“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์/www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสี ติ่งแดงด้อมส้มอย่างเท่าเทียม...
nn กลิ่นการเมืองไทยที่ออกอาการให้น่าศึกษากรณี 1 รัฐบาล 2 หรือ 3 นายกรัฐมนตรี และกรณี“บ้านจันทร์ส่องหล้า ทำเนียบรัฐบาล” ดูเหมือนท่านผู้นำ “เศรษฐา ทวีสิน”จะตายด้านกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่และเป็นไป ทว่าบางทีพฤติกรรมพฤติการณ์นี้ยอมรับโดยดุษณีตั้งแต่เริ่มแรกที่มีการทาบทามให้มาเป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย” แล้วก็เป็นได้ “สง่าราศี” จึงไม่โดดเด่นใช้เวลาท่องโลกกว้างมากกว่าที่จะบูรณาการเรื่องราวต่างๆ ภายในประเทศ ... มี “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” ก็ระคายคอให้ไอกระแอมมากพอแล้ว บัดนี้มี “ทักษิณ ชินวัตร”ออกมาผงาดบัญชาการทำเนียบฯซ้อนย่านฝั่งธนฯยิ่งทำให้เวลาปฏิบัติหน้าที่บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเริ่มนับถอยหลังไปเรื่อย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคก้าวไกล โชว์สกิลสอนมวยผู้บริหารพรรคอ้ำๆ อึ้งๆ กรณี “พักโทษนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร” ยื่นกระทู้สดถาม “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาว่าเข้าข่ายใดใน มาตรา 52 ของกฎหมายราชทัณฑ์ พ.ศ.2560... ...
nn งานนี้ท่านเสนาบดีแจงว่า เข้าข่าย อายุ 70 ปี โดยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ซึ่งมีแบบทดสอบเป็นเกณฑ์ ซึ่งแบบทดสอบประกอบด้วย 1.กินอาหารด้วยตนเองไม่ได้, 2.ใช้ห้องน้ำด้วยตนเองไม่ได้, 3.ชำระร่างกายด้วยตนเองไม่ได้, 4.สวมเสื้อผ้าด้วยตนเองไม่ได้, 5.เดินไปมาภายในบ้านไม่ได้, 6.ลุกจากเตียงไปนั่งเก้าอี้ไม่ได้, 7.ขึ้นบันไดด้วยตนเองไม่ได้, 8.อาบน้ำไม่ได้, 9.กลั้นปัสสาวะ / อุจจาระไม่ได้ ซึ่งผลการทดสอบปรากฏว่า “ทักษิณ” ได้ต่ำกว่า 11 คะแนนเล็กน้อย โดยที่ไม่มีการเปิดเผยว่า “หมอเทวดา” ไม่น้อยกว่า 2 คนที่ลงนามรับรองให้ “โจรอุบาทว์โกงบ้านกินเมืองฉ้อฉลเงินภาษีอากรประชาชน”ที่ป่วยหนักอาการตายวันตายพรุ่ง หายจากการป่วยกลับมาอยู่บ้านพัก และสามารถต้อนรับ“แขกบ้านแขกเมือง/ผู้นำคนสำคัญของเพื่อนบ้านชาติอาเซียน”ได้อย่างครึกครื้นชื่นมื่นด้วยกันทุกฝ่าย...
nn การเมืองสนามใหญ่เพิ่งผ่านการระดมพลเข้าคูหาเลือกตั้ง กากบาทตามความถูกใจไร้พื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ถึงสองขวบปี แต่ “พรรคการเมืองบางพรรค”ก็เคลื่อนไหวเดินเกมหาเสียงเลือกตั้งกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะในการ เลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่กำลังจะหมดวาระลงในราวเดือน “ธันวาคม 2567” นั่นหมายถึงสนามประลองยุทธการเมือง ระหว่างติ่งแดงที่วันนี้ผู้นำพรรคตัวจริงออกมานอนบัญชาการรบอยู่ที่จรัญสนิทวงศ์ 69 ส่วนด้อมส้มก็หวังล้างอายความผิดหวังเมื่อครั้งคณะก้าวหน้าไม่ประสบความสำเร็จทั้งที่ใช้จังหวะต่อยอดจากกระแส “พรรคอนาคตใหม่” อย่างเต็มที่ วันก่อน “บิ๊กต๋อม – ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคก้าวไกลลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่เลือกตั้งสส.ด้อมส้มสร้างปรากฏการณ์ “สึนามิ”กวาดมาได้ทั้งจังหวัด ก็หวังจะปักธงชัยชนะเลือกตั้งนายกอบจ.ภูเก็ตสักครา...
nn “ไม้หน้าสาม” ยังไม่เห็นนโยบายใดนัก แต่แนะนำว่า ถ้า “พรรคก้าวไกล”มั่นใจว่าการเรียกร้องให้มีการแก้ไข/ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ใช่การแยกสถาบันพระมหากษัตริย์ออกจากสถาบันชาติ ไม่ใช่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ใช่การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่ออกมาแถวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแล้วเช่นนั้น สมควรอย่างยิ่งที่ “พรรคก้าวไกล”จะยืนยันเจตนารมณ์นี้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อเป็นการตอกย้ำและยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ล้มเลิกอุดมการณ์นั้นเพราะถูกสังคมไทยจับได้ไล่ทัน แต่จะเดินหน้าเพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ใกล้ชิดประชาชนอย่างที่สำรอกสำรากยิ่งขึ้น แล้วจะได้เห็นกันว่า กรณี “ตะวัน–ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” ที่ป่วน “ขบวนเสด็จฯนางฟ้าเดินดิน 905–สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”เป็นการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญมีประชาชนเห็นด้วยจริงอย่างนั้นหรือไม่ เลือกตั้งส่วนท้องถิ่นน่าจะเกิดขึ้นไม่เกินเดือนก.พ.2568 (45 วันตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)...
nnอะไรที่เป็นประเด็นการเมือง พรรคการเมืองออกมาเคลื่อนไหวไม่ใช่เรื่องน่าละอายน่าต่อต้าน ทว่าการยกพลขึ้นบกในรั้วมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้พรรคการเมืองในมหาวิทยาลัยลงสมัครรับเลือกตั้ง องค์การบริหารนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง(อ.ศ.ม.ร.)เห็นสส.หนุ่มสาวสวยเดินพล่านขนเงินซื้อเสียงหัวละ 400 บาท ยังจะเรียกว่าการเมืองน้ำดีอีกกระนั้นหรือ สมควรหรือที่ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาจะปล่อยให้พรรคการเมืองปฏิกูลนำนักการเมืองปฏิกูลเข้ามาแนะนำบ่มเพาะแนวคิดแก่เมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่ด้วยชุดข้อมูลความคิดที่ไม่เหมาะสมเยี่ยงนี้ ฤๅจะเคยชินวิธีนี้กับการเลือกตั้งในทุกระดับชั้นที่ผ่านมา...
nn เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิด “ศึกติ่งแดง–ด้อมส้ม”สนั่นโซเชียล หลังสภาฯตีตก “ร่างพระราชบัญญัติรับรองเพศ คำนำหน้านาม และคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. ...” ซึ่งเสนอโดยพรรคก้าวไกลด้วยคะแนน ไม่เห็นด้วย 257 เสียง จากเสียงรัฐบาล 314 เสียง เห็นด้วย 154 เสียง จากเสียงพรรคฝ่ายค้าน 186 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง งดออกเสียง 1 เสียงจนเกิดแนวคิดขยี้กันสุดขีด ที่สุด “ชญาภา สินธุไพร”รองโฆษกสาวสวยพรรคเพื่อไทย สส.เขต 8 จังหวัดร้อยเอ็ด ต้องออกมาทวีตข้อความผ่านสื่อโซเชียล X ทวิตเตอร์ และโพสต์ข้อความบนแฟนเพจส่วนตัวชี้แจงสาเหตุที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ถูกตีตก เป็นเรื่องของ “สามัญสำนึก และ กาลเทศะ” ล้วนๆ...
nn “พรรคเพื่อไทย” ไม่เห็นด้วยในหลักการของร่างกฎหมายฉบับนี้และ มีความเกี่ยวพันกับกฎหมายฉบับอื่นที่ยังมีรายละเอียดไม่ชัดเจนเพียงพอ ทั้งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาปรับแก้ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” หากร่างกฎหมายคำนำหน้านามที่ถูกหยิบยกขึ้นมามีเนื้อหาที่ขัดกับ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่กำลังผลักดันอยู่ อาจทำให้ต้องมีการรื้อร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ปัจจุบันกำลังอยู่ในการพิจารณาของสภาฯ น่าจะทำให้ร่างกฎหมายที่ใหญ่กว่าสำคัญกว่าล่าช้า จึงสมควรนำกลับไปศึกษาให้รอบคอบ รอบด้าน และควรให้ครอบคลุมกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอีกหลายกระทรวงจะดีที่สุด...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี