยู่แสนไกล และปู่ย่าตายายจะไม่สามารถแทนที่ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็อุ่นใจกว่าการที่เด็กต้องโตขึ้นมาเพียงลำพังในช่วงวัยที่ต้องการใครสักคน ซึ่งสถาบันวิจัยประชากรและสังคม (IPSR) มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมทำหน้าที่เชื่อมต่อ
โดยหวังให้เกิดผลกระทบที่เป็นประโยชน์สอดคล้องต้องกันในประชากรทุกกลุ่ม เพื่อการบังเกิดผลสู่ความยั่งยืนได้ต่อไปในที่สุด!!!

รับมือพรรคส้ม?!‘สุชาติ’ดึงมือดี‘ดร.ณัฏฐ์’เป็นกุนซือด้านกฎหมาย นั่งคณะที่ปรึกษาฯรมว.ทส.
ฝุ่นมาแล้ว! แนวโน้มเพิ่มขึ้น เริ่มเกินมาตรฐาน กทม.เตือนระวังสุขภาพ
'แบมแบม-หมีเนย'นำทัพ!ปลุกกระแสเชียร์ซีเกมส์ที่ไทย
กทม.-สธ.ร่วมมือสกัดฝุ่น PM2.5 มอบหน้ากาก N95 - ‘มุ้งสู้ฝุ่น’ให้กลุ่มเสี่ยง-ผู้ป่วยติดเตียง
‘บิ๊กเล็ก’ลั่นไม่เคยสั่ง‘หยุดยิง’ แจงคุย‘ผบ.ทบ.’ก็ระบุไม่มีใครสั่ง เปิดคำพูด‘แม่ทัพกุ้ง’ก่อนเกษียณฯ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี