วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ /

วันจันทร์ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
โควิด-19 กลับมาอีกแล้ว

ดูทั้งหมด

  •  

สถานการณ์ของโรคโควิด-19 ที่ดูเหมือนว่าจะสงบลงไปในช่วงเวลา 3-4 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เกิดความวิตกกังวลอีกต่อไป ก็มีทีท่าว่าจะไม่เป็นไปเช่นนั้นอีกแล้ว เพราะตลอดช่วงระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ จำนวนของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าปกติที่เคยเป็น ที่ปรากฏชัดเจนก็คือตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่และมีอาการที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เคยอยู่ในระดับต่ำกว่า 200 รายต่อสัปดาห์มาโดยตลอดได้เปลี่ยนไป โดยข้อมูลในระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน ของกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลรวมทั้งสิ้น 435 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย

จากสภาพความเป็นจริงในโรงพยาบาลต่างๆ ขณะนี้ไม่ว่าจะของภาครัฐหรือเอกชนพบว่ามีผู้ที่มีอาการบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นโควิด-19 เข้ารับการตรวจรักษา และพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคยเป็นอย่างชัดเจน แต่ก็ยังเป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ได้มีอาการรุนแรงที่จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ยกเว้นในกลุ่มผู้ป่วยเสี่ยง 608 ตามเกณฑ์เดิมที่ใช้อยู่ หากมีอาการมากพอสมควรจะถูกรับไว้ในโรงพยาบาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัย


ข้อมูลในขณะนี้พบว่า เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน ที่มีรหัสประจำตัวว่า XBB .15 ซึ่งเป็นต้นเหตุของผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ ได้ถูกแทรกแซงโดยเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ที่มีรหัสว่า XBB.1.16 โดยเชื้อตัวใหม่นี้ถูกพบครั้งแรกๆ ในอังกฤษและอินเดีย แต่ขณะนี้ก็แพร่กระจายไปในหลายประเทศมากกว่า 22 ประเทศแล้วรวมทั้งสหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบเอเชียอื่นๆ อาทิเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และรวมทั้งประเทศไทยซึ่งมีผู้ติดเชื้อตัวนี้เพิ่มมากขึ้น

จากการศึกษาพบว่า เชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้เป็นเชื้อที่มีการติดต่อและแพร่กระจายได้ง่ายกว่าเชื้อตัวเดิม และยังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนว่าเชื้อตัวนี้เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงมากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์เก่า โดยขณะนี้พบว่าเชื้อตัวใหม่คือ XBB.1.16 นั้นมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งในบางประเทศเกินกว่าร้อยละ 20 ของผู้ที่ติดเชื้อ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในประเทศไทยนั้นมีการยืนยันผู้ติดเชื้อตัวนี้แล้วอย่างน้อย 8 ราย ซึ่งโดยความจริงเชื่อว่ามีมากกว่านี้เป็นจำนวนพอสมควร

จะขอนำข้อมูลจากการแถลงของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ 2-3 ท่านมาเพื่อให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รวมทั้งการดูแลป้องกันตัวเองเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 จากเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้

ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เรียกชื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า “ดาวดวงแก้ว” เป็นการเรียกแทนดาว Archturus ซึ่งน่าจะมาจากชื่อของเทพในนิยายกรีกโบราณที่ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อของดาวดวงหนึ่งที่มีความสว่างมาก  และรู้จักกันว่าเป็นดาวที่มีหน้าที่ปกป้องหมี

โดยอาจารย์ได้กล่าวว่าโรคจากเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้เพิ่งเริ่มระบาด และจะระบาดสูงสุดในเดือนมิถุนายน จะไปลดลงในเดือนกันยายนตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจซึ่งในช่วงนี้เป็นฤดูฝนและโรงเรียนเปิดเทอม โอกาสของการระบาดจึงจะมีสูงขึ้น เชื้อใหม่ที่เกิดขึ้นนี้กลายพันธุ์มาจากโอมิครอนดั้งเดิมที่มีรหัสว่า BA .2.75 เปลี่ยนมาเป็น XBB.1.5 และเปลี่ยนต่อมาเป็น XBB.1.16 เป็นการกลายพันธุ์ในตำแหน่งหนามแหลม (spike protein) โดยเป็นเชื้อที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าและ เร็วกว่า XBB.1.5 ประมาณ 1.2 เท่า อาการที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยจากเชื้อนี้อาจจะมากกว่าสายพันธุ์โอมิครอนได้บ้าง และอาจจะพบมีอาการตาแดงร่วมด้วยโดยเฉพาะในเด็ก  ในเรื่องของการดูแลรักษานั้นยังคงเหมือนเดิม โดยต้องเฝ้าระวังใน กลุ่มเสี่ยง 608 และเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี

ในส่วนของการใช้วัคซีน เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์ XBB ทุกตัว หลบหลีกภูมิต้านทานเดิมได้ดี โรคนี้เมื่อเป็นแล้วจึงมีโอกาสเป็นอีกได้ การฉีดวัคซีนยังคงเป็นการใช้เพื่อป้องกันอาการรุนแรงของโรคเท่านั้น โดยแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง 608 ควรได้รับวัคซีนกระตุ้นหากได้รับเข็มก่อนหน้านี้มาเกินกว่า 6 เดือนแล้ว สำหรับสตรีมีครรภ์ให้พิจารณากระตุ้นตามความเหมาะสม ซึ่งต่อไปการฉีดวัคซีนจะถูกปรับให้เป็นการฉีดประจำปี โดยฉีดก่อนเริ่มเข้าฤดูฝน  ส่วนในคนปกติและอายุน้อยกว่า 60 ปี นั้น  การฉีดวัคซีนคงจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจ

ส่วนมาตรการในการป้องกันที่สำคัญก็คงเหมือนเดิม อันได้แก่การใส่หน้ากากอนามัย การหมั่นล้างมือและการรักษาระยะห่าง  สิ่งที่จะต้องเน้นคือการเฝ้าระวังสถานที่ที่มีบุคคลรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น เรือนจำ โรงเรียน ต้องดูแลในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย  การล้างมือ  นักเรียนที่ป่วยไม่ควรไปโรงเรียน และผู้ป่วยทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดและมีระเบียบวินัย

ความเห็นจากแพทย์อีกท่านหนึ่ง คือนายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน ซึ่งเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้เชี่ยวชาญ โรคปอดวิกฤตบำบัด ได้ให้ความเห็นในเรื่องเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ไว้ว่า เชื้อตัวนี้กำลังเริ่มระบาดมากขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา และน่าจะเป็นเชื้อหลักในอนาคตอันไม่ไกลนี้โดยเชื้อดังกล่าวเป็นเชื้อที่ติดต่อและแพร่กระจายได้ง่ายจริง ผู้ที่ป่วยจากการติดเชื้อตัวนี้จะมีอาการไม่ต่างจากเชื้ออื่น คือมีไข้ซึ่งอาจจะสูงได้ ไอ เจ็บคอมาก ปวดศีรษะ ปวดตามเนื้อตัว คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องเสียได้ด้วย ยกเว้นอาการที่ไม่ได้กลิ่นหรือรู้รส ไม่ค่อยพบในผู้ติดเชื้อตัวนี้

ในส่วนของการรักษานั้น กรณีที่มีอาการรุนแรงหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น อายุมาก มีโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้มีโรคความดัน หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต่างๆ เหล่านี้ยาที่ได้ผลดีหากเป็นยาฉีดคือเรมเดซิเวียร์ ซึ่งผู้ป่วยต้องพักรักษาในโรงพยาบาล  ส่วนยากินนั้นคือแพ็กซ์โลวิด ซึ่งเป็นยาผสมของยาต้านไวรัส 2 ตัว แต่ยาตัวนี้มีข้อเสีย คืออาจจะมีปฏิกิริยากับยาบางอย่าง ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน กรณีที่มีการใช้ร่วมกัน เช่น ยาลดความดัน ยาละลายลิ่มเลือดยาลดไขมัน เป็นต้น จึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ส่วนยาโมลนูพิราเวียร์ก็ยังเป็นยาที่ได้ผลอยู่พอสมควรในการป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงมากขึ้น และหลังจากรักษาจนอาการดีขึ้นแล้วยังคงต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 5 วัน หลังจากนั้นแนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย อีกประมาณ 10 วัน

เรื่องของการฉีดวัคซีนนายแพทย์ธานีแนะนำว่า  ในกลุ่มเสี่ยงหลังจากเคยได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปและอยู่ในพื้นที่ระบาด ก็ควรจะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ โดยแนะนำให้ใช้วัคซีนเอ็มอาร์เอนเอชนิดใหม่ที่เป็น Bivalent  ที่น่าจะให้ผลในการป้องกันอาการรุนแรงได้ดีกว่าวัคซีนสายพันธุ์เดียว ส่วนผู้ที่ไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงและมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ส่วนวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่เรียกกันว่า LAAB และประเทศไทยได้ใช้อยู่บ้างนั้น ไม่ควรจะนำมาใช้อีกต่อไป  เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันถึงประโยชน์ที่ได้รับ ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ยกเลิกการใช้ไปแล้ว

ศาสตราจารย์แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคติดเชื้อในเด็ก ซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ได้ให้ความเห็นไว้ว่า โควิด-19 เป็นโรคที่จะอยู่กับมนุษยชาติตลอดไป โดยเชื้อไวรัสจะเกิดการกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ และสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนได้ จากที่มีการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนที่เป็น BA.2.75 มานานพอสมควร ทำให้เกิดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่หลบภูมิคุ้มกันได้มาแทนที่ ซึ่งก็คือ XBB.1.16 ที่เป็นเชื้อที่แบ่งตัวได้เก่งกว่าเดิม ทำให้มีการแพร่กระจายได้ง่าย และติดต่อได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้เป็นเชื้อที่มีความรุนแรงมากขึ้น และยังไม่ดื้อต่อยาตัวใด

แต่สำหรับกลุ่มเสี่ยงนั้น เชื้อทุกตัวมีโอกาสที่จะทำให้เกิดอาการรุนแรงได้ จึงควรเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนกระตุ้นหลังจากเข็มสุดท้ายตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนที่ฉีดไว้เดิมเริ่มแผ่วลงแล้วโดยท่านได้กล่าวว่า วัคซีนชนิด Monovalent ซึ่งใช้อยู่เดิมยังได้ผลอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าวัคซีนชนิด Bivalentจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีกว่า แต่ก็มีปัญหาเรื่องปริมาณและการกระจายของวัคซีนในประเทศไทยยังไม่ทั่วถึง การฉีดวัคซีนที่สามารถหาได้จึงเป็นเรื่องที่ควรกระทำ โดยในอนาคตก็คงต้องฉีดวัคซีนปีละ 1 เข็มเป็นประจำในช่วงก่อนเข้าฤดูฝน ที่จะเป็นช่วงของการที่มีการระบาดของไวรัสต่างๆซึ่งรวมทั้งไข้หวัดใหญ่ ที่ประชาชนคุ้นเคยดีอยู่แล้ว

จะเห็นว่าความเห็นของอาจารย์ทั้ง 3 ท่าน ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้ ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก และทุกท่านยังยืนยันว่าการป้องกันโรคโควิด-19ที่ดีที่สุด คือการป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อยๆ และการรักษาระยะห่างกับผู้คนอื่น ร่วมกับการฉีดวัคซีน ซึ่งจะต้องมีการฉีดเข็มกระตุ้น เป็นระยะๆไป ตามความเหมาะสม เพื่อลดโอกาสของการเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งจะเป็นโรคที่อยู่กับมนุษยชาติตลอดไป

นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:48 น. ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
22:21 น. 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
22:18 น. 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
22:08 น. (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
22:05 น. 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
วินาที'ในหลวง'ส่งสัญญาณพระหัตถ์ถึง'พระราชินี' ทรงรีบเข้าประคองพระองค์อย่างว่องไว
'สีกากอล์ฟ'ฟาดเรียบ ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งคนขับรถ สารภาพถูกชวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน
สลดวันพระ! ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดัง ย่านเพชรเกษม
ดูทั้งหมด
‘ฮุน เซน’เล่นใหญ่‘ทักษิณขายชาติ’
ซูเปอร์ฮีโร่
สองพ่อลูก
ศึกเขากระโดง ใครจะโดน 157 ? ปรับ ครม. เพื่อชำระแค้นการเมือง
คนไทยส่วนใหญ่เสียอะไร/ได้อะไรจากเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

(คลิป) 'ฮุนเซน' พร้อมสวนกลับ ขอเวลา 3 ชม. ซัด 'ทักษิณ'

'มหาเธร์'อดีตนายกฯมาเลเซียออกจากรพ.แล้ว โพสต์คลิปเดินปร๋อขึ้นรถยนต์ส่วนตัว

คู่รักสูงวัยถูกหลอกใน‘มาเลเซีย’ เดินทางไกลไปขึ้นกระเช้าที่ไม่มีอยู่จริง-พบแค่คลิปโปรโมทด้วย‘AI’

  • Breaking News
  • ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
  • \'ปราชญ์ สามสี\' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ\'ศิโรราบ\'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
  • \'กินเนสส์ฯ\'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น\'ชีสที่แพงที่สุดในโลก\'ด้วยราคา1.35ล้าน 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
  • (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก\'ทรัมป์\' อย่าเสีย \'ฐานทัพเรือพังงา\' เป็นพอ (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
  • \'สุทิน\' จวก \'โฆษกเพื่อไทย\' ย้ำรัฐบาล\'ชวน หลีกภัย\'ไม่เคยปรึกษา\'ทักษิณ\' 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด
Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved