มีคำถามจากสาธารณชนตลอดเวลาว่า ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ (ต่อไปจะเรียกว่ากรมราชทัณฑ์)ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดหรือไม่ เหตุใดและทำไมนักโทษคดีสำคัญๆ ที่สาธารณชนเห็นตรงกันว่าไม่ควรถูกลดโทษ และพักโทษ แต่กลับได้รับการลดโทษ พักโทษกันเป็นทิวแถว
ตัวอย่างชัดๆ ที่สังคมตั้งคำถามกันมากมายคือ ทำไมนักโทษคดีทุจริตจำนำข้าวทุกเมล็ด ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายจนเข้าขั้นบรรลัยวายป่วงหลายแสนล้านบาท ซึ่งต้องคำพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลาประมาณ 40-50 ปี แต่กลับปรากฏว่านักโทษที่ก่อความบรรลัยให้บ้านเมืองอย่างแสนสาหัส กลับได้รับการพิจารณาลดโทษ พักโทษ ไม่ต้องถูกจองจำในคุกในตะรางจนครบคำพิพากษา ถามอีกครั้งว่ากรมราชทัณฑ์ไม่ทราบถึงความฉิบหายบรรลัยแสนสาหัสที่นักโทษเหล่านั้นจงใจก่อให้บ้านเมือง กระนั้นหรือ
ถามเข้าประเด็นชัดๆ คือ กรมราชทัณฑ์พักโทษและปล่อยตัว เปี๋ยง-อภิชาติ จันทร์สกุลพรนักโทษคดีทุจริตจำนำข้าว และคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่เปี๋ยงยังต้องถูกจำคุกถึงปี 2577 ถามย้ำว่าเปี๋ยงทำความผิดหนักหนาสาหัสทำให้บ้านเมืองเสียหายอย่างหนัก แล้วทำไมเปี๋ยงจึงกลายเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยม นักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยมต้องมีคุณสมบัติประการหนึ่งคือ ต้องโกงบ้านกินเมือง ต้องก่อเหตุฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นเงินหลายหมื่นหลายแสนล้านบาท ใช่หรือไม่
หากเปี๋ยงถูกกรมราชทัณฑ์ระบุว่าเป็นนักโทษชั้นดีแล้ว ก็มีคำถามว่าแล้วนักโทษที่ทำผิดลหุโทษ หรือทำผิดด้วยความประมาทในคดีเล็กๆ น้อยๆ
ที่มีเต็มคุก ทำไมกรมราชทัณฑ์ไม่ปล่อยนักโทษเหล่านั้นให้หมด ทำไมจึงเลือกปล่อยเปี๋ยง ปล่อยภูมิ สาระผล และปล่อยบุญทรง เตริยาภิรมย์ หรือกรมราชทัณฑ์จะบอกว่าเปี๋ยง ภูมิ บุญทรง ทำความผิดเพียงคดีลหุโทษเท่านั้น
กรมราชทัณฑ์อ้างว่าเปี๋ยงป่วยหนัก และอายุเกิน 70 ปี จึงพิจารณาพักโทษเป็นกรณีพิเศษ ถ้าเช่นนั้นถามว่า แล้วคนคุกรายอื่นๆ ที่ป่วยหนัก และมีอายุเกิน 70 ปี แต่ทำความผิดคดีลหุโทษ กรมราชทัณฑ์พิจารณาพักโทษนักโทษเหล่านั้นด้วยหรือไม่หรือเลือกพักโทษเฉพาะคนที่ทำผิดคดีร้ายแรงอุกฉกรรจ์ โดยเฉพาะคดีโกงบ้านกินเมืองเท่านั้น
ข้ออ้างจากกรมราชทัณฑ์ระบุว่าเปี๋ยงป่วยหนัก ป่วยสาหัสด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย โรคความดันโลหิตสูง โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับชนิดรุนแรง โรคต่อมลูกหมากโต โรคกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท โรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือดสมองตีบ เมื่อกรมราชทัณฑ์อ้างแบบนี้ ก็ต้องถามกลับว่า แล้วคนคุกรายอื่นๆ ไม่มีใครป่วยด้วยโรคร้ายแรงดังกล่าวบ้างเลยหรือ รับรองว่าต้องมีแน่นอน คำถามคือกรมราชทัณฑ์ลดโทษ พักโทษให้คนคุกรายอื่นๆที่ป่วยหนักด้วยโรคร้ายแรงด้วยหรือไม่ กรมราชทัณฑ์เคยส่งคนคุกรายอื่นๆ ที่ป่วยสาหัสไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระรามเก้า โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลรามาธิบดี เหมือนที่เปี๋ยงถูกส่งตัวไปรักษาตามโรงพยาบาลเหล่านั้นบ้างหรือไม่
กรมราชทัณฑ์ต้องสำเหนียกไว้ว่า วิญญูชนเฝ้าติดตามการทำงานของกรมฯ ด้วยสายตาที่ไม่เคยเชื่อถือในความซื่อสัตย์ของกรมฯ เพราะมีข่าวเน่าข่าวลบ ข่าวเลวสารพัดชนิดหลุดลอดออกมาเป็นประจำ แม้จะมีข้าราชการบางคนของกรมฯ พยายามทำเรื่องดีๆ ให้ปรากฏ แต่ก็ต้องบอกว่าข่าวเลวจากกรมราชทัณฑ์มีมากกว่าข่าวดี จึงทำให้ภาพลักษณ์ของกรมราชทัณฑ์เน่าเฟะ และสุดแสนโสโครกตลอดเวลา
มีคำถามอีกว่า กรมราชทัณฑ์กล้าเปิดเผยข้อเท็จจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชนหรือไม่ว่านักโทษคดีสำคัญๆ โดยเฉพาะคดีฉ้อโกงบ้านเมือง อันเกิดจากน้ำมือของนักการเมืองระดับรัฐมนตรี และข้าราชการตำแหน่งสูงที่มีข่าว (ลวง) ว่ายังถูกจองจำในเรือนจำ คำถามคือปัจจุบันนักโทษเหล่านั้นยังถูกคุมขังในคุกจริงๆ หรือ
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าวิญญูชนไม่เคยเชื่อถือว่ากรมราชทัณฑ์มีความซื่อสัตย์สุจริตแม้แต่น้อย แล้วก็ต้องย้ำเหมือนเดิมว่า วิญญูชนยังคงเชื่อเหมือนเดิมว่า คุกของกรมราชทัณฑ์มีไว้ขังหมาและคนไร้ทางต่อสู้เชิงกฎหมายเท่านั้น และขอย้ำว่าคนทั่วไปไม่เคยมองว่าผู้บริหารกรมราชทัณฑ์มีศักดิ์ศรี เพราะไม่เคยปรากฏว่าคุกไทยเคยขังนักการเมืองที่เป็นนายกรัฐมนตรีผู้โกงบ้านกินเมืองได้เลยสักคน แม้อดีตนายกรัฐมนตรี
ผู้ต้องคดีโกงบ้านเมืองกลับมาเมืองไทย แต่กลับปรากฏว่าคุกของกรมราชทัณฑ์ไม่มีปัญญาขังอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ถูกพิพากษาว่าโกงบ้านกินเมือง เพราะฉะนั้น จึงไม่ผิดที่มีเสียงครหาว่าคุกไทยมีไว้ขังหมาและคนไร้อำนาจการเมืองเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี