วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
การแก้ปัญหาจำเป็นเร่งด่วนแบบทันกาลทันเวลาได้อย่างเหมาะสมเท่าทันสถานการณ์ ถือเป็นคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่งของผู้บริหารทุกระดับ แล้วถ้ายิ่งเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยแล้ว เรื่องนี้นับว่าสำคัญสุดๆ โดยเฉพาะในยามที่ประเทศชาติและประชาชนกำลังตกอยู่ใต้สถานการณ์วิกฤต
แต่สำหรับแพทองธาร ชินวัตร แล้ว ประเด็นที่กล่าวในข้างต้น ไม่เคยมีอยู่ในวิสัยทัศน์และจิตสำนึกของเขาอย่างแน่นอน เพราะในช่วงที่เขารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แล้วปรากฏว่าประเทศชาติและประชาชนต้องเผชิญวิกฤต สาธารณชนได้พบเห็นตรงกันว่าเธอไม่เคยตอบสนองเพื่อแก้ปัญหาให้ทันสถานการณ์เลยสักครั้งเดียว
ล่าสุดมีปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดภาคใต้ของไทย เช่น สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส (ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ยังไม่ประสบปัญหาสาหัสเท่าสี่จังหวัดที่กล่าวถึง) ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส แต่ไม่ปรากฏว่าแพทองธารสั่งการให้แก้ปัญหาวิกฤตให้กับผู้ประสบภัยอย่างฉับพลันและเท่าทันสถานการณ์ ต้องย้ำว่า ไม่เห็นแม้แต่น้อยว่าในฐานะนายกรัฐมนตรี เธอจะมีคำสั่งให้แก้ปัญหาวิกฤตให้ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมอย่างสาหัส
ในขณะที่หลายจังหวัดในภาคใต้ประสบปัญหาน้ำท่วมหนัก แต่กลับปรากฏว่ารัฐบาลซึ่งหมายถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่างไปประชุม ครม. สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าการประชุม ครม. สัญจรที่เชียงใหม่ถูกกำหนดไว้แล้ว แต่ทว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติรุนแรงในภาคใต้ ก็จำเป็นที่รัฐบาลต้องมีสติ แล้วต้องใช้ปัญญาที่พึ่งจะมี แล้วเร่งหาทางบรรเทาปัญหาให้ชาวบ้านผู้ประสบเภทภัยโดยพลัน
รัฐบาลที่มีสติปัญญา และมีความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของประชาชนผู้ประสบภัยร้ายแรงต้องรู้โดยพลันว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง ต้องแก้ปัญหาให้ชาวบ้านอย่างไร เพื่อบรรเทาเหตุร้ายให้เหลือน้อยที่สุด ไม่ใช่ทำตัวเป็นก้อนสี่เหลี่ยมจตุรัส ที่ต้องรอให้ใครต่อใครจับโยน จับขว้างไปทางไหนต่อไปตามแต่คนจะโยนจะขว้างไป
การที่นายกรัฐมนตรีพาลูกพาผัวไปเชียงใหม่ แล้วอ้างว่าพาลูกผัวไปดูการทำงานของตนเอง เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะหากนายกรัฐมนตรีอ้างแบบนี้ ก็หมายความว่าคณะรัฐมนตรีทุกคนต้องพาลูกผัวหรือเมียไปดูการทำงานของแต่ละคนด้วย กระนั้นหรือ
มันเป็นเรื่องจำเป็นหรือที่นายกฯ ต้องพาลูกผัวไปดูการทำงานของตน มีคำถามว่านายกฯ จะให้ลูกและผัวทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีสืบต่อจากตัวเองหรือ แน่ใจหรือว่าผัวกับลูกของตัวเองจะมีปัญญารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ แน่ใจหรือว่าตัวเองจะสามารถผลักดันให้ลูกและผัวของตัวเองขึ้นไปรับตำแหน่งนายกฯ เหมือนที่ทักษิณ ชินวัตร
ใช้อิทธิฤทธิ์ผลักให้แพทองธารได้รับตำแหน่งนายกฯ ได้อย่างง่ายดาย
อันที่จริง หากนายกฯ จะอ้างว่าพาลูกผัวไปดูการทำงานในหน้าที่ นายกรัฐมนตรีก็ต้องจะพาลูกกับผัวไปดูการทำงานของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในจังหวัดภาคใต้ในขณะนี้ เพราะเป็นการเห็นงานจริงในท่ามกลางสถานการณ์จริงซึ่งดีกว่าไปดูการประชุม ครม. สัญจร เพราะไม่มีการแก้ปัญหาใดๆ อย่างเป็นรูปธรรม แต่เป็นแค่การใช้งบประมาณแผ่นดินเพื่อร่อนเร่ไปนั่งคุยกันนอกทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่าการประชุม ครม. นอกสถานที่ หรือ ครม. สัญจร ไม่ได้แก้ปัญหาใด ๆ อย่างเป็นรูปธรรมแม้แต่น้อย เพราะมันคือการทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก แบบผักชีโรยหน้า ซึ่งหลายจังหวัดที่ถูกใช้เป็นที่ประชุม ครม. สัญจรก็ไม่ได้ดีมากไปกว่าเดิม แต่คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็ได้แก่เหล่าบรรดาหัวคะแนนของนักการเมืองเท่านั้น
นายกรัฐมนตรีเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมหนักในภาคเหนือ (เชียงราย) เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งครั้งนั้น ก็พบว่านายกฯเข้าไปแก้ปัญหาล่าช้ามาก โดยอ้างว่ายังไม่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา มาล่าสุดกำลังเกิดปัญหาน้ำท่วมหนักในจังหวัดภาคใต้ ก็ยังปรากฏว่านายกฯ ไปประชุม ครม. สัญจรที่เชียงใหม่ มีคำถามทิ้งท้ายว่า นายกฯ ไม่มีปัญญาวางลำดับความสำคัญ และความจำเป็นเร่งด่วนของภารกิจบ้างเลยหรือ มีชาวบ้านที่กำลังถูกน้ำท่วมหนักเขาฝากเสียดสีมาว่านายกฯ น่าจะพาลูกและผัวไปล่องลอยท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก จะได้รู้รสชาติของชีวิตคนที่กำลังเผชิญนาทีแห่งความเป็นความตายได้อย่างชัดเจน

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี