แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...■■ ไม่ว่าบัณฑิตจะประกอบกิจการงานสิ่งใดอยู่ ณ ที่ใดอันดับแรกควรตั้งเจตนาของตนไว้ให้มั่นคง ที่จะอบรมบำรุงกำลังกายกำลังใจให้เข้มแข็ง ไว้เป็นพลังและพื้นฐานอันหนักแน่นสำหรับการปฏิบัติบริหารงาน อันดับต่อไป ควรพยายามใช้หลักวิชา ความสุจริต และความฉลาดรอบคอบ เป็นเครื่องพิจารณาวินิจฉัยปัญหาและกรณีต่างๆ เพื่อให้งานทุกสิ่ง ทุกส่วนสำเร็จลุล่วงได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ข้อสำคัญ เมื่อทำงานร่วมกัน ควรพยายามนำความรู้ความคิดของแต่ละคนที่มีอยู่มาเชื่อมโยงประสานกันให้สอดคล้องและพร้อมเพรียง แล้วนำออกปฏิบัติด้วยเหตุผลและวิจารณญาณ ให้บรรลุผลที่สมบูรณ์แท้จริง ทั้งในการแก้ไขจุดบกพร่อง และการส่งเสริมจุดเด่นให้ยิ่งดีเด่นขึ้น... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 18 กรกฎาคม
2534)
...■■ มีการตั้งคำถามในหมู่สาธารณชนว่า เรายังเชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาล ชุดที่มี แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือ ที่ผ่านมานั้นสาธารณชนได้ประจักษ์แล้วว่าแพทองธารไม่มีความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินแม้แต่น้อย ดังนั้น จึงเกิดคำถามว่าเราจะต้องทนและยอมให้รัฐบาลเป็ดง่อยชุดนี้ทำหน้าที่บริหารประเทศไปอีกนานสักเพียงใด เราจะยอมให้รัฐบาลไร้คุณภาพ ไร้ประสิทธิภาพลากพาประเทศไปลงนรก กระนั้นหรือ
...■■ ที่ผ่านมานั้นประชาชนไม่พบว่าแพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีความกล้าหาญในการปกป้องพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประเทศ นอกจากนั้นยังไร้ความสามารถด้านการสื่อสารกับประชาชน หรือพูดชัดๆ คือ แพทองธาร พูดไม่รู้เรื่อง หากปล่อยให้รัฐบาลนี้บริหารประเทศต่อไป ก็ต้องลากพาคนไทยและประเทศไทยไปประสบหายนะอย่างแน่นอน เหตุที่ประชาชนวิตกกังวลมากมายถึงเพียงนี้ก็เพราะ ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลนี้จะแก้ปัญหาภาษีศุลกากรโดยโดนัลด์ ทรัมป์ ได้อย่างชัดเจน แต่ก็อ้างตลอดเวลาว่ากำลังเจรจากับสหรัฐฯ ถามว่าเจรจาอะไร เจรจาเรื่องอะไร แล้วเจรจาโดยใคร เจรจาเมื่อไร ซึ่งไม่มีคำตอบชัดเจนในเรื่องนี้แม้แต่น้อย
...■■ นอกจากประชาชนไม่มีศรัทธาต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังไร้ศรัทธากับคณะรัฐมนตรีอีกด้วย เพราะประจักษ์แล้วว่าคณะรัฐมนตรีไม่มีความสามารถในการทำงาน โดยเฉพาะรัฐมนตรีในกระทรวงด้านเศรษฐกิจ ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้แม้แต่เรื่องเดียว ส่วนรัฐมนตรีด้านความมั่นคงก็ไร้เดียงสา ไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้ประเทศได้ แถมล่าสุดยังปล่อยให้กัมพูชาแสดงอาการราวกับว่าเอาเท้าลูบหน้ารัฐบาลไทยได้อีกด้วย แต่ที่มากกว่านั้นคือประชาชนเชื่อว่ารัฐบาลไม่มีความโปร่งใส ไม่สะอาด แถมยังส่อไปในทางทุจริต อย่างเช่น การที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปอังกฤษและโมนาโก โดยไม่มีเหตุผล แถมยังเดินทางแบบมีลับลมคมใน มีสิ่งซ่อนเร้น สิ่งที่กล่าวมาโดยสังเขปนี้คือเครื่องยืนยันความไร้ประสิทธิภาพของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่ประชาชนทุกคนต่างรับรู้ได้ตรงกัน
...■■ สาธารณชนไม่ตื่นเต้นและไม่มีความหวังใดๆ กับการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดนี้ ต่อให้ปรับอีกกี่ครั้งก็ไม่มีวันทำให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพดีขึ้น เพราะมันก็แค่เปลี่ยนตำแหน่ง โดยไม่เปลี่ยนตัวคน
...■■ ถามตรงๆ ว่าก็ในเมื่อคนคนเดิมที่เป็นรัฐมนตรีอยู่ในกระทรวงหนึ่ง ซึ่งทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถูกสับเปลี่ยนไปอยู่อีกกระทรวงหนึ่ง ถามว่าคนไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีคุณภาพจะเปลี่ยนตัวเองเป็นรัฐมนตรีที่มีคุณภาพในการทำงานได้หรือ ยกตัวอย่างง่ายๆ ชัดๆ การเปลี่ยนเอาตัวรัฐมนตรีหน้าเดิมๆ ที่เคยถูกวางไว้ในตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปไว้ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อสังคมฯ แล้วจะทำให้บริหารงานในกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดีขึ้นอย่างไรมิทราบ หรือการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ ไปไว้กระทรวงมหาดไทย แล้วย้ายรัฐมนตรีมหาดไทยไปไว้กระทรวงศึกษาธิการ ถามย้ำว่าการสลับคนที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีความสามารถไปไว้อีกกระทรวงหนึ่ง จะทำให้งานของกระทรวงดีขึ้นหรือ หากคนมันดีจริงแล้ว ทำไมต้องโยกย้ายมันให้เสียเวลาทำงาน แต่หากคนมันไม่ดี ไม่มีความสามารถ ต่อให้มันได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี มันก็ไม่มีปัญญาบริหารราชการแผ่นดินให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองได้ เพราะฉะนั้น การย้ายคนหน้าเดิมๆ แต่สลับเก้าอี้รัฐมนตรีก็จึงไม่ได้ทำให้ประเทศเจริญขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้นแต่ประการใด แต่มันคือการสลับสับเปลี่ยนกันไปหากินเลี้ยงกระเพาะตัวเองในกระทรวงต่างๆ เท่านั้น
...■■ ฮุนเซน ที่คนทั้งโลกรู้ว่าคือนายกรัฐมนตรีตัวจริงของกัมพูชากล่าวหาไทยบุกรุก รุกรานกัมพูชา และกล่าวหาว่าทหารไทยยิงทหารกัมพูชาก่อนเรื่องนี้ ฮุนเซน ต้องการประจานไทยด้วยคำเท็จ จึงมีคำถามว่าแพทองธารเกรงกลัว หรือเกรงอกเกรงใจฮุนเซนมากจนไม่กล้าชี้แจงตอบโต้เรื่องนี้หรือ หรือแพทองธารยอมรับคำกล่าวประณามจากฮุนเซน ส่วนเรื่องที่แพทองธารอ้างว่าไทยเน้นสันติวิธี เน้นการเจรจา ต้องบอกว่าการอ้างเช่นนั้นเป็นเรื่องดีงามและประเสริฐ แต่ถามว่าแล้วแพทองธารในฐานะนายกรัฐมนตรีไทยไม่เดือดร้อนบ้างเลยหรือกับการที่กัมพูชารุกรานเขตอธิปไตยของไทย ด้วยการขุดคูเลตล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย 150 เมตร แล้วทำไมไม่ตอบโต้เรื่องคำอ้างของฮุนเซนที่ตู่ว่าศาลาจตุรมุขเป็นของกัมพูชา ทำไมแพทองธารเงียบหงอยไม่ตอบโต้เรื่องคำโกหกของฮุนเซน ถามย้ำว่าแพทองธารกลัวฮุนเซนมากจนไม่กล้าปกป้องอธิปไตยของไทยหรือ
...■■ วันนี้เวลานี้ สหรัฐฯ ได้เข้าสู่ห้วงเวลาของความปั่นป่วนจนเกือบจะเรียกได้ว่าโกลาหล เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง ซึ่งเป็นสมัยสุดท้ายของชีวิตทรัมป์ ความโกลาหลที่ว่านั้นคือคำสั่งประธานาธิบดีที่ห้ามนักศึกษาต่างชาติที่สอบเข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เข้าไปศึกษาต่อ โดยสหรัฐฯ ไม่ออกวีซ่านักศึกษาให้ แล้วขณะเดียวกันก็ออกประกาศห้ามนักท่องเที่ยวจาก 12 ประเทศเข้าสหรัฐฯ คือ อัฟกานิสถาน เมียนมา ชาด คองโก เอริเทรีย ไฮติ อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน เยเมน และอีเควทอเรียล กินี และยังมีอีก 7 ประเทศ ที่ถูกห้ามในบางส่วน คือ คิวบา บุรุนดี ลาว เซียรา ลีโอน โตโก เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา ข้ออ้างในการห้ามเข้าประเทศที่ทรัมป์อ้างคือเพื่อป้องกันอันตรายให้สหรัฐฯ ที่จะเกิดจากคนต่างชาติที่จะเข้าไปก่อเหตุร้ายในชาติของเรา
...■■ เมื่อทรัมป์แสดงความเสียสติได้ถึงเพียงนี้ ก็ทำให้มีคำถามว่า แล้วคนอเมริกันจะปล่อยให้ทรัมป์ทำลายความเป็นอเมริกันได้อีกนานแค่ไหน แน่นอนว่าตามกฎหมายแล้วต้องทนไปจนกว่าทรัมป์จะหมดอำนาจ คืออีกประมาณ 3 ปีเศษนับจากนี้ แต่คำถามคือแล้วจะปล่อยให้ทรัมป์ทำความเดือดร้อนกับประชาคมโลก และกับชาวอเมริกัน ได้นานถึงเพียงนั้นจริงๆ หรือ ไม่มีวิธีใดทางกฎหมายที่จะทำให้ทรัมป์ลงจากบัลลังก์แห่งอำนาจได้ก่อนครบวาระเลยกระนั้นหรือ
...■■ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ หดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ดังมีข้อยืนยันจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่าเพราะภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนและราคาสินค้าเพิ่มขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ จึงทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดลง และคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงานจะเข้าสู่ภาวะที่เลวร้ายกว่าเดิม แล้วยังพบด้วยว่าธุรกิจหลายอย่างไม่เก็บสต๊อกสินค้าราคาแพงไว้อีกต่อไป เพราะไม่สามารถแบกรับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นได้ ทั้งนี้เป็นเพราะภาษีศุลกากรที่กำหนดโดยทรัมป์คือตัวต้นเหตุของปัญหา ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจการค้า ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาสินค้าและบริการอันจะนำไปสู่ปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต...■■
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี