วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
‘สุขภาวะทางจิต’กับความรุนแรง

ดูทั้งหมด

  •  

เดือนตุลาคมนั้นมีวันสำคัญอยู่หลายวันทั้งในประเทศไทยและระดับสากล หนึ่งในนั้นคือ “วันปลอดความรุนแรงสากล (International Day of Non-Violence)” ตรงกับ “วันที่ 2 ตุลาคม ของทุกปี” โดยในปี 2550 องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้เลือกวันดังกล่าว ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi) วีรบุรุษผู้ปลดปล่อยชาวอินเดียจากการปกครองของอังกฤษ ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งหลักการต่อสู้แบบ “อหิงสา” ไม่ใช้ความรุนแรง ซึ่ง UN คาดหวังว่า วันปลอดความรุนแรงสากล จะเป็นการเน้นย้ำวัฒนธรรมแห่งสันติภาพ

“ความรุนแรง (Violence)” นั้นมีตั้งแต่ระดับใหญ่ๆ อย่างสงครามทั้งระหว่างประเทศและสงครามกลางเมืองของกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศ ลงมาถึงระดับเล็กที่สุดแต่ใกล้ตัวปัจเจกบุคคลที่สุดอย่างความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น “ระบบสุขภาวะทางจิตเพื่อสังคมไทยไร้ความรุนแรง” โดย ธีรพัฒน์ อังศุชวาล อาจารย์ภาควิชาสังคมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มต้นนำการบรรยายด้วยการอธิบายความแตกต่างระหว่าง 2 คำ


กล่าวคือ“สุขภาพจิต (Mental Health)” มีความหมายที่ชัดเจนแต่แคบ มองเป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงการให้บริการทางการแพทย์ และความรู้ด้านจิตเวชกับการดูแลสุขภาพจิต แต่ “สุขภาวะทางจิต (Mental well-being)” จะมีความหมายกว้างกว่า ทั้งสุขภาวะทางกาย ทางปัญญา และทางสังคมที่เชื่อมร้อยกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้ เมื่อจำแนกคนเป็นกลุ่มต่างๆ จะพบปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาวะทางจิต ไล่ตั้งแต่

“เราพบว่าปัญหาความเสี่ยงเรื่องสุขภาพจิตสัมพันธ์กับความรุนแรงอย่างมาก และที่สำคัญคือไม่ว่าจะเป็นกลุ่มประชากรใดก็ตาม มีความเสี่ยงและความเข้มข้นในแง่ที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบางอย่างมากเลยต่อปัญหาต่างๆ แต่มันก็มีโอกาสอยู่ในปัญหาเหล่านี้ ก็คือสังคมไทยเราเริ่มตื่นตัวเรื่องสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้น มากกว่า 10-20 ปีที่แล้ว” อาจารย์ธีรพัฒน์ กล่าว

จากการทบทวนงานวิจัยที่มีในประเทศไทยหลายชิ้น มีชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจคือ “อนาคตสุขภาพจิตคนไทย 2576 (Futures of Mental Health in Thailand 2033)” ฉายภาพอนาคตสุขภาพจิตในสังคมไทย 5 รูปแบบ แบ่งเป็น 2 กลุ่มด้านหนึ่งคือ “ความกลัว” ได้แก่ 1.การระเบิดขึ้นของความกลัว (Terror Outburst) หมายถึงสังคมที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและรุนแรงจนผู้คนอยากย้ายหนีออกไป กับ 2.มวลชนผู้โดดเดี่ยว (Pack of Lone Wolves) มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก แต่เกิดปัญหาความเหงาทางสังคม ความโดดเดี่ยวของประชากรกลุ่มต่างๆ จะมีมากยิ่งขึ้น

แต่อีกด้านหนึ่งก็มี “ความหวัง” ได้แก่ 1.จุดหมายแห่งความสุขร่วมกัน (Land of Smiling Minds) ประเทศไทยเป็นต้นแบบด้านสุขภาพจิต เป็นหมุดหมายในการใช้ชีวิตของคนทั่วโลก ด้วยทุกภาคส่วนช่วยกันส่งเสริมให้สังคมเปี่ยมสุขเกิดขึ้นจริง 2.สุขภาพใจที่กระจายถึงกัน (Decentralized Mental well-being) กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทรัพยากรด้านสุขภาพจิตได้รับการจัดสรรให้เข้ากับความแตกต่างของแต่ละพื้นที่ ผู้คนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และ 3.วิกฤตที่แฝงด้วยโอกาส (Opportunity in Adversity) ทุกภาคส่วนพยายามรับมือกับความผันผวนต่างๆ (เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม) ปัญหาสุขภาพจิตจึงยังไม่ถูกแก้ไข ผู้คนจึงพยายามสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง

อาจารย์ธีรพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า “อนาคตแห่งความหวังจะเกิดขึ้นได้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน” ไม่ว่าจะเป็น 1.ภาครัฐ มีนโยบายสาธารณะที่ส่งเสริมด้านสุขภาพจิต ส่งเสริมเทคโนโลยีและเอื้อต่อการรวมตัวของคนในสังคม 2.ภาคเอกชน สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานด้วยความเข้าใจเรื่องสุขภาพจิต 3.ภาคชุมชน ทำอย่างไรจะสร้างความเข้าใจ ลดปัญหาอคติและการตีตรา และ 4.ภาคประชาชน แต่ละคนต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพจิตอย่างจริงจัง

“จริงๆ เรามีกฎหมายด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2551 (พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551) เพียงแต่กฎหมายนี้เน้นความสำคัญและให้น้ำหนักไปที่การยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ การคัดกรอง การส่งตัวผู้ป่วย พร้อมกันนั้นเรามีธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ ปี 2565 ซึ่งพูดถึงมุมของการสร้างเสริม แต่การมีอยู่ของกฎหมายนโยบาย 2 ตัวนี้ยังไม่เพียงพอ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมาก ทำอย่างไรเราจะเชื่อมร้อยสิ่งที่อยู่ในกฎหมายเหล่านี้และทำให้มันเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น” อาจารย์ธีรพัฒน์ ระบุ

อาจารย์ธีรพัฒน์ กล่าวถึงกรอบทิศทางนโยบายที่ต้องพัฒนา “ระบบสุขภาวะทางจิต (Mental well-being System)” ตั้งแต่เรื่องของทักษะหรือพฤติกรรมส่วนบุคคลที่จะมีสุขภาวะทางจิตที่ดี ไปจนถึงการออกแบบนโยบายที่ทำให้คนมีความสุข ผ่านหลักคิดด้านการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันและคัดกรอง การทำงานเชิงรุก การกระจายทั่วถึง และแบ่งการดูแลสุขภาพจิตเป็นลำดับขั้นเพื่อลดการกระจุกตัวของผู้รับบริการในสถานพยาบาล

ลดปัญหาและจัดการปัจจัยที่ส่งผลให้การเข้าถึงบริการสุขภาพที่ไม่เป็นธรรม ตลอดจนเพิ่มโอกาสและความหวังให้ทั้งคนป่วยและไม่ป่วยมีความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเฉพาะ“จะทำอย่างไรให้เด็กและเยาวชนไม่ขับเคลื่อนวัฏจักรแห่งความรุนแรงในสังคม เพราะเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มเปราะบางและหากได้รับผลกระทบจากความรุนแรงก็จะมีแนวโน้มจะส่งต่อความรุนแรงนั้น” ระบบสุขภาพทางจิตจิตจึงต้องลงทุนและให้คุณค่ากับโครงสร้างสังคมและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อประชากรกลุ่มนี้เป็นพิเศษ เพื่อให้เติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดี

“หน้าตาของระบบนี้มีอยู่ 4 ส่วนสำคัญที่เชื่อมร้อยกัน 1.ส่วนของกลไกนโยบายทั้งชาติและท้องถิ่น ที่ต้องเชื่อมโยงสอดประสาน เน้นการมีส่วนร่วม 2.กลไกการให้บริการที่มีอยู่แล้ว ต้องทำอย่างไรให้มีทรัพยากร บุคลากร การจัดองค์กรมีนวัตกรรมที่เพียงพอ เหมาะสม ต่อเนื่องและทั่วถึง พร้อมกันนั้นตามหลักการสร้างเสริม 3.เน้นพัฒนากลไกชุมชนและสังคม ผ่านการขับเคลื่อนวิชาชีพต่างๆ มากมายให้มาเกี่ยวข้อง กลายเป็นโครงข่ายทางสังคมที่สำคัญ

พร้อมกันนั้น 4.กลไกบ้าน ในฐานะกลไกที่ใกล้ชิดกับผู้คนที่สุด ทำอย่างไรจะให้ครอบครัว กลุ่มเพื่อน มีความรู้ทักษะต่างๆ ที่สามารถสร้างเสริมสุขภาวะทางจิตได้ ด้วยความรู้เราต้องผสมผสานความรู้ทางจิตเวชและความรู้สุขภาวะเข้าด้วยกัน เพื่อไม่ให้เวลาเราพูดถึงสุขภาพจิต เราจะเห็นเพียงแค่บนสุด แต่เราทำอย่างไรให้กลไกพื้นฐานที่สุด ใกล้ชิดกับคนมากที่สุดสามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ด้วย ” อาจารย์ธีรพัฒน์ กล่าว

อาจารย์ธีรพัฒน์ ฝากทิ้งท้ายว่า ยังมีเรื่องการพัฒนานวัตกรรมที่เข้าถึงประชากรทุกกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพลดอคติและการตีตรา, พัฒนาวิธีคิดและวิธีการค้นหา เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์สุขภาวะทางจิตของแต่ละคนที่แตกต่างกัน นำไปสู่การออกแบบการส่งเสริมและดูแล ตลอดจนเสริมพลังและยกระดับกลไกกลางทั้งระดับชาติและพื้นที่ให้เชื่อมร้อยกัน ซึ่งระบบสุขภาวะทางจิตจะเป็นเหมือน “ตาข่าย” รองรับและดูแลจิตใจของคนไม่ให้ร่วงหล่น และเสริมสร้างความเข้มแข็งไปพร้อมกัน!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:38 น. 'เชาว์'มองคดีทักษิณ 112 มีโอกาส'พลิก'หากศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจสืบพยานเพิ่ม
14:37 น. ราชกิจจาฯประกาศ ระยะทางห้ามเปลี่ยนเลน บนถนนมิตรภาพ
14:37 น. พี่ชายน้ำตาคลอ กินหมูกระทะในรอบ2ปี ต้องประหยัดเงินรักษา น้อง2ขวบติดเตียง
14:37 น. ‘ทหารผาเมือง’ปะทะแก๊งขนยาบ้า ลักลอบเข้าทาง‘อ.แม่ฟ้าหลวง’ ยึดอีก 1.4 ล้านเม็ด
14:24 น. 'เอกนิติ'มอบ'สรรพากร'ศึกษารายละเอียด หลังศาลสั่งเก็บ'ภาษีหุ้นชิน'
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
ดูทั้งหมด
เสียงร้องไห้ไม่เคยดังกว่าเสียงปืน
ไทย-จีน‘ดุจครอบครัวเดียวกัน’
คุยกันแบบนักเลง
สงครามสี
อสส. อุทธรณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’ ต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรี
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เชาว์'มองคดีทักษิณ 112 มีโอกาส'พลิก'หากศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจสืบพยานเพิ่ม

พี่ชายน้ำตาคลอ กินหมูกระทะในรอบ2ปี ต้องประหยัดเงินรักษา น้อง2ขวบติดเตียง

‘ทหารผาเมือง’ปะทะแก๊งขนยาบ้า ลักลอบเข้าทาง‘อ.แม่ฟ้าหลวง’ ยึดอีก 1.4 ล้านเม็ด

ราชกิจจาฯประกาศ ระยะทางห้ามเปลี่ยนเลน บนถนนมิตรภาพ

'เอกนิติ'มอบ'สรรพากร'ศึกษารายละเอียด หลังศาลสั่งเก็บ'ภาษีหุ้นชิน'

‘เลขาฯกฤษฎีกา’มองอสส.อุทธรณ์​คดี 112 ทักษิณ ไม่กระทบขอพักโทษ ย้ำต้องเข้าเงื่อนไข

  • Breaking News
  • \'เชาว์\'มองคดีทักษิณ 112 มีโอกาส\'พลิก\'หากศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจสืบพยานเพิ่ม 'เชาว์'มองคดีทักษิณ 112 มีโอกาส'พลิก'หากศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจสืบพยานเพิ่ม
  • ราชกิจจาฯประกาศ ระยะทางห้ามเปลี่ยนเลน บนถนนมิตรภาพ ราชกิจจาฯประกาศ ระยะทางห้ามเปลี่ยนเลน บนถนนมิตรภาพ
  • พี่ชายน้ำตาคลอ กินหมูกระทะในรอบ2ปี ต้องประหยัดเงินรักษา น้อง2ขวบติดเตียง พี่ชายน้ำตาคลอ กินหมูกระทะในรอบ2ปี ต้องประหยัดเงินรักษา น้อง2ขวบติดเตียง
  • ‘ทหารผาเมือง’ปะทะแก๊งขนยาบ้า ลักลอบเข้าทาง‘อ.แม่ฟ้าหลวง’ ยึดอีก 1.4 ล้านเม็ด ‘ทหารผาเมือง’ปะทะแก๊งขนยาบ้า ลักลอบเข้าทาง‘อ.แม่ฟ้าหลวง’ ยึดอีก 1.4 ล้านเม็ด
  • \'เอกนิติ\'มอบ\'สรรพากร\'ศึกษารายละเอียด หลังศาลสั่งเก็บ\'ภาษีหุ้นชิน\' 'เอกนิติ'มอบ'สรรพากร'ศึกษารายละเอียด หลังศาลสั่งเก็บ'ภาษีหุ้นชิน'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

พลิกเกมป้องกันภัยไซเบอร์ในยุค AI เสริมเกราะความไว้วางใจ สู่การป้องกันเชิงรุก

15 พ.ย. 2568

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

‘Dashboard’ อัจฉริยะ ทางรอด ‘เกษตรไทย’…สู้ ‘วิกฤตภูมิอากาศ’

8 พ.ย. 2568

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

เปิดประชุมชี้แจง ‘กองทุนบัตรทอง’69’ 6 แนวทางยกระดับ ‘30 บาทรักษาทุกที่’

1 พ.ย. 2568

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

‘Chiang Mai Marathon 2026’ ส่งเสริมสุขภาพ สร้างสัมพันธ์นิสิต – ศิษย์เก่า - ชุมชน

25 ต.ค. 2568

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

18 ต.ค. 2568

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved