“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏให้ทันเล่ห์นักเลือกตั้งนักการเมืองที่เลยความชังชาติจนเสียชาติเกิด อย่างเท่าเทียม” เริ่มด้วยพฤติกรรมสามานย์ของกลุ่มมวลชนที่นิยมการโดนสนตะพายกับอาการเสียชาติเกิด ทำร้ายประเทศไทยอย่างจงใจและเจตนา เพื่อหวังให้คนเบื้องหลังเข้าสู่อำนาจทางการเมืองจนเสียสติลืมไปว่าภาพลักษณ์ที่น่าอับอายเสียหายไม่ใช่ภาพลักษณ์ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมฝูงชนที่ตกมันน้ำลายฟูมปาก แต่ภาพลักษณ์ที่เสียหายย่อยยับคือภาพลักษณ์ของ “ราชอาณาจักรไทย” ที่เพิ่งกอบกู้มาได้ หลังจาก “ส่ำสัตว์ลิ่วล้อติ่งสัมภเวสีต่างประเทศ” ยกพลบุกล้ม “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่รอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา” เพียงเพราะนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทยชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” มันคือการทำร้าย “ราชอาณาจักรไทย”ทั้งยังฉ้อฉลผลประโยชน์ที่ประชาชนพึงได้รับซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนยากจะสรรหาความใดมาเปรียบเทียบพฤติกรรมสามานย์เยี่ยงนี้…
nn หลังจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น อาการเดิมๆ สันดานเดิมๆ ก็แสดงออกฉกฉวยคะแนนเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างไม่ลืมหูลืมตาแบ่งแยกผู้ร่วมเหตุการณ์ออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งถูกกระทำ ทำร้ายด้วยความรุนแรง ส่วนอีกฝ่ายเป็นผู้ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่มาชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ อย่างไม่ลืมหูลืมตาถ่มน้ำลายรดฟ้าอย่างไม่คิดชีวิตตั้งแต่ “อุ๊งอิ๊ง – แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าในปี 2566, “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล, “ฝูงฮายีน่า”, เบญจา แสงจันทร์ & อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 2 สส.พรรคก้าวไกล ที่มุ่งโจมตีประณามการปฏิบัติหน้าที่อย่างเอาจริงเอาจังเพื่อรักษาเกียรติยศและชื่อเสียง “ราชอาณาจักรไทย”ของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจจนตัวเองได้รับบาดเจ็บมากน้อยจนถึงสาหัสแตกต่างกันไป จนสามารถสกัดพฤติกรรมตกมันน้ำลายฟูมปากให้สงบเดชะบุญที่ความระห่ำนี้ไม่ลุกลามถึงตัวผู้นำเขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 21 เขต…
nn “โบว์ –ณัฎฐา มหัทธนา”นักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งครั้งหนึ่งก็ร่วมอยู่กับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้แต่เมื่อแนวทางไม่ถูกต้องเป้าหมายไม่ชัดเจนก็เปลี่ยนพฤติกรรมการเคลื่อนไหวมายืนดูความไร้สาระของแกนนำเบื้องหลัง ที่ทวีตข้อความผ่านสื่อโซเชียลยอดฮิต “ทวิตเตอร์ – Twitter” ว่า “ถามว่าคนสติปัญญาปกติจะรู้หรือไม่ว่าการพยายามเคลื่อนมวลชนที่โกรธเข้าไปในพื้นที่ควบคุมความปลอดภัยผู้นำโลกระดับสูงสุด อาจจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง และเมื่อคาดการณ์ได้แล้วยังวางแผนและยืนยันที่จะทำแบบนั้นจะมีคำอธิบายอะไรได้ถ้าไม่ใช่การเห็นมวลชนเป็นเบี้ย เดินหมากไปเพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ”เป็นประโยคที่น่าฉุกคิดและติดตามค้นหาเบื้องหน้าเบื้องหลังข้อเท็จจริงเรื่องนี้…
nn แต่น่าแปลกใจและค้นหาสปิริต ความรับผิดชอบของผู้หลักผู้ใหญ่บางคนที่กล้าตัดสินใจแต่ไม่กล้าสู้หน้า ย้อนแย้งจริยธรรมนักปกครองที่ดี “ไม้หน้าสาม” พาย้อนไป เมื่อกลางปี 2561 เกิดเหตุระทึกเมื่อสมาชิกทีมฟุตบอลเยาวชนในท้องถิ่นที่ต่อมาเราเรียกพวกเขาว่า “13 หมูป่า” หลงทางเข้าไปติดอยู่ใน “ถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน” ที่ขณะนั้นฝนตกหนัก ทำให้น้ำฝนไหลเอ่อเข้าท่วมภายในถ้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในขณะนั้น “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ระดมสรรพกำลังเพื่อดำเนินการกู้ภัยช่วยทุกชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยทุกวิถีทาง ทั้งการดำน้ำ การขุดเจาะ ที่มีทั้งนักภูมิศาสตร์ นักไต่เขา ตำรวจ ทหาร ภาคเอกชน ทั้งของไทยและต่างประเทศ ท่ามกลางกำลังใจและความห่วงใยของ “ทีมไทยแลนด์”…
nn “ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ยืนหยัดรับผิดชอบบัญชาการในพื้นที่ตั้งแต่ต้นจนจบสามารถช่วยชีวิตผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดออกมาได้อย่างปลอดภัยด้วยวิสัยและคุณธรรมจริยธรรมของนักปกครองท่ามกลางเสียงสรรเสริญสดุดีทั้งจากสังคมไทย และผู้คนทั่วโลกที่ติดตามข่าวสารนี้... แต่หากย้อนกลับมามองสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดประชุม “เอเปก 2022” มีกลุ่มเสียชาติเกิด, ชังชาติ ประกาศเคลื่อนไหวจัดกิจกรรมการชุมนุมคู่ขนานการประชุม เพื่อฉ้อฉลผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเอเปก…
nn ทว่า “มนุษย์ฮัคยักษ์เขียว – ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่มาจากการเลือกตั้ง พ่อเมือง untouchable”กลับมั่นอกมั่นใจว่าการชุมนุมนี้เป็นไปตามสิทธิเสรีภาพการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย อนุมัติให้คนชังชาติเสียชาติเกิดสามารถใช้ลานคนเมืองในการจัดกิจกรรมคู่ขนานการประชุมเอเปกได้ มั่นใจว่าแกนนำการชุมนุมรู้เรื่องภาษาคนภาษาไทยว่าจะไม่มีการเคลื่อนมวลชนออกจากพื้นที่ แต่... ที่สุด แกนนำม็อบ ก็นำมวลชนออกจากพื้นที่ลานคนเมือง ท่ามกลางการห้ามปรามของเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจที่รับผิดชอบหน้าที่รักษากฎหมาย แต่มวลชนกลับไม่สนใจนำมาซึ่งการกระทบกระทั่งกันจนขั้นใช้อาวุธเข้าห้ำหั่นกัน มีผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย หลังเหตุการณ์สงบจบลงดอกพิกุลร่วงจากปากพ่อเมืองที่มั่นอกมั่นใจม็อบรักษาสัจจะไม่แตกแถวออกจากลานคนเมืองก่อความวุ่นวายสั้นๆอย่างจับจิตจับใจว่า “ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ” ... “ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ว่าจากฝ่ายไหนย่อมได้รับการรักษาพยาบาลตามจรรยาบรรณวิชาชีพของแพทย์-พยาบาลแล้วบาดแผลที่ “ราชอาณาจักรไทย” รวมถึง “ผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน” ที่ต้องสูญเสียหรือลดทอนลง” เล่า ... “มนุษย์untouchable” ท่านกล้าหาญที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร หรือไม่!?!?! ว่าจะรักษาเยียวยาความเสียหายความอับอายกับโอกาสด้านการค้าการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติทั้งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศที่เป็นรายได้หลักในการนำมาพัฒนาความเจริญของประเทศนี้ได้อย่างไรที่สำคัญใครสมควรรับผิดชอบเรื่องนี้…
nn ข่าวดีของ “ตระกูลเจ้าสัว”... จิราธิวัฒน์ 06.35 น. อังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 พิมพิศา บุตรี ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ - ชนัดดา พิทยศิริ เข้าพิธีหมั้นและฉลองมงคลสมรสในคราวเดียวกันกับ “ประภู พรประภา” บุตร “สุภาภรณ์ พรประภา” ที่บ้านจิราธิวัฒน์ ศาลาแดง อย่างนี้เข้าตำรา “เรือล่มในหนองทองจะไปไหน” เต็มๆ…nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี