วันศุกร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2568

“บ่อนการพนัน” เป็นสถานที่ค่อนข้างมีอิสระมาก เงินที่ได้มาไม่ต้องเสียภาษี รายรับ รายจ่ายไม่ต้องแจ้งหน่วยงานที่สำคัญของรัฐบาลให้ทราบ แต่ต้องมีการแจกจ่ายให้กับบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับบ่อนทั้งทางตรงและทางอ้อม ในส่วนของผู้ที่รับเบี้ยมาจากบ่อนไม่ต้องแสดงหลักฐานใดๆ กับใครทั้งสิ้น “บ่อนการพนันทุกชนิด” ที่เปิดให้เล่นกันอย่างผิดกฎหมายส่วนใหญ่ไม่ต้องเสียภาษีอย่างถูกต้อง แต่ต้องจ่ายภาษีนอกระบบให้กับเจ้าหน้าที่บางกลุ่มบางพวกที่ปล่อยให้มีการเล่นการพนัน และต้องให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางคนบางกลุ่มที่อนุญาตให้มีการเล่นเปิดการพนันโดยไม่เสียภาษีอากร...
ตำรวจเป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมไม่ให้มีการเปิดบ่อนเล่นการพนันทุกชนิด เนื่องจากรัฐบาลมีคำสังห้ามไม่อนุญาตให้มีการเปิดบ่อนการพนันทุกชนิด เพราะกลัวประชาชนจะเล่นการพนันครอบครัวจะเดือดร้อน เนื่องจากการพนันไม่ได้สร้างความร่ำรวยให้กับใครเลยมีแต่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ครอบครัวต้องลำบาก หมดเนื้อหมดตัว การพนันสร้างความลำบากให้กับครอบครัวทางตรงไม่ใช่ทางอ้อม ใครก็ตามที่ย่างเท้าเข้าบ่อนการพนันจะค่อยๆ หมดตัวไปทีละน้อยๆ บางคนหาทางออกไม่เจอต้องไปก่อคดีลักวิ่งชิงปล้นสุดท้ายไม่อยู่ในคุก...
ช่วงนี้รัฐบาลดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้มงวดกับการเปิดบ่อนการพนันเท่าใดนักจึงทำให้มีบ่อน “ผี” เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด บริเวณที่เกิดบ่อนผีที่พบมากในขณะนี้ในพื้นที่ กทม.ก็คือบริเวณแฟลตบางแฟลต มีบ่อนผีมากมายกว่าแหล่งชุมชนแหล่งอื่น เปิดให้เล่นกันทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนใหญ่จะมีผู้หญิงตั้งแต่รุ่นกระทงไปถึงบรรดาไก่แก่แม่ปลาช่อน... การเปิดให้เล่นการพนันเจ้าของพื้นที่บางคน “แบมือ”กันหมด... ขณะนี้เป็นยุคข้าวยากหมากแพง แต่การพนันไม่ตกยุคมีคนเข้าไปเป็นลูกค้าขาประจำทุกเพศทุกวัยมิหนำซ้ำเจ้าหน้าที่ของรัฐยังหลิ่วตาให้อีกเพื่อรอรับกระดาษต่างสีต่างชนิดนำเข้ากระเป๋า แม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนจะไม่สนใจแล้วยังมานั่งเล่นอีกด้วย โดยไม่ต้องถูกลงโทษนี่คือวัฒนธรรมของคนไทยมีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ... เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มักจะ “หลิ่วตาแก้ผ้าเอาหน้ารอด” เพื่อให้พ้นความผิด...
ฝนจะตกแดดจะออกแต่คนไทยจะไม่มีการเลิกเล่นการพนันเด็ดขาด เนื่องจากการเล่นการพนันเริ่มมาจากบรรพบุรุษของคนไทยและมีการเล่นสืบต่อมาช้านานแล้วไม่มีใครหยุดได้จึงต้องให้เล่นกันต่อไป...รัฐบาลควรสร้างกฎกติกาในการเล่นแต่ละครั้งว่ารายได้ทุกครั้งควรหักภาษีให้รัฐจำนวนเท่าไหร่เป็นทางเดียวที่รัฐบาลควรพิจารณาตั้งกฎกติกาขึ้นมาเพื่อเก็บเป็นภาษีรายได้ประกอบกับรัฐบาลเองอยู่ในภาวะ “ถังแตก” ควรเก็บภาษีรายได้เข้ารัฐเสียเลยจะได้รับเงินมาช่วยการบริหารของรัฐที่กำลังถังแตกอยู่ในขณะนี้ได้ไม่มากก็คงพอควรดีกว่าปล่อยให้เงินนอกระบบรั่วไหลไปเรื่อยๆ อยู่อย่างนี้...สวัสดีครับ...
เกลือสมุทร

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี