วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
ปูมหลังพลเอกธรรมรักษ์ คดียุบพรรคไทยรักไทย

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อวานนี้ พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าไปเปิดตัวที่พรรคพลังประชารัฐ

พลเอกธรรมรักษ์ เปิดเผยถึงการเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐว่า ได้รับการชักชวนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ


ใช้เวลาในการตัดสินใจไม่นาน ให้เหตุผลว่า เป็นเพราะนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งของพรรคพลังประชารัฐ ตนเองได้ทำนโยบายด้านนี้มามากตั้งแต่นโยบาย 66 ใต้ร่มเย็น พร้อมทั้งมีความเป็นห่วงว่าคนไทยมีความขัดแย้งอย่างรุนแรง ดังนั้น เมื่อพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง จึงเข้ามาเพื่อเป็นที่ปรึกษา

1. พล.อ.ธรรมรักษ์ เป็นอดีต รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลทักษิณ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

ถือว่าบทบาทสำคัญในพรรคไทยรักไทย เพราะเป็นอดีตนายทหารด้านการข่าวความมั่นคง

แต่ในภายหลัง ถูกตัดสิทธิการเมืองในกลุ่มบ้านเลขที่ 111 (กก.บห.ไทยรักไทย) เนื่องจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค จากปมจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง

เลือกตั้งเมื่อปี 2562 เคยปรากฏข่าวมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเล็กบางพรรค แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีบทบาททางการเมือง

2. พลเอกธรรมรักษ์ กับคดียุบพรรคไทยรักไทย

คณะตุลาการรัฐธรรมนูญ นำโดยนายปัญญา ถนอมรอด ประธานศาลฎีกาในฐานะประธานคณะตุลาการ วินิจฉัยชี้ขาดให้ยุบพรรคไทยรักไทย

เนื่องจากกระทำการจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง ผิดมาตรา 66( 1) และ(3)ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2541

มูลเหตุตามคำร้อง ก็ระบุถึง พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ด้วย ว่ามีพฤติการณ์จ่ายเงินให้กับผู้สมัครพรรคเล็กเพื่อลงสมัคร

มีการให้นายสุขสันต์ นายชวการ ไปดำเนินการในการหาผู้สมัครจำนวน 33 คน รวมทั้งใช้วิธีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิก โดยลงในพื้นที่ภาคใต้ถึง 25 คน เจือสมกับ
คำให้การนายชวการ รวมทั้งแผนผังในห้องประชุมที่เจอกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ มีภาพวงจรปิดในบริเวณหน้าห้องทำงานพลเอกธรรมรักษ์

มีการระบุถึงเงินที่ใส่ซองจำนวน 38 ซอง ซองละ 2 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 7 แสน 6 หมื่นบาท ที่โรงแรมกานต์มณีเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ที่จะลงสมัครเป็นเงินจำนวนมาก

เชื่อว่าเป็นเงินที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ ให้มาดำเนินการจัดหาผู้สมัคร และยังปรากฏหลักฐานมีการโอนเงิน 1.4 แสนบาท เข้าบัญชีของนายสุขสันต์ที่ จ.นครพนม จริง

คณะตุลาการจึงรับฟังว่ามีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ฟังไม่ขึ้นว่าพยานทั้งหมดจะร่วมมือกันใส่ร้ายพรรคไทยรักไทย

คณะตุลาการฯ ระบุว่า ในสถานการณ์การเมืองในการยุบสภา ที่ 3 พรรคใหญ่ไม่ส่งผู้สมัคร แม้พรรคไทยรักไทยจะมีโอกาสชนะการเลือกตั้ง แต่ก็มีปัญหาที่มาตรา 74 ของพ.ร.บ.เลือกตั้ง กำหนดให้หากเขตใดมีผู้สมัครเพียงคนเดียวต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง หากไม่ได้ตามจำนวนที่กำหนดก็ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจากข้อมูลเลือกตั้งปี 2548 มี 90 เขต ที่ผู้สมัครของฝ่ายค้านได้รับเลือกตั้ง โดยในจำนวนนี้มี 37 เขตที่ผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยได้คะแนนมาไม่ถึงร้อยละ 20

ประกอบกับรัฐธรรมนูญมาตรา 140 กำหนดให้ต้องมีการประชุมสภานัดแรกภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้ง และศาลรัฐธรรมนูญเคยตีความไว้หากมี สส.ไม่ครบ 200 คนเปิดประชุมสภาไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ หากมีการเลือกตั้งและผู้สมัครคนเดียวของเขตเลือกตั้งนั้นไม่ได้รับการเลือกตั้ง การเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีของพ.ต.ท.ทักษิณก็ยิ่งล่าช้าออกไป ซึ่งพล.อ.ธรรมรักษ์และนายพงษ์ศักดิ์ ยอมรู้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว จึงไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน บุคคลทั้งสอง เป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มีตำแหน่งทางการเมืองเป็นรมว.กลาโหม และรมว.คมนาคม แสดงให้เห็นว่าบุคคลทั้งสอง เป็นบุคคลของพรรคที่ย่อมได้รับการไว้วางใจจากกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค การทั้งสองไปสนับสนุนให้มีการแก้ไขฐานข้อมูลพรรคการเมือง จ่ายเงินสนับสนุนให้พรรคเล็กลงรับเลือกตั้ง จึงเชื่อว่าเป็นการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งไม่ให้ยืดเยื้อ เพื่อให้พรรคไทยรักไทยกลับเข้าสู่อำนาจโดยเร็ว ที่บอกว่าเป็นการกระทำส่วนตัว ตนเองไม่ได้ประโยชน์นั้น หากข้อเท็จจริงหากทำสำเร็จจะถือว่าเป็นประโยชน์ต่อตนเองอย่างมาก เพราะถ้าสามารถหาผู้สมัครไปลงเลือกตั้งนอกพื้นที่ ที่ตนเองรับผิดชอบ แล้วได้รับเลือกตั้งเข้ามา หรือทำให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นโดยเร็ว ก็จะเป็นผลงานให้ได้รับตำแหน่งทางการเมืองสูงขึ้น ดังนั้น เชื่อว่า ก่อนดำเนินการแก้ไขฐานข้อมูลพรรคการเมือง และจ้างพรรคเล็ก ทั้งสองคนได้รับการยอมรับจากกรรมการบริหารพรรค และพรรค ซึ่งการกระทำดังกล่าวย่อมมีผลผูกพันเป็นการกระทำของพรรค ตามมาตรา 20 วรรค 2ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง

พิจารณาได้ว่าการกระทำของพรรคไทยรักไทยขัดต่อกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 66(1) มุ่งให้ได้มาเพื่ออำนาจทางการปกครองที่มิใช่เป็นวิถีทางแห่งประชาธิปไตย นอกจากนั้น ยังเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบและศีลธรรมอันดี เพราะพรรคไทยรักไทยได้แทรกแซงบิดผันสร้างภาพลวงตาว่ามีการแข่งขันในระบอบประชาธิปไตย ส่งผลให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยสั่นคลอน และประชาชนที่ทราบข้อเท็จจริงเสื่อมศรัทธาต่อการปกครอง

“สำหรับข้อโต้แย้งที่อ้างว่าหากยุบพรรคแล้ว จะส่งผลกระทบกับสมาชิกพรรคจำนวน 14.3 ล้านคนเศษ อาจจะสร้างความวุ่นวายในสังคม และสร้างความไม่มั่นใจต่อชาวต่างชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า การก่อตั้งพรรคการเมืองจะต้องเป็นการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีอุดมการณ์เดียวกันตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน พรรคการเมืองจะต้องเป็นที่รวมของผู้มีอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อประโยชน์โดยรวม แต่เมื่อพิจารณาการยุบสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 แล้ว เห็นว่าปัญหาเกิดขึ้นเพราะการชุมนุมกันของประชาชนที่ขยายตัวกว้างขวางอันมาจากหัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้ขายกิจการที่ได้รับสัมปทานจากรัฐให้กับบริษัทของต่างชาติ โดยไม่ได้เสียภาษี ในขณะที่ก่อนการขายกิจการดังกล่าวได้ตรากฎหมายกิจการโทรคมนาคมฉบับที่ 2 เพื่อขยายสัดส่วนการถือของต่างชาติเพียง 3 วันก่อนที่จะขายกิจการ ฉะนั้น การยุบสภาดังกล่าวจึงมีสาเหตุมาจากเรื่องส่วนตัวของหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่ได้เป็นมีปัญหากับฝ่ายนิติบัญญัติ หรือเป็นเพราะประเด็นสาธารณะ แสดงให้เห็นว่าหัวหน้าพรรคไทยรักไทยมีอำนาจเหนืออุดมการณ์ของพรรคอย่างเด็ดขาด ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นปัญหาส่วนตัวของหัวหน้าพรรคไทยรักไทย”

คำวินิจฉัยระบุต่อว่า พรรคไทยรักไทยเป็นสถาบันพรรคการเมือง ต้องเป็นสถาบันหลัก มีภาระหน้าที่ในการผดุงไว้ที่จะให้ประชาชนมีอำนาจสูงสุดในการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่พรรคไทยรักไทยกลับทำให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน เป็นเพียงแบบวิถีที่จะเข้าไปผูกขาดอำนาจการบริหารของพรรคไทยรักไทยเท่านั้น ย้ำแสดงถึงความไม่เคารพต่อกฎหมายบ้านเมือง พรรคไทยรักไทยไม่ได้มีอุดมการณ์มุ่งให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้า แต่ประสงค์ที่จะทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ พฤติกรรมเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าพรรคไทยรักไทยไม่สมควรจะมีสภาพความเป็นพรรคการเมืองต่อไป สมควรที่จะยุบพรรค

คณะตุลาการฯ มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคไทยรักไทย

3. นอกจากยุบพรรคไทยรักไทย คณะตุลาการฯ ยังมีมติเสียงข้างมาก ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จำนวน 111 คน เป็นเวลา 5 ปี

อาทิ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายไชยยศ สะสมทรัพย์ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา นายเนวิน ชิดชอบนายประชา มาลีนนท์ นายประยุทธ มหากิจศิริ นายปองพล อดิเรกสาร นายพงศ์เทพเทพกาญจนา นายพินิจ จารุสมบัติ นายโภคิน พลกุล นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา นายสนธยา คุณปลื้ม ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสมศักดิ์เทพสุทิน นายสุชาติ ตันเจริญ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาลนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นต้น

4. คดีอาญา สุดท้าย พลเอกธรรมรักษ์รอด เพราะอะไร?

ศาลอาญา (ศาลชั้นต้น) พิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.961/2553 ที่มี พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา และพวก เป็นจำเลย

คำฟ้องโจทก์สรุปความผิดพวกจำเลยระบุว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันกระทำผิดคือเมื่อระหว่างวันที่ 2-7 มี.ค. 2549 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1 (พลเอกธรรมรักษ์) ได้ร่วมกับจำเลยที่ 3 จ้างวานให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต โดยมอบเงินค่าตอบแทนให้จำเลยที่ 2 จำนวน 30,000 บาท ให้ดำเนินการด้วยวิธีที่เรียกว่าตัดต่อตัดต่อพันธุกรรมเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายชื่อข้อมูลสมาชิกของพรรคพัฒนาชาติไทยที่ไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทยไม่ครบ 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงการไม่ประกาศผลการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเพียงพรรคเดียว และมีคะแนนเลือกตั้งไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง

วันที่ 3 มี.ค.49 จำเลยที่ 3 นายยุทธพงศ์ นายทวี และนายธีรชัย จุลพัฒน์ ไปพบจำเลยที่ 1 ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อนายทวีเข้าไปพบจำเลยที่ 1 ได้กลับออกมาพร้อมเงินสดจำนวน 50,000 บาท และมอบให้จำเลยที่ 3 เพื่อนำไปให้จำเลยที่ 5 ใช้ชำระค่าลงสมัครสส.และบัญชีรายชื่อของพรรคพัฒนาชาติไทย

โดยวันที่ 6 มี.ค.49 นายทวีนำเงินจำนวน 760,000 บาท มอบให้จำเลยที่ 3 เพื่อจัดแบ่งให้ผู้สมัคร

และวันที่ 8 มี.ค.49 นายทวีนำเงิน 140,000 บาท มอบให้จำเลยที่ 3 เพื่อโอนเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยที่ 4 ที่จังหวัดนครพนม

จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยและพรรคมหาชน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ไม่ลงผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง โดยมีเพียงพรรคไทยรักไทยและพรรคเล็กส่งผู้สมัคร ซึ่งเดิมสส.ในเขตเลือกตั้งพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้เกือบทั้งหมดเป็นสส.ของพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นที่คาดหมายได้อย่างชัดแจ้งว่า หากมีผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทยเพียงพรรคเดียวโอกาสที่จะได้คะแนนเสียงมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้มาใช้สิทธิ์เป็นไปไม่ได้

ดังนั้น การที่จำเลยที่ 4 จัดส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งโดยเน้นพื้นที่จังหวัดภาคใต้เป็นส่วนใหญ่ จึงสมประโยชน์ของพรรคไทยรักไทยที่มีจำเลยที่ 1 เป็นรองหัวหน้าพรรค และวิธีการจัดหาผู้สมัครลงเลือกตั้งของพรรคพัฒนาชาติไทยก็เป็นไปตามวิธีที่จำเลยที่ 3 แจ้งให้จำเลยที่ 1 ทราบเมื่อวันที่ 2 เม.ย.49 ที่พรรคไทยรักไทย

ส่วนเงินที่พวกจำเลยให้การถึงก็รับฟังได้โดยเชื่อว่าเป็นเงินที่นายทวีรับมอบจากจำเลยที่ 1 เพื่อมอบให้กับจำเลยที่ 3 ดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งจำเลยที่ 5
ในฐานะหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทยก็ให้การมาตลอดว่าพรรคไม่มีเงินสนับสนุนให้ผู้สมัคร มีเพียงบางรายที่ได้รับเงินสนับสนุนเพียงเล็กน้อย จึงเป็นข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นว่า เงินดังกล่าวไม่ใช่เงินของพรรคพัฒนาชาติไทย หรือของจำเลยที่ 3-5

แม้จำเลยที่ 1 (พลเอกธรรมรักษ์) จะอ้างว่านายทวีมาให้ข่าวเกี่ยวกับภาคใต้ แต่ไม่พบประวัติหรือการออกบัตรผู้สื่อข่าวให้นายทวี โดยจำเลยที่ 1 ก็เคยให้การกับป.ป.ช.
ไว้ว่านายทวีเป็นนายหน้าของผู้ที่จะลงสมัครเลือกตั้ง โดยมาพบกับจำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 3 มี.ค.49 เพื่อเป็นนายหน้าแนะนำผู้ที่ต้องการลงสมัครเลือกตั้ง จึงเป็นข้อพิรุธที่ทำลายน้ำหนักข้ออ้างของจำเลยที่ 1 เองว่านายทวีเป็นนักข่าว

ศาลอาญา พิพากษาว่า ให้จำคุกจำเลยคนละ 3 ปี 4 เดือน (ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กกต. มีความผิดตามพ.ร.บ.เดียวกันมาตรา 6 ให้จำคุก 5 ปี)

ต่อมา ในชั้นศาลอุทธรณ์ พิจารณาว่า ยังไม่มีประจักษ์พยานเบิกความยืนยันว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ จำเลยที่ 1 นั้นเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

(ส่วนจำเลยคนอื่นๆ ยังมีความผิด โทษจำคุก)

หลังจากนั้น นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด (อสส.) ไม่ยื่นฎีกา ในส่วนของ พล.อ.ธรรมรักษ์

คดีจึงยุติลงในศาลอุทธรณ์ที่ยกฟ้อง

สารส้ม

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:44 น. 'ขอนแก่น'คึกคัก! ปชช.แห่ใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น คาดยอดทะลุ 70%
15:32 น. 'เมย์ วาสนา'เผยเหตุผลส่งพวงหรีด ร่วมอาลัยในงานศพคุณพ่อ'ดิว อริสรา'
15:27 น. ‘อนุสรณ์’ชี้ปชช.เสียประโยชน์หากร่างงบฯ69ถูกคว่ำ มั่นใจผ่านสภาฯ ย้ำรบ.มีเสถียรภาพ
15:03 น. เปล่าคว่ำงบฯปี69! ‘ภท.’ ยันไร้เหตุไม่หนุนประโยชน์ประชาชน-พัฒนาชาติ
14:56 น. กม.ไม่ได้ปล่อย‘ผี’ นักวิชาการ มธ.จี้รัฐเคลียร์ให้ชัด‘ขายเหล้าวันพระใหญ่’
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต
ดูทั้งหมด
สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน40) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ
บุคคลแนวหน้า : 11 พฤษภาคม 2568
บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เมย์ วาสนา'เผยเหตุผลส่งพวงหรีด ร่วมอาลัยในงานศพคุณพ่อ'ดิว อริสรา'

‘อนุสรณ์’ชี้ปชช.เสียประโยชน์หากร่างงบฯ69ถูกคว่ำ มั่นใจผ่านสภาฯ ย้ำรบ.มีเสถียรภาพ

โยมนึกว่าหนูตาย! พระไม่ออกบิณฑบาต4วัน สลดเจอมรภาพคากุฏิ

เปล่าคว่ำงบฯปี69! ‘ภท.’ ยันไร้เหตุไม่หนุนประโยชน์ประชาชน-พัฒนาชาติ

กม.ไม่ได้ปล่อย‘ผี’ นักวิชาการ มธ.จี้รัฐเคลียร์ให้ชัด‘ขายเหล้าวันพระใหญ่’

ฮือฮา! ปชช.แห่อาบน้ำมนต์‘วัดไผ่เหลือง’ เชื่อแก้‘ปีชง’ พลิกดวงเป็นเศรษฐี

  • Breaking News
  • \'ขอนแก่น\'คึกคัก! ปชช.แห่ใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น คาดยอดทะลุ 70% 'ขอนแก่น'คึกคัก! ปชช.แห่ใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น คาดยอดทะลุ 70%
  • \'เมย์ วาสนา\'เผยเหตุผลส่งพวงหรีด ร่วมอาลัยในงานศพคุณพ่อ\'ดิว อริสรา\' 'เมย์ วาสนา'เผยเหตุผลส่งพวงหรีด ร่วมอาลัยในงานศพคุณพ่อ'ดิว อริสรา'
  • ‘อนุสรณ์’ชี้ปชช.เสียประโยชน์หากร่างงบฯ69ถูกคว่ำ มั่นใจผ่านสภาฯ ย้ำรบ.มีเสถียรภาพ ‘อนุสรณ์’ชี้ปชช.เสียประโยชน์หากร่างงบฯ69ถูกคว่ำ มั่นใจผ่านสภาฯ ย้ำรบ.มีเสถียรภาพ
  • เปล่าคว่ำงบฯปี69! ‘ภท.’ ยันไร้เหตุไม่หนุนประโยชน์ประชาชน-พัฒนาชาติ เปล่าคว่ำงบฯปี69! ‘ภท.’ ยันไร้เหตุไม่หนุนประโยชน์ประชาชน-พัฒนาชาติ
  • กม.ไม่ได้ปล่อย‘ผี’ นักวิชาการ มธ.จี้รัฐเคลียร์ให้ชัด‘ขายเหล้าวันพระใหญ่’ กม.ไม่ได้ปล่อย‘ผี’ นักวิชาการ มธ.จี้รัฐเคลียร์ให้ชัด‘ขายเหล้าวันพระใหญ่’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’

นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’

9 พ.ค. 2568

\'จิตป่วย\' ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เร่งป้องกันและรักษากันเถอะ

'จิตป่วย' ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เร่งป้องกันและรักษากันเถอะ

8 พ.ค. 2568

ผู้ว่าฯชัชชาติ อย่าทำลายโครงการบ้านมั่นคง

ผู้ว่าฯชัชชาติ อย่าทำลายโครงการบ้านมั่นคง

7 พ.ค. 2568

ถ้าศึกษา แล้วไม่กล้าตัดสินใจ  เปลืองเงิน เปล่าประโยชน์

ถ้าศึกษา แล้วไม่กล้าตัดสินใจ เปลืองเงิน เปล่าประโยชน์

6 พ.ค. 2568

คำโม้คุมกาสิโน กับความจริงของการบังคับใช้กฎหมาย

คำโม้คุมกาสิโน กับความจริงของการบังคับใช้กฎหมาย

5 พ.ค. 2568

ความจริงตึก สตง.ถล่ม  อย่าอคติโดยสัญชาติ

ความจริงตึก สตง.ถล่ม อย่าอคติโดยสัญชาติ

2 พ.ค. 2568

นายกฯคุณหนู เอาอยู่?  ศก.ไทย จากมีเสถียรภาพ สู่มุมมองเชิงลบ

นายกฯคุณหนู เอาอยู่? ศก.ไทย จากมีเสถียรภาพ สู่มุมมองเชิงลบ

1 พ.ค. 2568

ชั้น 14  ประตูกลับสู่นรกของนักโทษเทวดา?

ชั้น 14 ประตูกลับสู่นรกของนักโทษเทวดา?

30 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved